เมื่อวันก่อน ( 21 มีนาคม 2565) ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนาม “ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี ” ณ ห้องประชุมสวนรวมใจ 2 ตึก 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย เตชัสอนันต์ รองหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ด้านความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและศิษย์เก่า รองศาสตราจารย์ ดร.เชาวน์ดิศ อัศวกุล รองหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ด้านวิจัยและการสร้างผลกระทบต่อสังคม และ ดร.ประดิษฐพงษ์ สุขสิริถาวรกุล Director & Vice President บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมในพิธี
การลงนามในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ในการที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา การวิจัยพัฒนา และการเรียนรู้ทางเทคโนโลยี ให้กับนิสิต นักศึกษา และคณาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ในประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับพลังงานในปัจจุบันและอนาคต อาทิ การเปลี่ยนแปลงทางพลังงาน (Energy Transition) ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ไมโครกริด (Microgrid) ระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS) การขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (e-Mobility) ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) และอนาคตทางพลังงานที่ยั่งยืน (Sustainable Energy Future) ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสและยกระดับมาตรฐานการศึกษา พัฒนาบุคลากร ให้มีความรู้ความสามารถด้านพลังงานของประเทศ ให้สอดคล้องกับความต้องการบุคลากรผู้มีความรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับประเทศได้ในระยะยาว
พร้อมกันนี้ทางภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ส่งนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สนใจเข้าฝึกงานที่บริษัทประจำปี 2565 เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 280 ชั่วโมง เข้าร่วมในโครงการ Supporting Apprentice Students Program กับทางบริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด อีกด้วย ซึ่งทางบริษัทพร้อมเปิดโอกาสให้นิสิตทุกคน ร่วมแสดงความคิดเห็นและพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ ด้วยแนวทางการประสานความหลากหลาย ผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อนำมาซึ่งนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยม โดยตลอดการฝึกงานนิสิตทุกคนจะมีผู้เชี่ยวชาญ และผู้ให้คำแนะนำในแต่ละขอบเขตงานที่เลือก เพื่อให้ได้รับความรู้ทักษะอย่างสูงสุดจากผู้เชี่ยวชาญ และเพิ่มประสิทธิผลระหว่างการฝึกงานอย่างเต็มที่
สำหรับบันทึกข้อตกลงนี้มีระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามในข้อตกลง ซึ่งทั้งสองฝ่ายอาจตกลงกันขยายระยะเวลาความร่วมมือออกไปได้ตามความเห็นชอบร่วมกันในอนาคต