xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มธุรกิจ TCP เร่งเครื่องสู่ Net Zero จัดงานประชุมด้านความยั่งยืนหนุนประเทศไทย ปลุกพลังร่วมเปลี่ยน “พันธสัญญา” สู่ “การปฏิบัติ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP
กลุ่มธุรกิจ TCP ปลุกพลังเสริมความร่วมมือกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จัดงานประชุมด้านความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Net Zero Transition...From Commitment to Action” หรือ “การเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero จากพันธสัญญา สู่การปฏิบัติ” ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เร่งลงมือหนุนประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero เพื่อวันที่ดีกว่า

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวถึงงานประชุมด้านความยั่งยืน TCP Sustainability Forum 2023 ว่า ใช้แนวคิด “การเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero จากพันธสัญญา สู่การปฏิบัติ” โดยเน้นความสำคัญของการลงมือปฏิบัติในแต่ละภาคส่วน ทั้งนักธุรกิจ นักคิด และนักปฏิบัติ ที่มาร่วมระดมสมองและแบ่งปันข้อมูลและแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนานวัตกรรม กลยุทธ์ ตลอดจนแผนงานการดำเนินธุรกิจเพื่อการเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต


“สำหรับกลุ่มธุรกิจ TCP โจทย์ของเราไม่ได้มองการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Net Zero เท่านั้น แต่ต้องการรวมพลังภาคส่วนต่างๆ เปลี่ยน “พันธสัญญา” ไปให้ถึงการ “ลงมือปฏิบัติ” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง มากกว่านั้นคือการสร้าง “อัตราเร่ง” โดยจากนี้ต้องมีความชัดเจนในการเดินทางไปสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ รวมถึงประเทศไทยที่ประกาศเป้าหมาย Net Zero ในปี 2065”

“โดยวิสัยทัศน์ของ TCP ในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero ในส่วนของธุรกิจคือการเปลี่ยน mindset เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจด้วยหลักยึด “เป็นตัวเราที่ดีกว่าเดิม” เราไม่ได้แข่งกับคนอื่น แต่เป็นการแข่งกับตัวเองเราพยายามมองหาจุดร่วมระหว่างสิ่งที่จะต้องเปลี่ยนและตัวเราว่าจะพาตัวเองไปในทิศทางไหน โจทย์คือทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตไปได้ ควบคู่กับการลดผลกระทบเชิงลบและเพิ่มผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้เป้าหมายใหญ่ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” โดยมีเป้าหมายย่อยและแผนงานรองรับ รวมถึงประเมินผลการทำงานและปรับทิศการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อการเปลี่ยนผ่าน”


นายสราวุฒิ กล่าวถึงการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจ TCP ตามแผนเดินหน้า “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ว่า ให้ความสำคัญกับการปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลัก โดยได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ได้แก่ 1) “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ภายในปี 2024 ตั้งเป้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดความหนาของกระป๋องอะลูมิเนียม การลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วและขวดพลาสติกเพื่อลดการใช้ทรัพยากร 2) “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 จากทุกกระบวนการทำงานในธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ 3) การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน: ตั้งเป้าลดการใช้ทรัพยากรน้ำและคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (Net Water Positive) ภายในปี 2030

“เชื่อว่างาน TCP Sustainability Forum 2023 จะปลุกพลังและเป็นแรงบันดาลใจในการลงมือทำ เพื่อให้เป้าหมายความยั่งยืนที่เรามีร่วมกันนั้นเป็นไปได้ และทันต่อการรับมือความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศที่เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก มาเริ่มกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อวันที่ดีกว่าไปด้วยกัน”


ทั้งนี้ การประชุม “TCP Sustainability Forum 2023” แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. การเปลี่ยนผ่านด้านความยั่งยืนของประเทศไทย: ปาฐกถาพิเศษ โดย ดร.วิรไท สันติประภพ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ภาพรวมสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือในการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ Net Zero ทั้งระดับนโยบาย และการปรับตัวของภาคธุรกิจและประชาชน

ดร.วิรไท กล่าวว่า “การทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในปัจจุบันต้องไม่มองแบบการทำ CSR ที่เราคุ้นเคยในอดีต เรื่องความยั่งยืนเป็นเรื่องกลยุทธ์ของธุรกิจ ต้องปรับรูปแบบการทำธุรกิจให้เท่าทันกับความท้าทายและความคาดหวังของสังคม ไม่เบียดเบียนสังคม และสร้างปัญหาให้กับคนรุ่นต่อไป ธุรกิจใดที่ทำเรื่องความยั่งยืนได้เป็นรูปธรรมจะเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันได้เหนือคู่แข่งแบบ “ธุรกิจชนะและสังคมวัฒนา” ไปพร้อมกัน ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจที่ไม่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนอย่างจริงจังจะเปิดความเสี่ยงทางธุรกิจหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ หรือความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ”

ดร.วิรไท สันติประภพ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์
2.มุมมองเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม (Climate Positive): วงเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจหมุนเวียน แนวทางการปรับตัวขององค์กรและภาคธุรกิจจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านได้อย่างไร จากนายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจTCP, นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มมิตรผล และนายธนวงษ์ อารีรัชชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC พร้อมด้วยปาฐกถามองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กฎระเบียบการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ โดยดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

3.ความท้าทายในการขับเคลื่อนให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม (Climate Positive) ในประเทศไทย: เท่าทันความท้าทายต่างๆ ที่จะต้องเผชิญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยจากผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน ได้แก่ ประเด็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Impact) โดย ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ประธานมูลนิธิโลกสีเขียว อัปเดต 3 วิกฤตหลักที่โลกกำลังเผชิญเรียนรู้แบบจำลองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สร้างผลกระทบต่อประเทศไทย และรับฟังแนวทางที่ประเทศไทยจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ตามด้วย ประเด็น "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับสถานการณ์น้ำในประเทศไทย" โดย ผศ. ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังอุทกภัยเพื่อนพึ่งภาฯ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองอนาคตของสถานการณ์น้ำเอลนีโญและผลกระทบจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมรับฟังแนวการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการปรับตัวรับมือความเสี่ยง สำหรับภาคเอกชน

ปิดท้ายด้วย วงเสวนาเรื่อง "ความท้าทายในการขับเคลื่อนให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม (Climate Positive) ในประเทศไทย" อภิปรายถึงสถานการณ์เศรษฐกิจหมุนเวียนโอกาสและอุปสรรคสำหรับประเทศไทยในปัจจุบันแลกเปลี่ยนเรื่องกลไกคาร์บอนเครดิต โมเดลนำร่องเศรษฐกิจหมุนเวียนและบทเรียนจากพื้นที่ที่ใช้คาร์บอนเครดิตในงานพัฒนา โดย ดร.ธนพงศ์ ดวงมณี ผู้อำนวยการด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์, ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัย สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนางสาวสุปราณี กำปงซัน หัวหน้าแผนงานประเทศไทยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN)




กำลังโหลดความคิดเห็น