xs
xsm
sm
md
lg

มื้อนี้หมดจาน!! กิจกรรม "วันอาหารโลก" สยามคูโบต้า x สสส. ย้ำความมั่นคงทางอาหาร ลด food waste

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลายสิบปีมานี้ “สยามคูโบต้า” ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ปูนใหญ่ SCG กับ คูโบต้า ประเทศญี่ปุ่น พยายามยกระดับภาคการเกษตรของไทย เพื่อรับมือกับปัญหาและอุปสรรครอบด้าน ภายใต้แนวคิด ‘Perform and Transform’ หรือการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน สู่ความยั่งยืนทางการเกษตรอย่างเป็นรูปธรรม

ภายใต้ 4 เสาหลักคือ 1. สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับเกษตรกร ขยายโซลูชัน Smart Farming 2. วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับอาเซียน รวมถึงพลังงานทางเลือกอย่างแทรกเตอร์ EV 3. ผลักดันแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ESG (Environmental สิ่งแวดล้อม, Social สังคม และ Governance ธรรมาภิบาล) และ 4. เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์)

การเปิดตัวกิจกรรม “มื้อนี้หมดจาน” อย่างเป็นทางการ ช่วงเช้าของวันที่ 2 ตุลาคม 2568 โดยร่วมมือกับพันธมิตรแถวหน้าอย่าง “กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” (สสส.) ที่เป็นตัวตั้งตัวตีรณรงค์ลดขยะอาหาร (Food Waste อาหารที่ถูกทิ้งเพราะไม่สามารถนำมาบริโภคได้อีก) อยู่ก่อนแล้ว จึงถือเป็น mix and match ความลงตัวที่ synergy กัน

(ซ้าย) รัชกฤต สงวนชีวิน ผู้จัดการฝ่าย Sustainability Development บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด  (ขวา) ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
๐ “สยามคูโบต้า” Road Ahead to Sustainability


From Farm to Table กว่าจะได้ข้าวแต่ละต้น ต้องผ่านหลายขั้นตอน ถึงจะแปลงร่างเป็นข้าวเม็ดสวยจัดใส่จาน “รัชกฤต สงวนชีวิน” ผู้จัดการฝ่าย Sustainability Development บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกว่า การทำธุรกิจที่อยู่กับอาชีพหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินของไทย มีแต่ความท้าทายเต็มไปหมด ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การพัฒนานวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ จึงเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เกษตรกรไทย และประเทศไทย ไม่หลุดจากเวทีการค้าโลก

สยามคูโบต้า ดำเนินธุรกิจหลักด้านการผลิต และจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น แทรกเตอร์ รถเกี่ยวข้าว และเครื่องจักรกลอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ (สยามคูโบต้า ลีสซิ่ง) เพื่อให้เกษตรกรเป็นเจ้าของเครื่องจักรได้ง่ายขึ้น และมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน

“ไทยมีศักยภาพด้านเกษตรกรรม เราปลูกผักเก่ง เลี้ยงสัตว์ก็ทำได้ดีมาก แต่จากนี้ไปเราจะก้าวข้ามอุปสรรคจากความมั่นคงทางอาหาร ไปสู่อาหารปลอดภัยได้อย่างไร”

สยามคูโบต้าจัดวาง 3 พันธกิจองค์กรให้สัมฤทธิ์ผลภายในปี 2030 คือ การทำธุรกิจที่มุ่งเน้นในเรื่องของอาหาร น้ำ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้ร่มใหญ่ของระบบนิเวศ ที่ครอบคลุมทุก loop ของภาคการเกษตร

กิจกรรม “มื้อนี้หมดจาน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญใหญ่ “Small Actions Change the World” จึงให้ข้าวเป็นตัวหลัก กินให้หมดจาน สำนึกในบุญคุณของข้าว ขณะเดียวกัน สยามคูโบต้าก็จะถอยย้อนกลับไปที่ต้นทางคือ วางต้นแบบการเพาะปลูกให้เต็มประสิทธิภาพ โดยใช้นวัตกรรม ใช้ AI ช่วยเพิ่มผลผลิต สร้างความอยู่ดีกินดีให้กับเกษตรกรยุคใหม่

๐ “สสส.” ทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่ดีมีสุข

“โลกเราไม่เท่าเทียม บางประเทศเหลือก็เหลือ บางประเทศขาดก็ขาด ทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่ดีมีสุข กินอยู่เสมอภาคกัน” ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผลักแนวคิดการโยกอาหารจากที่ “ด้อยค่า” ไปเป็น “มากค่า”

“ปัญหาขยะอาหารและอาหารส่วนเกิน เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก ปัจจุบันคนไทยสร้างขยะอาหารมากกว่า 9.68 ล้านตันต่อปี คนไทยหนึ่งคน สร้างขยะอาหารสูงถึง 146 กิโลกรัมต่อปี เฉพาะปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีขยะอาหารทั่วประเทศ 38% เฉพาะกรุงเทพฯ เป็นแหล่งใหญ่ของขยะอาหารมากถึง 49.1%”

สสส. บอกว่า ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลกระทบเต็มๆ ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำไปชะขยะที่ปนเปื้อน ทำให้แหล่งน้ำเน่าเสีย, กลิ่นขยะรบกวน และกองขยะกลายเป็นพื้นที่เพาะพันธุ์สัตว์พาหะนำโรค เป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบทางด้านสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งการก่อให้โรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคผิวหนัง และโรคติดเชื้อแบคทีเรีย

ที่ผ่านมา สสส. มุ่งขับเคลื่อนการลดขยะอาหาร และอาหารส่วนเกิน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ โดยตั้งเป้าจะลดขยะอาหารให้เหลือ 28% จากที่มีอยู่ตอนนี้ 38% ภายในปี 2570 ซึ่งจากการทดลองเก็บข้อมูลร้านอาหารใหญ่ๆ ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถลดไปแล้วได้ถึง 20% ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่ผู้ประกอบการเริ่มตระหนักถึงข้อดีของการบริหารจัดการอาหารและวัตถุดิบ ให้เพียงพอกับการใช้งาน หลีกเลี่ยงการทิ้งขว้างอย่างเปล่าประโยชน์

“ถ้าเราอยากทำจริง เราสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือภาคครัวเรือน แค่เราคิดว่า จะกินอะไร แล้วก็กินให้หมด ไม่ต้องตุนของ ไม่ต้องแช่ผักทิ้งนานๆ จนเน่าเสีย วัฒนธรรมเอเชียจะเห็นคุณค่าของอาหารการกิน เป็นจุดเปลี่ยนพฤติกรรม ที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ”

การสร้างความร่วมมือระหว่าง สสส. กับสยามคูโบต้า ผ่านกิจกรรม ‘มื้อนี้หมดจาน’ ถือเป็นอีกแรงสำคัญในการขยายผลสร้างความตระหนักรู้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ให้กับสังคมในวงกว้าง ส่งเสริมให้คนไทยเห็นคุณค่าของอาหาร สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ในทุกมื้อไปด้วยกัน” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวย้ำ


๐ กินข้าวหมดจาน ฉลองวันอาหารโลก 16 ต.ค. 68

สยามคูโบต้า ได้จัดกิจกรรม “มื้อนี้หมดจาน” จุดประกายการเปลี่ยนแปลงจากภายในองค์กร พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนภาคีเครือข่ายและพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ โดยตั้งเป้าให้พนักงานสยามคูโบต้า 3,374 คน ร่วมรับประทานอาหารหมดจานพร้อมกันในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เนื่องในวันอาหารโลก (World Food Day)

เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 1,300 กิโลกรัมคาร์บอน มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ปี 2573 และสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero Emission ปี 2593 โดยส่งเสริมการวางแผนการกินอย่างมีประสิทธิภาพไม่เหลือทิ้ง รวมถึงศึกษาแนวทางจัดการขยะอาหารไปทำ BioGas ในอนาคต โดยนำเศษผัก เศษผลไม้ ไปหมักด้วยจุลินทรีย์เพื่อแปลงเศษอาหารเป็น BioGas และนำกลับมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพในการประกอบอาหาร

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “มื้อนี้หมดจาน” ภายใต้แคมเปญ “Small Actions Change the World” ได้ง่ายๆ เพียงโพสต์รูปการรับประทานอาหารหมดจาน พร้อมติดแฮชแท็ก #มื้อนี้หมดจานกับคูโบต้า เพื่อแสดงพลังแห่งการเห็นคุณค่าอาหารทุกมื้อและร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจสู่สังคมกว้าง

ขณะเดียวกันยังสามารถแชร์มายัง https://smallactionbykubota.siamkubota.co.th เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนการกระทำเล็ก ๆ ให้เป็นพลังที่ส่งต่อได้จริง โดยการแชร์ 1 ครั้ง = สมทบทุน 20 บาท สยามคูโบต้าจะนำไปสมทบทุนให้กับ มูลนิธิ Scholars of Sustenance Foundation (SOS) เพื่อสนับสนุนผู้ขาดแคลนอาหารกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ออฟฟิเชียล Siam Kubota Club https://www.facebook.com/SiamKubotaClub