เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายธฤติ ประสานสอน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ดร.ภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา และคณะทำงานโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน ณ โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม อำเภอ อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า จากการติดตามความก้าวหน้าโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน (Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farming) โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่องแห่งที่ 4 ที่ได้มีการติดตามจากทั้งหมด 6 แห่ง ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ในการสร้างองค์ความรู้ทางด้านเกษตรกรรม โดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐาน เข้ามาใช้ประโยชน์ ในภาคการเกษตร หรือเรียกว่า Coding For Farm ซึ่งโรงเรียนอมก๋อยวิทยาคมเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จอย่างชัดเจน ในการสร้างองค์ความรู้ให้แก่นักเรียน ตั้งแต่กระบวนการคิด วางแผน และลงมือทำอย่างเป็นระบบ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ให้เกิดเป็นทักษะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ศูนย์การเรียนรู้ในโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม ประกอบด้วยกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ STEAM Education และ Smart Farm มาประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับการเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา การเลี้ยงไก่ไข่ รวมไปถึงการปลูก เมล่อน เพาะเห็ด และการทำเกษตรเนินดิน หรือ ฮูกูลคัลเจอร์ (Hugelkultur) ซึ่งเป็นแนวคิดทฤษฎีของเยอรมัน ในการทำเกษตรที่เลียนแบบวิถีธรรมชาติบริเวณที่มีต้นไม้ล้มหรือขอนไม้เกิดซากทับถมของเศษอินทรีย์ต่างๆ ที่อุดมสมบูรณ์ทำให้พืชพรรณต่างๆที่ปลูกบนแปลงผักแบบนี้เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งนอกจากจะได้พืชผักที่สวยงามแล้วยังเป็นการช่วยลดการเผาตอไม้เศษไม้ในป่า ที่ก่อให้เกิดมลภาวะและฝุ่นละออง PM 2.5 ด้วย ถือเป็นการนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า โครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และเป้าหมายของการศึกษาโลกที่ต้องการออกแบบการศึกษาให้ตอบโจทย์อนาคต และสอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจ คือ 1. เด็กต้องเรียนอย่างมีความสุข ครูต้องมีความสุขในการสอน 2.ระหว่างเรียนต้องมีรายได้ จบแล้วต้องมีงานทำ 3.ต้องสามารถเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ทันสมัย 4.ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี แข่งขันได้ และ5.สามารถอยู่ในโลก VUCA World ที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จของโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต ในโรงเรียนนำร่องทั้ง 6 โรงเรียน จนมีการขยายผลโครงการไปสู่โรงเรียนในสังกัดเพิ่มอีก 346 โรงเรียน จากโรงเรียนที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการมากกว่า 600 โรงเรียน ซึ่งทาง สพฐ.จะดำเนินการขยายผลไปสู่โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มากที่สุด รวมไปถึงการศึกษาพิเศษที่แสดงความสนใจขอเข้าร่วมโครงการกว่า 100 โรงเรียน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการพร้อมขยายผลและให้การสนับสนุนต่อไป เพราะการศึกษาไทยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“โครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตแสดงให้เห็นแล้วว่าเรากำลังเดินไปตามเป้าหมายของ World Education แล้ว การศึกษาคือความมั่นคงของประเทศ และการเกษตรของเราจะนำพาประเทศก้าวข้ามผ่านทุกวิกฤตได้ เด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก การศึกษาไทยก็ไม่เป็นรองชาติใดเช่นเดียวกัน" ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว
ด้าน ดร.ภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา กล่าวว่า โครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักคิด วิเคราะห์ อย่างเป็นระบบโดยใช้ CODING วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาบูรณาการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในภาคการเกษตร เด็กเกิดทักษะการวางแผน สามารถนำองค์ความรู้มาสู่การปฏิบัติและต่อยอดในการประกอบอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ภายในโรงเรียน
“การตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียนครั้งนี้เป็นการแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจของดร.คุณหญิงกัลยา และคณะทำงานฯ ในการนำเสนอความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการที่เน้นสร้างองค์ความรู้ทางด้านเกษตรกรรม โดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐานเข้ามาใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร ซึ่งสามารถขยายผลไปสู่ชุมชน”