xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกพุ่ง 20% เวียดนามสวนกระแสสหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#3366FF> ภาพถ่ายวันที่ 16 ต.ค.2549 คนงานหญิงกำลังขมักเขม้นกับการตัดเย็บเสื้อในโรงงานการ์เมนต์แห่งหนึ่งชานกรุงฮานอย ยอดส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปเดือน ม.ค.ปีนี้พุ่งพรวด สวนกระแสเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุด (Reuters)</FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน—ในขณะที่หลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกกำลังหวั่นไหวต่อผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในสหรัฐฯ แต่เวียดนามกล่าวว่ามูลค่าส่งออกในเดือน ม.ค.จะขยายตัวเกือบ 20% เป็น 4,500 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าการส่งออกน้ำมันดิบจะลดลงอย่างมากก็ตาม


ตัวเลขส่งออกที่ขยายตัวอย่างสูงในเดือนแรกของปีนี้ ได้ทำให้เป้าหมายที่จะขยายมูลค่าการส่งออกให้ได้กว่า 58,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ยังมีความหวัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ตั้งเอาไว้อย่างทะเยอทะยาน 8.5-9.0%

อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนเดียวกันนี้ เวียดนามได้นำเข้าสินค้ามีมูลค่าถึง 5,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27% ทำให้การค้าเวียดนามเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการขาดดุลทันที 1,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นตัวเลขคาดการณ์ของสำนักงานใหญ่สถิติ (General Statistics Office) ที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (28 ม.ค.)

แต่ทางการกล่าวว่า ประเทศมีความจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนมากขึ้นทุกปี เพื่อนำไปผลิตสินค้าสำหรับส่งออก เพราะฉะนั้นการขาดดุลการค้าจึงไม่ได้สะท้อนปัญหาหรือความยากลำบากทางเศรษฐกิจใดๆ ทั้งสิ้น

นอกเหนือจากน้ำมันดิบซึ่งราคาในตลาดโลกพุ่งขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมาแล้ว สินค้าออกหลักตัวอื่นๆ ของเวียดนามล้วนมียอดเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เป็นรายงานของเวียดนามเอ็กซ์เพรส (VietnamExpress) สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามของทางการ

การส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ม.ค.มีมูลค่า 826 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราขยายตัวถึง 46.5% อันเนื่องมาจากราคาตลาดโลกที่สูงขึ้น แม้ว่าปริมาณส่งออกจะลดลง 12.7% เหลือเพียง 1.16 ล้านตัน เทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2550

รองลงไปเป็นการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์สิ่งทอมูลค่า 720 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 20.7% ขณะที่หมวดรองเท้ามีมูลค่า 400 ลดลง 5.4% กับหมวดอาหารทะเลมีมูลค่า 290 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 15.6% และการส่งออกกาแฟ 260 ล้านดอลลาร์ลดลง 25.8%

นอกจากนั้นยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่มีอัตราการขยายตัวระหว่าง 23.4-80% เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์ สายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล รวมทั้งยางพาราด้วย รายนการทั้งหมดนี้มีมูลค่าส่งออกรายการละ 65-200 ล้านดอลลาร์ วีเอ็นอีกล่าว

ในปี 2550 มูลค่าส่งออกของเวียดนามพุ่งขึ้นเป็นกว่า 48,000 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 20.5% จากปี 2549 และปีนี้ทางการตั้งเป้ามูลค่าส่งออกเอาไว้ที่ 58,600 ล้านดอลลาร์

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ผลักดันให้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าส่งออกพื้นฐานต่างๆ ขยายการผลิตสินค้าที่มูลค่าส่งออกสูง รวมทั้งสินค้ารายการต่างๆ ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เร่งขยายการส่งเสริมการค้าและขยายตลาดส่งออก วีเอ็นอีกล่าว

ขณะที่ส่งออกน้ำมันดิบน้ำมันดิบได้มากเป็นอันดับ 1 แต่ในช่วงเดือนเดียวกัน เวียดนามต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่างๆ รวมประมาณ 1 ล้านตัน มูลค่า 716 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.6% ในด้านปริมาณและ 61% ในด้านมูลค่า

ทางการกล่าวว่าปัญหานี้จะแก้ไขได้เมื่อโรงกลั่นน้ำมันยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) ใน จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ซึ่งเป็นแห่งแรกของประเทศเริ่มการผลิตได้ในปี 2552

ตัวเลขของสำนักงานใหญ่สถิติระบุว่า มูลค่าส่งอกทั้งหมดในเดือน ม.ค. ได้จากการส่งออกสินค้าที่ผลิตโดยบริษัทเวียดนามเอง 1,970 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16.6% และ จากสินค้าที่ผลิตจากการลงทุนของต่างประเทศอีก 2,500 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 22.3%

แต่ในขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตสินค้าของเวียดนามกลับเป็นผู้นำเข้ามากที่สุดมีมูลค่ารวมกัน 3,500 ล้านดอลลาร์ และ บริษัทลงทุนต่างชาตินำเข้าอีก 2,000 ล้านดอลลาร์

สินค้านำเข้าส่วนใหญ่ในเดือน ม.ค. เป็นวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการผลิตภายในประเทศ รวมเป็นมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 18.2% เทียบกับเดือน ม.ค.2550

อย่างไรก็ตามสำนักงานใหญ่สถิติ จะนำเสนอข้อมูลการส่งออกที่ครบถ้วนสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งในปลายสัปดาห์นี้ วีเอ็นอีกล่าว

ผู้ส่งออกในหลายประเทศกล่าวว่าได้รับสัญญาณถดถอยจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วและ ความปริวิตกในเรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งหลายฝ่ายกล่าวว่าอาจจะเป็นการจุดชนวนให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยไปทั่วโลก

แต่นักวิเคราะห์หลายรายกลับเห็นว่า ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบมากมายต่อเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในแถบเอเชีย รวมทั้งเวียดนามด้วย เนื่องจากประเทศแถบนี้ไม่ได้พึ่งพาสหรัฐฯ ทั้งหมด

รายงานของธนาคารโลกที่ออกเมื่อเร็วๆ นี้ ได้พยากรณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2551 ว่าจะมีอัตราขยายตัวราว 3.3% ต่ำกว่า 3.6% เมื่อปี 2550 เพียงเล็กน้อย

แต่ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เลวร้ายลงอีกจนกระทั่งกลายเป็นการถดถอยรุนแรง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนาในแถบเอเชียรวมถึงเวียดนามด้วย รายงานของแบงก์โลกระบุ

เศรษฐกิจของเวียดนามกำลังถูกรุมเร้าด้วยผลทั้งด้านบวกและด้านลบ ปี 2550 ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การเติบโตขยายตัว 8.44% ซึ่งเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่เงินเฟ้อก็สูงเป็นประวัติการณ์ 12.6% เป็นสองเท่าตัวจากเมื่อ 2549

การส่งออกปี 2550 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 48,300 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 12,400 ล้านดอลลาร์มากกว่าปีก่อน 1 เท่าตัว

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีที่แล้ว สะท้อนรายได้ต่อหัวประชากรต่อปี (per capita income) ที่เพิ่มขึ้นเป็น 833 ดอลลาร์ แต่ช่องว่างระหว่างความรวยกับความยากจนก็กำลังห่างกันออกไปอีก และเงินเฟ้อทำให้ประชาชน 85 ล้านคน ดำรงชีพด้วยความยากลำบาก

ทางการเวียดนามระบุว่า การลงทุนของต่างประเทศปี 2550 มีมูลค่าจดทะเบียนประมาณ 23,000 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 70% จาก 12,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ 13,000-14,000 ล้านดอลลาร์.
กำลังโหลดความคิดเห็น