ผู้จัดการออนไลน์-- นายพลหญิงแห่งกรมสารวัตรตำรวจกัมพูชาเตลิดหนีเข้าไทย หลังถูกระบุว่าเป็นตัวการอยู่เบื้องหลังสาดน้ำกรดญาติของนางงามที่ตัวเองหลงรัก เจ้าตัวรับติดพันสวาทกับสาวงาม แต่ปฏิเสธไม่ได้อยู่เบื้องหลังศึกน้ำกรด
นับเป็นกรณีล่าสุดที่มีการใช้น้ำกรดทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง ที่มักจะเกี่ยวพันกับกรณีชิงรักหักสวาท หลังจากห่างเหินไปนานหลายปี
พลจัตวาหญิงเจียรัฏฐา (Chea Ratha) ได้ปฏิเสธข้อหาดังกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากสถานที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์แคมโบเดียเดลี
นายพลหญิงซึ่งมีบุคลิกออกไปทางบุรุษเพศ ตัดผมสั้น สวมเสื้อยืดและสวมกางเกงมากกว่ายูนิฟอร์มข้าราชการหญิง กล่าวว่าตนเองตัดสินใจเข้าประเทศไทยหลังจากทราบว่า ในพนมเปญมีการออกหมายจับ ทั้งนี้เพื่อให้มีอิสรภาพระหว่างเตรียมตัวต่อสู้คดี
พล.จ.รัฏฐา ถูกปลดจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการกรมสารวัตรทหาร กองทัพกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากการสอบสวนสืบสวนพบว่าพัวพันกับกับกรณีสาดน้ำกรดล่าสุดน้าสาวของ อิน โสกลีดา (In Soklyda) เทพีการท่องเที่ยวกัมพูชา (Miss Tourism Cambodia 2007)
ในการให้สัมภาษณ์คราวเดียวกันนี้นายพลหญิงยอมรับว่า มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสาวสวยจริง แต่ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการสาดน้ำกรดน้าสาวของเธออย่างเด็ดขาด
หลักฐานที่กรมพระธรรมนูญกองทัพมีอยู่ในมือนั้น ยังรวมทั้งบันทึกฉบับหนึ่งซึ่งนายพลหญิงเขียนถึงสาวโสกลีดา โดยระบุว่าจะขออยู่กินเป็นคู่ชีวิตกับเธอตลอดไป
นายพลรัฏฐาบอกกับแคมโบเดียเดลีว่า ได้จับเครื่องบินเดินทางไปจีนตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. เพื่อไปตรวจรักษาอาหารป่วยเกี่ยวกับตับ จากนั้นก็เดินทางเข้าไทยเมื่อทราบว่าศาลกรุงพนมเปญได้ออกหมายจับ
เมื่อหลายปีก่อนมีสาวงามที่เป็นนักร้องนกแสดง หรือสาวงามจากการประกวดเวทีต่างๆ หลายคนถูกสาดน้ำกรดให้เสียโฉมไปอย่างที่ไม่มีใครทราบสาเหตุ เป็นที่สะเทือนใจของคนทั้งสังคม แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้แม้แต่รายเดียว
สื่อในประเทศนี้รายงานว่า เหยื่อน้ำกรดส่วนใหญ่มักจะพัวพันกรณีชู้สาวกับนักการเมือง นายตำรวจหรือนายทหารใหญ่ และต้องตกที่นั่งลำบากเมื่อหลังบ้านของบุคคลเหล่านั้นเริ่มรู้ระแคะระคาย.