ผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการเวียดนามได้ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเฟ้นคนดีมีความสามารถ มีคุณวุฒิ และ มีประสบการณ์เพียงพอ เข้ารับผิดชอบการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศรับสมัครตำแหน่งระดับอธิบดีกรม ผู้อำนวยการกอง หรือกระทั่งหัวหน้าแผนกสำคัญต่างๆ ในกระทรวงศึกษาฯ เป็นการภายในมาแล้ว โดยจะต้องผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กระทรวง จัดทำขึ้น และมีคณะกรรมการอิสระพิจารณา
สื่อทางการเวียดนามพากันแซ่ซ้องวิธีคิดและวิธีปฏิบัติใหม่ของกระทรวงศึกษาฯ ในการคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพสูงไปพัฒนาการศึกษาของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดกำลังใจแก่บุคคลากรที่มีความสามารถ เกิดความฮึกเหิมในการรับใช้สังคมและประชาชน
แต่การประกาศรับสมัครในตำแหน่งระดับรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการเปิดกว้างในด้านการคัดเลือกทรัพยากรบุคคลในระดับรัฐบาล ตามนโยบายเปิดกว้างของพรรคคอมมิวนิสต์
ในคณะรัฐบาลปัจจุบันมี “บุคคลภายนอก” ที่ไม่เคยมีตำแหน่งใดๆ ในพรรคคอมมิวนิสต์และในรัฐบาลมาก่อนอย่างน้อย 2 นาย เป็นรัฐมนตรีว่าการกับรัฐมนตรีช่วยว่าการอยู่แล้ว แต่ทั้งสองนายได้แสดงความสามารถให้สังคมได้ประจักษ์มาเป็นเวลานานก่อนหน้านี้
ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง รมช.จะรับผิดชอบในด้าน การพัฒนาการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับความร่วมมือระหว่างประเทศ สื่อของทาง
การกล่าว
การรับสมัครบุคคลเข้าเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ ประกาศครั้งแรกในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาบนเว็บไซต์ของรัฐบาล ต่อมามีการประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์และติดประกาศตามสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ที่ประเทศ โดย ศ.ดร.เหวียนเทียนเญิน (Nguyen Thien Nhan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (Tien Phong) หรือ “ผู้บุกเบิก” รัฐมนตรีช่วยว่าการคนปัจจุบันคือ นายเจิ่นวันญุง (Tran Van Nhung) จะเกษียณอายุในเดือน ต.ค.ศกนี้
ผู้สมัครเป็น รมช.คนใหม่ต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ อายุไม่เกิน 55 ปีสำหรับบุรุษและไม่เกิน 50 ปีสำหรับสตรี มีสุขภาพดีและมีวุฒิการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต ผู้สมัครยังจะต้องใช้ภาษาต่างประเทศได้อย่างชำนาญอย่างน้อย 1 ภาษา แต่กระทรวงต้องการภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ
คุณสมบัติสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ควรจะเป็นบุคคลที่กำลังอยู่ในตำแหน่งระดับประธานคณะกรรมการปกครองจังหวัด หรืออำเภอ หรือเคยดำรงตำแหน่งระดับนี้ในอดีต หรือไม่ก็เป็นหรือเคยเป็นระดับผู้บริหารนโยบายในวิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถาบันหรือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาฯ
ผู้สนใจจะต้องส่งประวัติส่วนตัวทางไปรษณีย์พร้อมผลงานเป็นหลักฐานประกอบ ไปยังคณะกรรมการกิจการพลเรือนของกระทรวงศึกษาฯ ภายในวันที่ 5 ก.ค.ศกนี้
นายแกว๊กต๋วนหง็อก (Quach Tuan Ngoc) หัวหน้าแผนกงานเทคโนโลยีสารสนเทศของกระทรวงศึกษาฯ กล่าวว่ารัฐมนตรีว่าการ ได้แจ้งประกาศรับสมัครงานชิ้นนี้ไปยังสถาบันการศึกษาทุกระดับ รวมทั้งสำนักงานคณะปกครองจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
นายบุ่ยแม็งหญิ (Bui Manh Nhi) อธิบดีกรมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กระทรวงศึกษาฯ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ใช้วิธีสรรหาในการคัดเลือกบุคคลากรระดับหัวหน้าหน่วยงานด้านการเรียนการสอนและการบริหารการศึกษา แต่ไม่มีการประกาศรับสมัครออกสู่บุคคลภายนอก
มีผู้ยื่นใบสมัครจำนวน 8 ราย คณะกรรมการของกระทรวงชุดหนึ่งได้คัดเลือกเอาไว้จำนวน 2 รายในรอบสุดท้าย ในที่สุดก็ได้เลือก ดร.ฟั๊มแม็งหุ่ง (Pham Manh Hung) อดีตรองผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยถายงเวียน (Thai Nguyen) เข้ารับตำแหน่งอันสำคัญนี้ นายหญิงกล่าว
เวียดนามกำลังเร่งพัฒนาระบบการศึกษายกใหญ่ในทุกระดับ หลังจากปี 2550 มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสอบไล่ปลายภาคไม่ผ่านกว่า 400,000 คน หรือคิดเป็นกว่า 30% ของจำนวนทั้งหมด
แต่ผลการสิบปี 2551 ในเดือน มิ.ย.นี้ พบว่า จำนวนนักเรียนที่สอบตกลดลงเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของปีที่แล้วคิดเป็นประมาณไม่ถึง 20%
เวียดนามกำลังเร่งผลิตบุคคลกรระดับปริญญาเอกในด้านต่างๆ ให้ได้ 20,000 คนภายในปี 2563 โดยร่วมมือกับหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ อังกฤษและญี่ปุ่นด้วย ในปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ที่จะมีมาตรฐานต่างๆ ระดับสากล
รัฐบาลประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าจะต้องมีสถาบันอุดมศึกษาในประเทศอย่างน้อย 1 แห่งติดอันดับมหาวิทยาลัย “ท็อปเท็น” ในเอเชียในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) สัปดาห์ที่แล้วสองฝ่ายได้ลงนามในความตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาด้วย
ตามรายงานของสื่อทางการ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ดของสหรัฐฯ กำลังให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยจำนวน 2 แห่งให้มีมาตรฐานทุกอย่างระดับนานาชาติ