xs
xsm
sm
md
lg

สาวพันธุ์แกร่ง..กุหลาบไฟแห่งฟลอเรอัล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099>เรือฟลอเรอัล (Floreal) มองเห็นแต่ไกล ขณะเคลื่อนผ่านเมืองปากน้ำ มุ่งสู่ท่าเรือคลองเตย </FONT> </CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์-- เรือตรวจการณ์ฟลอเรอัล (Floreal) เข้าจอดเทียบที่ท่าเรือคลองเตยเมื่อวันพุธ (16 เม.ย.) พร้อมกับทหารหญิงจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่างไปจากการเยือนครั้งก่อน และ ยังนับเป็นครั้งแรกที่เรือรบฝรั่งเศสมาแวะเยือนประเทศไทยพร้อมกับนักรบหญิง

ภายใต้ร่มธงแถบน้ำเงิน ขาว แดง หญิงสาวต่างเชื้อชาติได้เคียงไหล่กับบุรุษในหน้าที่ต่างๆ ขณะเดินทางรอนแรมข้ามมหาสมุทรเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร ท่ามกลางพายุ คลื่นลมแรงและภยันตรายแห่งท้องทะเล

เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวว่า การเข้าทำหน้าที่ของหญิงสาวเหล่านี้ ได้ช่วยยืนยันในเรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศในด้านต่างๆ รวมทั้งในการป้องกันประเทศด้วย

ผู้สื่อข่าวและช่างภาพโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์กว่า 20 ชีวิตได้รับเชิญให้ขึ้นไปเยี่ยมชมเรือฟลอเรอัล ระหว่างแวะมาเยือนมิตรภาพประเทศไทยเป็นเลา 4 วัน จนถึงวันที่ 20 เดือนนี้

แม้ว่าบนดาดฟ้าอากาศจะร้อนจัด แต่แขกที่ไปเยือนหายเหนื่อยแบบปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของจ่าตรีเบน เคลิฟา (T. Ben Khelifa) เจ้าหน้าที่หมวดพลาธิการ ซึ่งนำน้ำดื่ม น้ำส้ม กาแฟและขนมไปให้บริการกับทุกคน
<CENTER><FONT color=#660099>มองเห็นเต็มๆ ลำ ขณะเคลื่อนเข้าใกล้กองกำกับการตำรวจน้ำสมุทรปราการ </FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>แล่นช้าๆ ผ่านธงไตรรงค์ของเรือตำรวจน้ำ</FONT> </CENTER>
"หวังว่าเธอคงไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวบนเรือลำนี้นะ เธอต้องทำกับข้าวเลี้ยงดูคนอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า? " ผู้สื่อข่าวยิงคำถามด้วยความพาซื่อ ตรงไปตรงมา

"มันแปลกอย่างไรหรือ? อ๋อ..ไม่ๆ.. กุ๊กของที่นี่เป็นผู้ชาย" อาแลง กาวิญเญ่ (Alain Gavillet) ผู้ช่วยทูตฝ่ายหนังสือพิมพ์สถานทูตฝรั่งเศสกล่าว และ ยังสำทับด้วยว่า "เธอเป็นทหาร"

"เธอมาจากอัลจีเรีย" เจ้าหน้าที่คนเดียวกันพูดถึงจ่าเคลิฟา

ต่างไปจากในบางประเทศ ผู้ที่จะเป็นทหารได้จะต้องมีเชื้อชาติอันเป็นสายตรงเท่านั้น แต่สำหรับฝรั่งเศส การป้องกันประเทศเป็นทั้งสิทธิและหน้าที่ของทุกคนที่อยู่ใต้ร่มธงผืนเดียวกัน ไม่ว่าเขาหรือเธอจะอยู่ในยุโรปหรือในดินแดนอันไกลโพ้น
<CENTER><FONT color=#660099>ลูกเรือกำลังรอรับผู้ไปเยือนที่จุดสูงสุดของฟลอเรอัลมีความสูงเพียง 43 เมตรเท่านั้น</FONT> </CENTER>
"ไม่มีการแบ่งแยกเรื่องเพศเรื่องผิวบนเรือลำนี้ ทุกคนทำหน้าที่เหมือนกันหมด" นายทหารคนหนึ่ง แทรกขึ้นมาระหว่างสนทนาอย่างออกรส ขณะที่ฟลอเรอัลเคลื่อนไปข้างหน้า เตรียมเข้าจอดเทียบในเวลา 9 นาฬิกาเศษ ท่ามกลางเปลวแดดแผดจ้าและลมร้อนผะผ่าว

ขณะที่จ่าเคลิฟาช่วยขจัดความกระหายให้แก่ผู้ไปเยือน ทหารหญิงอีกคนกำลังช่วยกลาสีกลุ่มหนึ่งเก็บข้าวของอยู่บนชั้นดาดฟ้า คล้ายๆ กับกำลังจัดเตรียมอะไรบางอย่าง

ในเวลาต่อมาทหารหญิงคนหนึ่ง ในเครื่องแบบทหารเรือเต็มยศ ถือปืนกลมือ เข้าทำหน้าที่ในหมู่ทหารเกียรติยศ เพื่อต้อนรับการเยือนของเจ้าหน้าที่ไทยและเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นายนายโลรองต์ บีลี่

นักข่าวหญิงจากสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งออกอาการตื่นเต้น เมื่อได้ทราบว่า 1 ใน 2 นักบินเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือเป็นนักบินหญิง ผู้หมวดผ่านการฝึกมาอย่างโชกโชน เพื่อให้สามารถบังคับ NH90 "แพนเซอร์" (Panther) ออกปฏิบัติการได้ในทุกสภาพภูมิอากาศ..
<CENTER><FONT color=#660099>จ่าเคลิฟากับน้ำดื่มผสมรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนหายเหนื่อย</FONT> </CENTER>
"ฟลอเรอัล" มีความหมายอย่างตรงไปตรงมาว่า "เดือนแห่งดอกไม้" เป็นเรือลาดตระเวนลำแรกในจำนวน 6 ลำที่สั่งต่อคราวเดียว และ ตั้งชื่อตามเดือนสำคัญต่างๆ ในช่วงหลังการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส เป็น 1 ใน 5 ลำที่ถูกส่งออกประจำการโพ้นทะเล น.อ.โอลิวิเยร์ มูลเล็ค (Olivier Moullec) ผู้บังคับการเรือกล่าว

พิธีต้อนรับการเยือนจัดขึ้นง่ายๆ ที่บริเวณคลังสินค้า โดยผู้แทนผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพฯ เป็นผู้มอบพวงมาลัยแก่ผู้บังคับการเรือฟลอเรอัล อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ จากนั้นเจ้าของบ้านได้รับเชิญขึ้นเรือเพื่อเยี่ยมชม

ฟลอเรอัลเคยมาแวะเยือนสันถวะไมตรีประเทศไทยครั้งก่อนหน้านี้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนั้นไม่ได้มี "กุหลาบไฟ" มาด้วย..
<CENTER><FONT color=#660099>เธอเป็นชาวแอลจีเรีย.. ใครก็ตามที่อยู่ภายใต้ร่มธงเดียวกันล้วนมีหน้าที่ป้องกันชาติ</FONT> </CENTER>
ไกลออกไปจากท้ายเรือ บนดาดฟ้าด้านหน้าเหนือที่ติดตั้งปืนใหญ่ 100 มม. มีทหารสวมชุดพราง สวมแว่นกันแดด สะพายปืนกลยืนประจำการอยู่ที่ตรงนั้น 1 นาย ด้วยท่าทีแข็งขัน

นอกจากผมที่รวบและรัดไว้ด้านหลังแล้ว ไม่มีอะไรอื่นที่บ่งบอกว่านั่นคือ นักรบหญิง

"ขอโทษครับ คุณเป็นทหาร คุณประจำหน่วยรบใช่ไหม?" เราตรงดิ่งเข้าหาและยิงคำถามอย่างเกรงใจ เพราะเธอกำลังปฏิบัติหน้าที่

"ใช่ค่ะ" หญิงแกร่งแห่งฟลอเรอัลตอบสั้นๆ ด้วยสุ้มเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลระรื่นหู ซึ่งตรงข้ามกับบุคลิกอันแข็งขัน ขณะสะพายปืนกลมือบนไหล่
<CENTER><FONT color=#660099>นักบินชายของ NH90 แพนเซอร์ (Panther) </FONT> </CENTER>
"จอยซ์" (ซึ่งเป็นชื่อที่เราเรียกเอาเอง) ทำหน้าที่อารักขาประจำจุดที่ตั้งปืนใหญ่ ขณะที่นักรบชายอีกหลายคนกำลังอำนวยความปลอดภัยให้กับแขกระหว่างการเยือนครั้งนี้

"คิดถึงบ้านมั๊ย? เพราะต้องออกทะเล ต้องรอนแรม ห่างไกลจากฝรั่งเศสเป็นเวลานานๆ"

"นี่คือบ้านค่ะ ทำงานที่นี่ นอนที่นี่ และกินอยู่ที่นี่" จอยซ์ตอบเป็นภาษาอังกฤษ

เธอบอกว่ารู้สึกโชคดีมากที่เป็นหนึ่งในบรรดาหญิงเหล็ก 10 คน ที่ได้มีโอกาสประจำการบนเรือฟลอเรอัล ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อปี 2549 ก่อนหน้านั้นการออกลาดตระเวนน่านน้ำเป็นเรื่องของผู้ชายมาตลอด
<CENTER><FONT color=#660099> และ..นักบินหญิงเหล็กกำลังเพลินกับความสวยงามสองฝั่งลำน้ำเจ้าพระยา  <FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>กุหลาบไฟ..กับมุมสงบในยามที่ปฏิบัติงานในหน้าที่แล้วเสร็จ</FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>ข้อความข้างหลังเสื้อ Marine Nationale เป็นแรงดึงดูดอันสำคัญให้สตรีฝรั่งเศสจำนวนมากเข้าร่วมภารกิจป้องกันประเทศ</FONT> </CENTER>
"ได้กลับฝรั่งเศสบ้างไหม?"

"กลับค่ะ กลับไปตอนก่อนจะออกลาดตระเวนเที่ยวนี้ และจะได้หยุดอีกครั้งหลังปฏิบัติงานเที่ยวนี้เสร็จ" จ๊อยซ์บอกกับเราเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่ง แต่ด้วยท่าทีที่ร่าเริง

เราสนทนากับจ๊อยซ์อยู่ที่นั่นเป็นเวลานานหลายนาที จนกระทั่งฟลอเรอัลลงสมอและเข้าสู่พิธีต้อนรับ เธอบอกกับเราในนาทีสุดท้ายว่า ว่ารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นกรุงเทพฯ เสียที หลังจากอ่านมานานในนิตยสารท่องเที่ยว

เรือฟรอเรอัลประจำอยู่ที่เกาะเรอูนิยง (Reunion) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับเกาะมาดากัสการ์ (Madagascar) ก่อนหน้านี้ได้ไปแวะเยือนออสเตรเลีย กับเมืองดาเวา (Davao) ในภาคใต้ฟิลิปปินส์ ก่อนจะตรงดิ่งมากรุงเทพฯ
<CENTER><FONT color=#660099>นักรบชายจำนวนหนึ่งแข็งขันอำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ไปเยือนบนฟลอเรอัล</FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>เมื่อมองจากระยะไกล นอกจากผมที่รวบมัดเอาไว้ข้างหลังแล้ว ไม่มีอะไรอื่นที่บ่งบอกว่าเธอเป็นนักรบหญิง</FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>จ๊อยซ์ ภูมิใจที่ได้เป็น 1 ใน 10 หญิงเหล็กแห่งฟลอเรอัล</FONT> </CENTER>
ฟลอเรอัลยังจะต้องเดินทางอีกยาวไกล จากคลองเตยตรงดิ่งไปยังโกตากินาบาลู (Kota Kinabalu) ในมาเลเซีย กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ก่อนจะวกไปยังสิงคโปร์ ไปเกาะปีนังและมุ่งหน้าไปยังดินแดนดิเอโกการ์เซีย (Diego Garcia) มอริเชียส (Mauritius) บนเส้นทางกลับฐานที่ตั้ง

ปลายสัปดาห์ก่อนนี้เรือรบฝรั่งเศสอีกลำหนึ่งเพิ่งไปแวะเยือนเมืองท่าสีหนุวิลล์ (Sihanoukville) ในกัมพูชา เรือฝรั่งเศสได้ตระเวนเยือนประเทศในคาบสมุทรอินโดจีนบ่อยครั้งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เช่นเดียวกับเรือรบสหรัฐฯ และอินเดีย

การเยือนไทยของฟลอเรอัลเที่ยวนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีโดยเรือรบฝรั่งเศส น.อ.มูลเล็คกล่าว

ฟลอเรอัลมีความยาวตลอดลำ 93.50 เมตร กว้างสุด 14 เมตร สูง 43 เมตร มีน้ำหนักสูงสุดได้ 2,950 ตัน ความเร็วสูงสุด 20 นอต บรรทุกลูกเรือรวม 92 คน สามารถออกปฏิบัติการภารกิจอเนกประสงค์ติดต่อกันเป็นเวลานาน 50 วัน
<CENTER><FONT color=#660099>ท่อยิงขีปนาวุธเอ็กซ์โซเซต์ MM38 หนึ่งในสองท่อ เขี้ยวเล็บที่น่าเกร็งขามของเรือ เดือนแห่งดอกไม้ </FONT> </CENTER>
นับเป็นเรือรบลำที่ 3 ที่ใช้ชื่อนี้ ลำแรกเป็นเรือปืนเข้าประจำการเมื่อกว่า 200 ปีก่อน ถัดมาเป็นเรือดำน้ำซึ่งรับใช้นาวีฝรั่งเศสระหว่างปี 2450-2462

ชื่อไพเราะและอ่อนหวาน แต่ “เดือนแห่งเดอกไม้” ติดเขี้ยวเล็บพร้อมรบ รวมทั้งขีปนาวุธเอ็กโซเซต์ MM38 ซึ่งติดตั้งท่อยิงจำนวน 2 ท่อ มีปืนใหญ่ 100 มม. 1 กระบอก ปืนกลเล็กขนาด 20 มม. 2 กระบอก กับเฮลิคอปเตอร์ "แพนเซอร์" ที่ถูกออกแบบให้มีความคล่องตัวสำหรับภารกิจอเนกประสงค์

และสามารถออกปฏิบัติการได้แม้ในสภาพอากาศเลวร้ายที่สุด..โดยนักบินหญิง

"เดือนแห่งดอกไม้" ถูกนำเข้าประจำการในวันที่ 8 มี.ค. ซึ่งเป็น "วันสตรีสากล" เมื่อปี 2535 และ ในวันนี้ได้เป็นนาวีของสตรีเหล็กแห่งแดนน้ำหอม
<CENTER><FONT color=#660099>หมู่ทหารเกียรติยศของฟลอเรอัล เตรียมต้อนรับผู้ไปเยือน </FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>ทหารหญิงได้ร่วมทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้เช่นเดียวกัน </FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสรอลองต์ บีลี่ น.อ.มูลเล็ค ผู้บังคับการเรือ กับ น.อ.แอร์วาน ชาร์ลส์ ทูตทหารประจำประเทศไทย ระว่างการแถลงข่าว </FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>ปืน 100 มม.ของฟลอเรอัล อาวุธทุกชนิดทุกขนาดไม่บรรจุกระสุน อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ </FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099> อีกมุมหนึ่งของสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ความสวยงามที่ปากทางเข้าสู่กรุงเทพฯ </FONT> </CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099> ฟลอเรอัลจอดพักที่นี่ ก่อนจะออกเดินทางไกลอีกหลายพันกิโลเมตรกลับฐานที่ตั้งในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย </FONT> </CENTER>
“จำได้มั๊ยครับ.. เมื่อเกือบ 200 ปีก่อน เราเคยยิงเรือรบฝรั่งเศสที่ปากแม่น้ำแห่งนี้ แต่เราพ่ายอำนาจการยิง” เสียงหนึ่งสอดแทรกขึ้นมาหลังการแถลงข่าวที่จัดขึ้นบนชั้นดาดฟ้าผ่านไป ทำให้เสียงสนทนาเงียบลงเป็นเวลาสั้นๆ.. รอรับมุข

“วันนี้ทุกอย่างปลี่ยนไป เมื่อก่อนมีเสียงปืน วันนี้มีเสียงสลุต พวกเราได้จับมือกัน เรือฟลอเรอัลก็เต็มไปด้วยดอกไม้.. สงสัยเราจะพ่ายอีก..”


เสียงเดิมกล่าวตบท้าย ทำให้ผู้บังคับการเรือกับทูตทหารประจำประเทศไทย น.อ.แอร์วาน ชาร์ลส์ (Erwan Charles) ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น..

ขีปนาวุธเอ็กโซเซต์ได้ถูกนำเข้าประจำการในราชนาวีไทยมาร่วม 20 ปีแล้ว เช่นเดียวกันกับอากาศยานบางชนิดที่ผลิตจากประเทศนี้ ปัจจุบันกองทัพเรือฝรั่งเศสมีความร่วมมือช่วยเหลือฝ่ายไทยในหลายด้าน

เรือธงฝรั่งเศสอีกลำหนึ่งมีกำหนดเยือนกระชับสัมพันธ์กับไทย โดยแวะเยือนที่ฐานทัพเรือสัตหีบในเดือนข้างหน้านี้ ผู้บังคับการเรือฟลอเรอัลกล่าว.

กำลังโหลดความคิดเห็น