เช้านี้ (14 ม.ค. 68) พบฝุ่นพิษ PM 2.5 ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคกลาง มีค่าสูงอยู่ในระดับอันตรายต่อสุขภาพ (เมื่อเวลา 07.00น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 47.6 มคก./ลบ.ม.) ซึ่งกลับมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกินมาตรฐานระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 70 พื้นที่
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานว่าในช่วงวันที่ 14 - 22 ม.ค. 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน-ดี" ขณะที่มีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น ทำให้มลพิษทางอากาศสามารถแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสลับลดลง ช่วงละ 1-2 วัน โดยจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นก่อนแล้วจึงค่อยลดลง และจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตามลำดับ พร้อมคาดการณ์วันนี้อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
เหตุฝุ่นเกินมาตรฐาน! เพราะอากาศหนาวเย็นทำให้อากาศกดตัว ฝุ่นไม่ลอย
รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิชอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญงานวิจัย ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเกษตร โพสต์บนเพจ Witsanu
Attavanich ว่าสาเหตุหลักที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีฝุ่นสูงเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้อากาศกดตัว ฝุ่นไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ รวมถึง แหล่งกำเนิดในพื้นที่ยังคงปล่อยฝุ่นอย่างต่อเนื่อง (รถยนต์ รถบรรทุก โรงงานอุตสาหกรรม) และได้ฝุ่นเสริมมาจากการเผาในภาคเกษตรที่รายล้อมพื้นที่ จากภาพที่ 4 จะพบว่าฝุ่นในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ลอยมาจากพื้นที่แถบลุ่มเจ้าพระยาภาคกลางและภาคอีสานจากทิศทางของลม ส่วนภาพที่ 3 เป็นภาพจุดความร้อนที่เกิดจากการเผาในที่โล่งแจ้งซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคเกษตร สำหรับในภาคกลางฝุ่นหลักๆมาจากในพื้นที่โดยเฉพาะการเผาในภาคเกษตรที่เร่งตัวมากขึ้น
“กลุ่มเสี่ยง เด็ก คนสูงวัย และสตรีมีครรภ์ ควรงดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงนี้ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นอันตรายตั้งแต่ระดับสีส้มหรือสีแดงขึ้นไป ควรป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักด้วยความไม่ประมาท และรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ”
