ทีมสัตวแพทย์ ตัดสินใจรักษา "น้องฟ้าใส" (ชื่อเดิม ขวากรัก) ลูกช้างป่าพลัดหลงที่ถูกบ่วงนายพรานรัดขา โดยตัดเนื้อตาย และส่วนล่างของข้อเท้าออก พร้อมกับทำโฟมเสริมให้เป็นเท้าเทียมชั่วคราว ด้านพฤติกรรมลูกช้างปรับตัวได้ดี แต่อาการจากบาดแผลยังต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (3 ธันวาคม 2564) เวลา 09. 30 น. สพ.ญ.สุนิตา วิงวอน พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.2 เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน และทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน พัทยา ทำการดูแลรักษาอาการลูกช้างป่าอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจรักษา พบว่าข้อเท้าข้างขวาที่ถูกบ่วงยังมีคราบหนองคลุมอยู่ และมีเนื้อตายบางส่วน มีหนอนแมลงวัน 4 ตัว สัตวแพทย์ได้ทำการตัดเนื้อตายและส่วนล่างของข้อเท้าออก ขัดและล้างแผลให้สะอาด หลังจากนั้นได้ทายาฆ่าเชื้อเฉพาะที่และพันแผลป้องกันสิ่งสกปรก และจัดทำโฟมเป็นเท้าเทียมชั่วคราวเพื่อเป็นการพยุงขาข้างนี้ (เหมือนว่าเป็นรองเท้าเสริมส้น)
ส่วนแผลขาซ้ายจากการถูกยิง และพบกระสุนฝัง มีหนองลดลงแต่ยังคงมีเนื้อตายอยู่ ได้ทำการล้างแผลและยัดผ้าก๊อสผสมยาฆ่าเชื้อชนิดครีมในแผล และได้ทำเลเซอร์เพื่อลดปวดที่แผลและเร่งการสร้างของเนื้อเยื่อใหม่
สัตวแพทย์ทำการให้สารน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด ยารักษาภาวะไตวาย วิตามินซี ยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุงเลือด และกลูโคส พฤติกรรมโดยทั่วไปยังร่าเริงดี ปรับตัวเข้ากับสภาพสิ่งแวดล้อมใหม่ และพี่เลี้ยงใหม่ได้ดี แต่ยังคงมีภาวะการขาดน้ำ แผลทั้งสองจุดยังติดเชื้อสูงและยังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วงอยู่
นายเผด็จ ศิริดำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน พัทยา กล่าวว่าวันนี้ ตัดปลายขาหน้าขวาที่ใกล้จะหลุดออกไป ทำแผลทั้งขาหน้าซ้าย-ขวายิงเลเซอร์แล้วใส่รองเท้าโฟมเสริมความสูงของขาขวา จากนั้นให้น้ำเกลือให้ยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุง และยารักษาเกี่ยวกับโรคไต
หลังจากนั้นก็ฉีดยาเร่งน้ำนมให้ช้างแม่ลูกอ่อน พังคริสมาสเพราะต้องเตรียมรีดนม เพื่อแบ่งมาให้พังฟ้าใสกินด้วย พังฟ้าใส
ชอบเล่นน้ำมากตามธรรมดาของช้างที่บาดเจ็บจะชอบลงแช่น้ำแต่คงให้ลงแช่น้ำทั้งตัวไม่ได้เลยให้เล่นน้ำเอาเท้าแช่น้ำในกาละมังได้นิดหน่อย พอให้คลายเครียดลงบ้าง
"ผมขอขอบคุณแอดมินพี่เก่ง และสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ป่า ที่สนับสนุน ส่งยาเวชภัณฑ์ ชุดทำแผล และของใช้ต่างๆ ที่จำเป็น มาช่วยเสริมในการดูแลรักษาลูกช้างพังฟ้าใสตลอดจน สมาคมสหพันธ์ช้างไทย ที่ส่งนมผงERM omegaและแคลเซี่ยมมาให้พังฟ้าใสมีประโยชน์และจำเป็นต่อลูกช้างมากครับ"
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 14.20 น.ของวันที่ 2 ธันวาคม 64 ถึง เวลา 08.28 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 64 ลูกช้างกินน้ำได้ทั้งหมดประมาณ 7 ลิตร และกินนมทั้งหมดประมาณ 1.5 ลิตร ทางสัตวแพทย์ สบอ.2 ได้ร่วมกันวางแผนการรักษาและติดตามการรักษาดูแลอย่างใกล้ชิดร่วมกับทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวานอย่างต่อเนื่องต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
คนรักช้างและวิถีชีวิตช้างไทย