xs
xsm
sm
md
lg

เขมรไปโลด..ทำรถกระเช้าขึ้นเขาพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#990099>หลังจากศาลโลกที่กรุงเฮกตัดสินได้ไม่นานราชอาณาจักรกัมพูชาก็ได้จัดเฉลิมฉลอง การกลับคืนของปราสาทพระวิหาร บนยอดเขา </FONT></CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์-- ทางการกัมพูชาได้เปิดเผยแผนการก่อสร้างสร้างรถกระเช้านำท่องเที่ยวขึ้นไปเขาพระวิหารบนยอดผา เพื่อลดการพึ่งพาทางขึ้นจากไทย เชื่อตะวันตกแห่ไปเที่ยวกันจม พร้อมเปิดแผนสร้างสนามบินแห่งใหม่ ใกล้เพียง 30 กิโลเมตร

เป็นที่คาดกันหมายกันมาก่อนว่า ทางการกัมพูชาอาจจะหาทางออกด้วยวิธีนี้หลังจากผู้นำรัฐบาลคือ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน (Samdach Aka Moha Sena Padei Decho) กล่าวหาประเทศไทยมาหลายครั้งว่ามักจะปิดๆ เปิดๆ ทางขึ้นในฝั่งไทยตามอำเภอใจ

ศาสตราจารย์เฮงโซ้ท (Heng Sot) ผู้อำนวยการองค์การแห่งชาติพระวิหาร หรือ PVNA (Preah Vihear National Authority) เปิดเผยเรื่องนี้สัปดาห์ที่แล้ว โดยกล่าวว่าบริษัทจากอินเดียแห่งหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการสร้างรถกระเช้าลอยฟ้าในเวียดนาม กำลังเจรจาเข้าลงทุนในโครงการเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศให้เป็นเขตการท่องเที่ยวแห่งใหม่

ศ.เฮงโซ้ทกล่าวอีกว่า ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้โครงการนี้เรียบร้อยแล้ว และ กลุ่มผู้ลงทุนได้เข้าไปดูสถานที่เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อกำหนดจุดสร้างสถานีรถกระเช้าลอยฟ้า ขึ้นสู่หน้าผาที่อยู่สูงจากพื้นไปราวครึ่ง กม. อันเป็นที่ตั้งของปราสาทพระวิหารอายุ 1,000 ปี
<CENTER><FONT color=#990099> สมเด็จนโรดมสีหนุเสด็จทรงเป็นองค์ประธานการเฉลิมฉลองครั้งประวัติศาสตร์ <FONT></CENTER>
บริษัทดังกล่าวยังจะลงทุนสร้างสนามบินบนพื้นที่ขนาดกว้าง 5 กม.และยาวอีก 5 กม. ห่างจากเขาพระวิหารออกไป 32 กม. และตัดถนนอีกสายหนึ่งขนาดกว้าง 10 เมตร ระยะทางราว 2,400 เมตรไปสู่สถานีรถกระเช้า ศ.โซ้ทเปิดเผยเรื่องนี้กับหนังสือพิมพ์แม่โขงไทมส์

โครงการนี้จะเกิดขึ้นแน่นอน หากการเจรจาระหว่างกลุ่มผู้ลงทุนกับรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายโสกอาน (Sok An) มีผลออกมาทางบวก

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวที่ไม่ให้เปิดเผยชื่อบอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า บริษัทจากอินเดียมีแผนการจะลงทุนในโครงการเขาพระวิหารถึง 600 ล้านดอลลาร์

บรรดาบริษัทนำเที่ยว สมาคมการท่องเที่ยวในกัมพูชาต่างแสดงความยินดีปรีดา เพราะว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังเฟื่องฟู และไม่ต้องพึ่งพาทางขึ้นในประเทศไทยอีกต่อไป

<CENTER><FONT color=#990099> ภาพประวัติศาสตร์สมเด็จนโรดมสีหนุเสด็จขึ้นไปยังปราสาท ตามทางเดินลัดเลาะตามไหล่เขาซึ่งบางช่วงต้องไต่บันไดขึ้นไปตามความสูงชัน ทางขึ้นนี้ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน แต่อีกไม่นานก็จะไม่ต้องปีนแล้ว <FONT></CENTER>
อย่างไรก็ตามในอนาคตเมื่อมีการก่อสร้างรถกระเช้าแล้ว "เราหวังว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะขึ้นไปชมพระวิหารจากทางฝั่งกัมพูชา"
นายหอ วันดี (Ho Vandi) ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทนำเที่ยวกัมพูชา (Cambodia Association of Travel Agents) กล่าวว่าปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารเพียงวันละ 300-400 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ขึ้นไปจากฝั่งไทย

ส่วน ศ.เฮงโซ้ท กล่าวว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะเพิ่มถึง 6 เท่าตัว เมื่อก่อสร้างถนนและรถกระเช้าเสร็จ ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในดินแดนกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับดินแดนพิพาทกับประเทศไทย

กัมพูชาอยู่ระหว่างดำเนินการนำปราสาทพระวิหารเข้าจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยอ้างว่าเป็นการจดทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ไม่ได้เกี่ยวกับกินแดนโดยรอบที่ยังมีกรณีพิพาทกับไทย
<CENTER><FONT color=#990099> เมื่ออยู่โดดเดี่ยวบนผาสูงครึ่งกิโลเมตรก็ต้องทำรถกระเช้าขึ้นไป ไม่ต้องพึ่งพาทางขึ้นทางฝั่งไทยอีก <FONT></CENTER>
แต่ในรายงานของ PVNV ที่เปิดเผยเมื่อต้นปีนี้แสดงให้เห็นว่า บริเวณมรดกโลกพระวิหารนั้นยังรวมทั้ง “ดินแดนรอบๆ” หลายตารางกิโลเมตร ยังไม่นับผืนดินเบื้องล่างอีกนับหมื่นเฮกตาร์ หรือนับแสนไร่ที่ประกาศเป็นเขตเดียวกัน

ตามข้อมูลที่ยังคงสับสนโดยสื่อในกัมพูชา ประเทศไทยกำลังพยายามขอจดทะเบียนดินแดนโดยรอบปราสาทพระวิหารในส่วนของไทยให้เป็นดินแดนในเขตมรดกโลกเช่นเดียวกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น