นายสม บิ๊ต (Sam Bith) อดีตผู้บัญชาการทหารท้องถิ่นเขมรแดง ที่ต้องรับผิดชอบต่อกรณีสังหารนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 3 คนเมื่อปี 2537 ได้เสียชีวิตลงในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยวัย 74 ปี หลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ ด้วยอาการความดันโลหิตสูง
นางเข็มรี (Khem Ri) ภรรยากล่าวว่า ก่อนถึงวาระสุดท้ายสามีของนางมีอาการทรุดๆ ทรงๆ ติดต่อกันมานาน 10 วัน
นายสมบิ๊ต ถูกศาลกัมพูชาตัดสินในปี 2545 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกับลูกน้องในอดีตลักพาตัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 3 คน คือ เดวิด วิลสัน ชาวออสเตรเลีย มาร์ค สเลเตอร์ ชาวอังกฤษ กับ ฌาน-มิเชล บราเกต์ ชาวฝรั่งเศส
อดีตนายพลเขมรแดงผู้นี้ถูกซัดทอดว่า เป็นผู้บงการให้สังหารนักท่องเที่ยวทั้งสาม
ทหารเขมรแดงกลุ่มนี้ได้เข้าโจมตีขบวนรถไฟจากกรุงพนมเปญที่มุ่งหน้าไปเมืองสีหนุวิลล์ เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวกัมพูชาเสียชีวิตรวม 13 คน
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้ง 3 คน ถูกลักพาตัวไปและมีการเจรจาเรียกค้าไถ่อยู่นาน 2 เดือน แต่ไม่สำเร็จจึงถูกฆ่าทิ้งที่เขาพนมวาว (Phnom Vao) จ.กัมโป้ท (Kampot)
นายสมบิ๊ต ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับการสังหารคนทั้งสาม อ้างว่าตอนที่เกิดเหตุนั้นกำลังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศไทย และนายพลพต (Pol Pot) หรือ "โปลโป้ท" อดีตผู้นำสูงสุดของเขมรแดงได้ปลดตนเองออกจากความรับผิดชอบไปนานแล้ว
นายโปลโป้ท เสียชีวิตลงในปี 2541 หลังจากถูกพวกเขมรแดงแปรพักตร์ที่นำโดยตาม๊อก (Ta Mok) จับกุม และถูกคุมขังไว้ระยะเวลาหนึ่ง
ระหว่างมีความพยายามรื้อฟื้นกรณีสังหารนักท่องเที่ยวนี้ สมบิ๊ต มีตำแหน่งเป็นนายพลคนหนึ่งในสังกัดกองทัพรัฐบาล ทำให้การดำเนินคดีถูกเหนี่ยวรั้ง ญาติๆ ของผู้ตายเดินทางไปยังกรุงพนมเปญหลายครั้ง และ ประชาคมระหว่างประเทศพากันกดดันรัฐบาลกัมพูชา
นายทหารเขมรแดงอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวพันกับกรณีสังหารโหดนี้ คือ นวนเพ็ต (Nuon Pet) กับ ชุกริน (Chhouk Rin) ก็ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ปัจจุบันคนหลังกำลังป่วยด้วยโรคเอดส์.