xs
xsm
sm
md
lg

โอ้วว..เวียดนาม “ประกาศรับสมัคร” รัฐมนตรี!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#009966ff> นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง พบหารือข้อราชการกับ ปธน.สหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ที่ทำเนียบไว้ท์เฮ้าส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากการค้ากับการลงทุนแล้ว ความร่วมมือด้านการศึกษาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สองฝ่ายลงนามในความตกลงความร่วมมือระหว่างกันในการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำเวียดนามครั้งนี้ (ภาพ: AFP) </FONT> </CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการเวียดนามได้ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเฟ้นคนดีมีความสามารถ มีคุณวุฒิ และ มีประสบการณ์เพียงพอ เข้ารับผิดชอบการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ

เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศรับสมัครตำแหน่งระดับอธิบดีกรม ผู้อำนวยการกอง หรือกระทั่งหัวหน้าแผนกสำคัญต่างๆ ในกระทรวงศึกษาฯ เป็นการภายในมาแล้ว โดยจะต้องผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กระทรวง จัดทำขึ้น และมีคณะกรรมการอิสระพิจารณา

สื่อทางการเวียดนามพากันแซ่ซ้องวิธีคิดและวิธีปฏิบัติใหม่ของกระทรวงศึกษาฯ ในการคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพสูงไปพัฒนาการศึกษาของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดกำลังใจแก่บุคคลากรที่มีความสามารถ เกิดความฮึกเหิมในการรับใช้สังคมและประชาชน

แต่การประกาศรับสมัครในตำแหน่งระดับรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการเปิดกว้างในด้านการคัดเลือกทรัพยากรบุคคลในระดับรัฐบาล ตามนโยบายเปิดกว้างของพรรคคอมมิวนิสต์

ในคณะรัฐบาลปัจจุบันมี “บุคคลภายนอก” ที่ไม่เคยมีตำแหน่งใดๆ ในพรรคคอมมิวนิสต์และในรัฐบาลมาก่อนอย่างน้อย 2 นาย เป็นรัฐมนตรีว่าการกับรัฐมนตรีช่วยว่าการอยู่แล้ว แต่ทั้งสองนายได้แสดงความสามารถให้สังคมได้ประจักษ์มาเป็นเวลานานก่อนหน้านี้

ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง รมช.จะรับผิดชอบในด้าน การพัฒนาการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับความร่วมมือระหว่างประเทศ สื่อของทาง
การกล่าว

การรับสมัครบุคคลเข้าเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ ประกาศครั้งแรกในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาบนเว็บไซต์ของรัฐบาล ต่อมามีการประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์และติดประกาศตามสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ที่ประเทศ โดย ศ.ดร.เหวียนเทียนเญิน (Nguyen Thien Nhan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (Tien Phong) หรือ “ผู้บุกเบิก” รัฐมนตรีช่วยว่าการคนปัจจุบันคือ นายเจิ่นวันญุง (Tran Van Nhung) จะเกษียณอายุในเดือน ต.ค.ศกนี้

ผู้สมัครเป็น รมช.คนใหม่ต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ อายุไม่เกิน 55 ปีสำหรับบุรุษและไม่เกิน 50 ปีสำหรับสตรี มีสุขภาพดีและมีวุฒิการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต ผู้สมัครยังจะต้องใช้ภาษาต่างประเทศได้อย่างชำนาญอย่างน้อย 1 ภาษา แต่กระทรวงต้องการภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ

คุณสมบัติสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ควรจะเป็นบุคคลที่กำลังอยู่ในตำแหน่งระดับประธานคณะกรรมการปกครองจังหวัด หรืออำเภอ หรือเคยดำรงตำแหน่งระดับนี้ในอดีต หรือไม่ก็เป็นหรือเคยเป็นระดับผู้บริหารนโยบายในวิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถาบันหรือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาฯ

ผู้สนใจจะต้องส่งประวัติส่วนตัวทางไปรษณีย์พร้อมผลงานเป็นหลักฐานประกอบ ไปยังคณะกรรมการกิจการพลเรือนของกระทรวงศึกษาฯ ภายในวันที่ 5 ก.ค.ศกนี้

นายแกว๊กต๋วนหง็อก (Quach Tuan Ngoc) หัวหน้าแผนกงานเทคโนโลยีสารสนเทศของกระทรวงศึกษาฯ กล่าวว่ารัฐมนตรีว่าการ ได้แจ้งประกาศรับสมัครงานชิ้นนี้ไปยังสถาบันการศึกษาทุกระดับ รวมทั้งสำนักงานคณะปกครองจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

นายบุ่ยแม็งหญิ (Bui Manh Nhi) อธิบดีกรมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กระทรวงศึกษาฯ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ใช้วิธีสรรหาในการคัดเลือกบุคคลากรระดับหัวหน้าหน่วยงานด้านการเรียนการสอนและการบริหารการศึกษา แต่ไม่มีการประกาศรับสมัครออกสู่บุคคลภายนอก
<CENTER><FONT color=#009966ff>  นักศึกษาเวียดนามจำนวนมากกำลังร่ำเรียนอยู่ในสหรัฐฯ ทั้งด้วยทุนของตัวเองและโดยทุนของรัฐบาล ปีสองปีมานี้เวียดนามเร่งปรับปรุงระบบการศึกษาในประเทศอย่างขนานใหญ่ </FONT> </CENTER>
มีผู้ยื่นใบสมัครจำนวน 8 ราย คณะกรรมการของกระทรวงชุดหนึ่งได้คัดเลือกเอาไว้จำนวน 2 รายในรอบสุดท้าย ในที่สุดก็ได้เลือก ดร.ฟั๊มแม็งหุ่ง (Pham Manh Hung) อดีตรองผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยถายงเวียน (Thai Nguyen) เข้ารับตำแหน่งอันสำคัญนี้ นายหญิงกล่าว

เวียดนามกำลังเร่งพัฒนาระบบการศึกษายกใหญ่ในทุกระดับ หลังจากปี 2550 มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสอบไล่ปลายภาคไม่ผ่านกว่า 400,000 คน หรือคิดเป็นกว่า 30% ของจำนวนทั้งหมด

แต่ผลการสิบปี 2551 ในเดือน มิ.ย.นี้ พบว่า จำนวนนักเรียนที่สอบตกลดลงเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของปีที่แล้วคิดเป็นประมาณไม่ถึง 20%

เวียดนามกำลังเร่งผลิตบุคคลกรระดับปริญญาเอกในด้านต่างๆ ให้ได้ 20,000 คนภายในปี 2563 โดยร่วมมือกับหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ อังกฤษและญี่ปุ่นด้วย ในปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ที่จะมีมาตรฐานต่างๆ ระดับสากล

รัฐบาลประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าจะต้องมีสถาบันอุดมศึกษาในประเทศอย่างน้อย 1 แห่งติดอันดับมหาวิทยาลัย “ท็อปเท็น” ในเอเชียในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) สัปดาห์ที่แล้วสองฝ่ายได้ลงนามในความตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาด้วย

ตามรายงานของสื่อทางการ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ดของสหรัฐฯ กำลังให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยจำนวน 2 แห่งให้มีมาตรฐานทุกอย่างระดับนานาชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น