ผู้จัดการออนไลน์ -- สื่อของทางการพม่า กล่าวประณามสถานีวิทยุของต่างชาติที่ได้วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไซโคลนนาร์กีสของรัฐบาลทหาร โดยกล่าวว่าผู้ประกาศข่าวทางวิทยุเป็นเสมือนศัตรูที่เป็นภัยร้ายแรงยิ่งกว่าพายุ
“ขณะนี้พายุสงบได้ลง แต่อย่างไรก็ตาม ศัตรูที่ร้ายกาจมากกว่าพายุนั้นได้เผยออกมาแล้ว” นิวไลต์ออฟเมียนมาร์ หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทหารพม่ากล่าว
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ กล่าวต่อว่า “ถึงเวลาที่สถานีวิทยุต่างชาติรวมทั้งผู้ที่รู้เห็นเป็นใจจะได้รู้ว่าการปลุกปั่นและการโฆษณาชวนเชื่อนั้นไม่ก่อให้เกิดผลดีใดๆ ทั้งสิ้น และพวกเขาควรที่จะหยุดการเผยแพร่ข่าวที่ไม่มีมูลเหตุจากความเป็นจริงเสียที”
พม่าได้กล่าวโจมตีสื่อต่างประเทศสำหรับการรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ไซโคลนซึ่งพัดเข้าถล่มระหว่างวันที่ 2-3 พ.ค.จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายกว่า 133,000 ราย
องค์การสหประชาชาติ หรือ UN กล่าวว่า มีประชาชนกว่า 2.4 ล้านคน ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และแม้ว่าจะมีการรับปากจากผู้นำคณะทหารพม่าซึ่งยินยอมให้ทีมช่วยเหลือจากภายนอกเข้าไปในพื้นที่ภัยพิบัติได้ แต่จนขณะนี้ยังคงมีเหยื่อพายุกว่า 1 ล้านคนที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ
พม่าได้ปฏิเสธความช่วยเหลือที่ลำเลียงมาโดยกองเรือรบจากต่างชาติ โดยไม่ยอมรับสิ่งของบรรเทาทุกข์รวมทั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ทั้งจากกองเรือรบสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ
หนังสือพิมพ์นิวไลต์ออฟเมียนมาร์ ยังได้ประณามประเทศตะวันตกที่ยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อไป แม้จะเกิดเหตุการณ์พายุพัดถล่มก็ตาม โดยกล่าวว่ากฎเกณฑ์ต่างๆ ถูกต่างชาติกำหนดขึ้นมา ด้วยความจงใจที่จะบ่อนทำลายความสามัคคีของชาติ
“ดูเหมือนพวกเขาคิดว่าพม่าจะยอมอ่อนข้อให้เมื่อเศรษฐกิจของประเทศล้มละลาย...ชาติมหาอำนาจตะวันตกควรจะรับรู้ว่าการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อพม่านั้นไม่ได้ผล” หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว
สหรัฐฯ และประชาคมยุโรปได้ดำเนินการคว่ำบาตรต่อพม่ามาเป็นเวลานานติดต่อกันหลายปี หลังจากที่พม่าล้มเหลวในกระบวนการปฏิรูปไปสู่ประชาธิปไตย รวมทั้งการยืดเวลาในการกักบริเวณนางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยออกไปอีก 1 ปี
เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ต่ออายุการคว่ำบาตรพม่าออกไป แต่ยังยืนยันว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแต่อย่างใด