กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)(GC) จับมือหน่วยงานภาครัฐจังหวัดระยอง ชุมชนตำบลเนินฆ้อและตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero และการปล่อยปูแสม เพื่อส่งเสริมอาชีพ และคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนท้องถิ่นระยอง ภายใต้โครงการ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี”
โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาการอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GC พร้อมทั้งผู้บริหาร ชุมชนในพื้นที่ และพนักงานจิตอาสาร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ณ พื้นที่ตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาการอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ทช. ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาวิกฤตโลกร้อน และส่งเสริมแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต เป็นหนึ่งในแนวทางที่ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่ความรับผิดชอบของกรมฯ ที่ถูกบุกรุกหรือเสื่อมโทรมให้กลับคืนสภาพเป็นป่าชายเลนที่มีระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์ รวมถึงการผลักดันทุกภาคส่วนในการร่วมแก้ไขปัญหา เร่งฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม และการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อให้เป็นแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังควบคุม กำกับ ดูแล และติดตามการดำเนินงานโครงการฯ การยื่นคำขอขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และการยื่นคำขอรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก หรือ คาร์บอนเครดิต
ทช. และ GC ร่วมมือกับชุมชนตำบลเนินฆ้อและตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน และวางแผน ต่อยอดขยายผลไปยังพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตราด และเพชรบุรี รวมกว่า 3,400 ไร่ ทั้งนี้ เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ นอกจากจะทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลนแล้ว จะสามารถสนับสนุนงาน อาชีพ และเศรษฐกิจที่แข็งแรงให้กับชุมชนด้วย
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) กล่าวว่า GC มีความมุ่งมั่นพร้อมสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน (Chemistry for Better Living) มีแผนงานที่ชัดเจนในการลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20% ภายในปี 2030 และพร้อมเดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2050 ในฐานะพลเมืองโลกเราต้องการส่งต่อโลกใบนี้ ที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป การปลูก ฟื้นฟู และรักษาป่าร่วมกับภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นแนวทางการจัดหาคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่บริษัทฯ ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2013 โดยปัจจุบันได้ดำเนินงานไปแล้วในพื้นที่กว่า 6,000 ไร่
สำหรับโครงการนี้ GC มีการดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จังหวัดระยอง ตราด จันทบุรี และเพชรบุรี จำนวนทั้งหมดประมาณ 3,500 ไร่ คาดการณ์ว่าจะช่วยลดคาร์บอนได้ประมาณ 23,700 ตัน CO2e ต่อปี นอกจากนี้ เรายังมีกิจกรรมปล่อยปูพันธุ์แสม ณ สะพานรักษ์แสม เพื่อเพาะพันธุ์ปูในพื้นที่อนุบาล ช่วยส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชาวประมงในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตชุมชนอีกด้วย
โครงการนี้สำเร็จด้วยดีเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และเมื่อการดำเนินการโครงการในพื้นที่ของทช. แล้วเสร็จ จะสามารถสร้างให้เกิดประโยชน์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังประโยชน์ในการสร้างให้เกิดงาน อาชีพ และเศรษฐกิจชุมชนที่แข็งแรงในอนาคตต่อไป