“เจียไต๋” ผู้นำธุรกิจเกษตร เดินหน้าสร้างแบรนด์ “ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์)” รุกธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตร มุ่งเปลี่ยนแปลงวงการเกษตรไทยใน 3 มิติ พร้อมแก้ปัญหาสำคัญด้านการเกษตรของประเทศไทยใน 3 ประเด็นหลัก
ดร.วัลลภัช แก้วอำไพ ประธานบริหารด้านกลยุทธ์องค์กร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากจะผลักดันให้เจียไต๋ยืนหยัดอย่างมั่นคงในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรมายาวนานกว่าศตวรรษ ยังทำให้เจียไต๋สามารถคงความเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจด้านปัจจัยการผลิตซึ่งเป็นธุรกิจแรกเริ่ม ไปพร้อมๆ กับการพัฒนากลุ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม New S-Curve คือ ธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตร หรือ AgTech ที่ได้มีการเปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภค และในศตวรรษใหม่นี้ เจียไต๋ได้ปรับจากการเป็น “Input Provider” สู่การเป็น “Solution Provider” โดยนำเสนอโซลูชั่นทางการเกษตร เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการใหม่ๆ ภายใต้ “ฟาร์มอินโน” (ไทยแลนด์) แบรนด์ธุรกิจใหม่ ซึ่งมี “โดรนเพื่อการเกษตรและโรงเรือนอัจฉริยะ” เป็นสินค้าเทคโนโลยีที่โดดเด่นและทันสมัย
เจียไต๋มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ เพื่อรับมือและแก้ปัญหาสำคัญด้านการเกษตรของประเทศไทยใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. Climate Change สภาพอากาศแปรปรวนที่ส่งผลกระทบในระดับโลก ซึ่งประเทศไทยเพิ่งจะผ่านปรากฏการณ์ลานีญา และกำลังเผชิญกับปรากฎการณ์แอลนีโญ ที่จะเกิดต่อเนื่อง 7 ปี ตั้งแต่ 2023 ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยฝนตกน้อย นำมาซึ่งความแห้งแล้งและส่งผลต่อภาคการเกษตรโดยตรง
2. Food Security ความมั่นคงทางอาหารที่นานาประเทศกำลังให้ความสำคัญ เป็นความเสี่ยงต่อเนื่องจากภาวะความแปรปรวนของสภาพอากาศ ซึ่งเมื่อผนวกรวมกับปัจจัยอื่นๆ ยิ่งส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรของไทยตกต่ำและอาจสั่นคลอนต่อความมั่นคงทางอาหารได้ นอกจากนี้ การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงในไทยยังมีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับการเพาะปลูกพืชทั่วไป จึงจำกัดขีดความสามารถของไทยในการแข่งขันในระดับภูมิภาค
3. Aging Society ปัญหาอายุเฉลี่ยของแรงงานภาคการเกษตรไทยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในอนาคตการเกษตรไทยจะขาดแคลนแรงงานที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้ “ธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตร” (AgTech) ภายใต้แบรนด์ "ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์)" ของเจียไต๋ ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงให้วงการเกษตรไทย เปลี่ยนจาก “เกษตรแบบยังชีพ” สู่ “เกษตรแบบมืออาชีพ” ใน 3 มิติ ดังนี้
1) Precision Agriculture การเกษตรแม่นยำ เช่น การปลูกข้าว นอกจากโซลูชั่นในการปลูกข้าวแล้ว เจียไต๋นำเสนอการใช้โดรนเพื่อการเกษตรเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการพ่นและการหว่าน โดยสามารถวิเคราะห์และพ่นเฉพาะจุดที่ต้องการได้ พร้อมทั้งการวิเคราะห์และสำรวจพื้นที่แปลงในรูปแบบของ Smart Cultivation ผสานการใช้ Automation ต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ เทคโนโลยีโรงเรือนอัจฉริยะยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเพาะปลูกได้ด้วยระบบต่างๆ ภายในโรงเรือน อาทิ ระบบให้น้ำให้ปุ๋ย และระบบสแลนพรางแสง เป็นต้น
2) Protected Agriculture การเกษตรแบบป้องกันด้วยโรงเรือนอัจฉริยะ สามารถปกป้องพืชผลและควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด รวมถึง การใช้ IoT เพื่อประเมินสภาพอากาศ โรคพืช และความเสี่ยงต่างๆ
3) Productive Agriculture เพิ่มผลิตผลทางการเกษตรผ่านการส่งมอบองค์ความรู้ด้านการใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชและโซลูชั่นต่างๆ อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และปลอดภัย ให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกิด Green Agriculture และClean Technology ตอบโจทย์เกษตรปลอดภัยอย่างยั่งยืน
“การพลิกโฉมวงการเกษตรไทยด้วยเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart agriculture ยังส่งผลในมิติสังคม โดยจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของอาชีพเกษตรกรรมให้เห็นว่าเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงและมีรายได้เหมาะสม การเป็น Smart farmer ดึงดูดให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับงานด้านการเกษตร สามารถสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกร ก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนความมั่นคงทางอาหารซึ่งไม่เพียงประเทศไทยจะได้ประโยชน์ แต่ยังขยายผลไปในระดับโลกได้อีกด้วย” ดร.วัลลภัช กล่าวทิ้งท้าย
อ่าน Green Innovation&SD ฉบับ PDF สแกน QR Code