แบรนด์ยักษ์อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นอย่าง “โตโยต้า” ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายใต้ภารกิจ Toyota Environmental Challenge 2050 ซึ่งสนับสนุน 7 เป้าหมายของ SDGs แสดงให้เห็นการมองแนวโน้มในการพัฒนา SDGs แบบก้าวกระโดดของโตโยต้านับจากนี้
ปีที่ผ่านมาจวบจนถึงปีนี้ ยังเป็นปีแห่งความยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์ชั้นนำของโลก เนื่องจากผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการที่ประเทศจีนเริ่มใช้อำนาจการผูกขาดในการส่งออกแร่หายากที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ จนส่งผลกระทบถึงรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกตามไปด้วย ทำให้มูลค่าแบรนด์รถยนต์ 68 แบรนด์จาก 100 แบรนด์ชั้นนำของโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลดลงของแบรนด์รถยนต์ในระบบนิเวศแบรนด์ของโลก
ปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาเพิ่มขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ปัญหาภาวะโลกร้อน จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่สนับสนุนให้เกิดการปรับตัวในรูปแบบการขนส่งทางเลือก อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อสินเชื่อรถยนต์ รวมถึงราคาน้ำมันที่มีความผันผวน และรถยนต์รุ่นใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงขึ้น
การศึกษาผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์แบรนด์ระดับโลกอย่างโตโยต้า พบว่า ได้กำหนดเป้าหมายจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาที่ยั่งยืนตาม SDGs ขององค์การสหประชาชาติ ด้วยเห็นความจำเป็นในการที่อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประชาคมโลกเผชิญอยู่ การที่เรียกว่า Toyota Environmental Challenge 2050 สนับสนุน 7 เป้าหมายของ SDGs
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างอุตสาหกรรมครัวเรือน หรืออุปโภคบริโภคทั่วไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างกรณีของบริษัทโตโยต้า คือ กิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์มีลักษณะของการพัฒนาแบบวิวัฒนาการ
- ก้าวไปทีละก้าวอย่างมั่นคง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม การค้นหาวิธีการใหม่ๆ และสร้างสรรค์ในการเปลี่ยนแปลง
- นำสิ่งที่พัฒนาและคิดค้นได้แบ่งปันความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวกสูงสุดกับกิจการในห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าของกิจการ
- เสริมสร้างความร่วมมือกับซัปพลายเออร์ ตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนพันธมิตรในภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมกันดำเนินการในสิ่งที่เป็นภารกิจยิ่งใหญ่ และร่วมในการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน
เอกสารหลักฐานที่มีความชัดเจน ถึงการที่โตโยต้ามีส่วนร่วมในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ภายใต้ ภารกิจ Toyota Environmental Challenge 2050 กระจายออกไปตามฐานการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าในภูมิภาคต่างๆ อย่างเช่นเครือข่ายของโตโยต้าในอเมริกาเหนือ มุ่งเน้นกิจกรรมโตโยต้าที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อมในด้านคาร์บอน ทรัพยากรน้ำ วัสดุ และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 7 คือรับประกันการเข้าถึงพลังงานด้วยราคาต่ำ เชื่อถือได้ อยู่บนแนวคิดความยั่งยืน ผ่านการจัดการพลังงานสะอาด การจัดเก็บพลังงาน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของแบตเตอรี่ที่อายุการใช้งานสูง การเก็บไฮโดรเจนแบบอยู่กับที่ ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมโยง การใช้พลังงานสะอาดกับการจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ขอบเขตของการดำเนินการดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่การขับเคลื่อนในระดับของโรงงานผลิต ออกไปจนถึงศูนย์กระจายสินค้า สำนักงานขาย ซัปพลายเออร์ ผ่านการใช้พลังงานในการขับเคลื่อนธุรกิจ และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียนเป็นองค์ประกอบของกลยุทธ์ด้านการลดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากเป้าหมายดังกล่าวแล้ว เป้าหมายที่น่าสนใจของโตโยต้าอีกเป้าหมายหนึ่ง คือเป้าหมายที่ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ด้านความปลอดภัย ความยั่งยืน โดยเน้นการเปลี่ยนสังคมเมืองที่มีมลภาวะทางอากาศเป็นปัญหาหลัก ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองต้องหายใจอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ หรือต่ำกว่ามาตรฐาน โดยใช้มาตรฐานการขนส่งที่ยั่งยืน ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการขับขี่
อย่างเช่นในอเมริกาเหนือ โตโยต้าสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ทีมมั่นใจว่าไม่ปล่อยมลพิษมีเพียงนามเท่านั้น นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮโดรเจนรุ่นแรกของบริษัทที่ขายในตลาดแคลิฟอร์เนีย ควีเบก และบริติซโคลัมเบีย รวมทั้งรถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน สำหรับปฏิบัติการที่ท่าเรือลอสแอนเจลิส เพื่อให้ยานพาหนะเหล่านี้ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์