xs
xsm
sm
md
lg

ผุดแคมเปญ ‘Kind Dining กิน.กอด.โลก’ ชวนคนรุ่นใหม่ให้คำมั่น “ไม่กินเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดแคมเปญ ‘Kind Dining กิน.กอด.โลก’ ชวนคนรุ่นใหม่ให้คำมั่นสัญญาไม่กินเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ดาราและผู้มีชื่อเสียง เช่น คุณวงศ์รวี นทีธร (สกาย) นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน (หมอล็อต) และคุณชุดารี เทพาคำ (เชฟตาม) เพื่อปกป้องและอนุรักษ์สัตว์ป่า รวมทั้งลดความเสี่ยงของโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์ป่า เช่น ซาร์ส และอาจรวมถึงโควิด-19

แคมเปญนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง TRAFFIC ZSL อส. ททท. และ UNDP โดยการสนับสนุนของ GEF, GWP, IWTCF และ USFWS

โดยเป้าหมายของการรณรงค์นี้ เพื่อลดความต้องการในการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ร่วมให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่บริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายพร้อมติดแฮทแท็ก #SayNotoIllegalWildMeat


นายธัญญา เนติธรรมกุลอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ผมเชื่อว่าการรณรงค์เพื่อหยุดการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อหยุดการบริโภคก็จะช่วยให้สัตว์ป่ามีชีวิตและทำหน้าที่ในธรรมชาติของเขา ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของกรมอุทยานฯ ในการอนุรักษ์ คุ้มครอง และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า”

ความต้องการเนื้อสัตว์ป่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดการล่า ฆ่า และค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย นำมาสู่การลดจำนวนของสัตว์ป่า จนบางชนิดเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ นอกจากนั้นยังเพิ่มความเสี่ยงของการติดโรคจากสัตว์ป่าสู่คน อาทิ เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก ก็เป็นไปได้ว่า อาจจะมีต้นเหตุมาจากสัตว์ป่า

นางดารารัตน์ วีระพงษ์ผู้จัดการโครงการอาวุโส เครือข่ายเฝ้าระวังการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า (TRAFFIC) กล่าวว่า “ในการปกป้องสัตว์ป่าจากการบริโภคอย่างผิดกฎหมาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งทางสังคมและพฤติกรรม ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย แคมเปญกิน.กอด.โลก จึงเกิดขึ้นเพื่อลดความต้องการในการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า ความเสี่ยงต่างๆ อันจะกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความเสี่ยงของการเกิดโรคอุบัติใหม่ล้วนเป็นประเด็นที่พูดถึงในการรณรงค์ในครั้งนี้”

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา TRAFFIC และ สมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน (ZSL) ได้ทำการวิจัยเพื่อศึกษาการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าของคนไทยในเขตเมือง พบว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ร้อยละ 32 มีการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า รวมถึงเนื้อสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย และในจำนวนเท่า ๆ กันนั้นมีแนวโน้มจะบริโภคอีกในอนาคต

“ผลการวิจัยได้เผยข้อมูลสำคัญหลายอย่างที่ช่วยให้เราเข้าใจทัศนคติและพฤติกรรมของการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าในประเทศไทย ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการออกแบบแคมเปญเพื่อยุติการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย แคมเปญ Kind Dining หรือกิน.กอด.โลกถูกออกแบบให้มีกิจกรรมหลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ยุติการกินเนื้อสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย” ดร. ไอลีน ลาร์นี่ ผู้อำนวยการ ZSL ประจำประเทศไทย กล่าว

กลุ่มคนที่บริโภคเนื้อสัตว์ป่าส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว มีช่วงอายุระหว่าง 18 – 30 ปี อาศัยอยู่ในเมือง มีฐานะและชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว โดยคนกลุ่มนี้ไม่ได้บริโภคเนื้อสัตว์ป่าเพื่อประทังชีวิต แต่มักบริโภคกันระหว่างการท่องเที่ยวและงานสังสรรค์ งานเลี้ยงรับรอง

“ททท.ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและมักได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว แคมเปญ Kind Dining จึงเป็นหนึ่งในแบบอย่างของทิศทางการท่องเที่ยวไทยในอนาคต” นายยุทธศักดิ์ สุภสรผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าว

ม.ร.เรอโนด์ เมเยอร์ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าเริ่มมีการรณรงค์ให้คนหันมาสนใจเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่ามากขึ้น คนจำนวนมากเริ่มเข้าใจว่า การบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในสังคมและสวนทางกับกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่แคมเปญ Kind Dining ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ ผู้มีชื่อเสียง รวมทั้งองค์กรพันธมิตรต่างๆ และมั่นใจว่าจะมีผู้ที่ตั้งคำถามกับการกินเนื้อสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายและร่วมให้คำมั่นสัญญากับการรณรงค์ในครั้งนี้มากมาย”

แคมเปญได้นำเสนอคลิปวิดีโอ 4 ชุด ประกอบด้วยคลิปสั้น 3 นาที 1 ชุดและสปอตรณรงค์ 30 วินาทีและ 15 วินาที อย่างละ 3 ชิ้นโดยเผยแพร่ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook และ YouTube นำเสนอโดย นักแสดง คุณวงศ์รวี นทีธร (สกาย) นายสัตวแพทย์สัตว์ป่า ภัทรพล มณีอ่อน (หมอล็อต) และคุณชุดารี เทพาคำ (เชฟตาม) เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคหยุดกินเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Kindness Delivery ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ที่ได้ร่วมมือกับเซฟตาม และร้านมีนา มีข้าว จังหวัดเชียงใหม่ดัดแปลงเมนูอาหารป่าที่เป็นที่นิยม ให้เป็นเมนูปลอดเนื้อสัตว์ป่า เพื่อแจกจ่ายให้บุคคลทั่วไปได้ลิ้มลองในรูปแบบอาหารกล่องที่มาพร้อมคิวอาร์โค้ดที่นำไปยัง www.kind-dining.com เพื่อร่วมให้คำมั่นสัญญาไม่บริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย โดยประชาชนสามารถเลือกเข้าร่วมทีมสัตว์ป่าที่ชื่นชอบจากทั้งหมด 5 ทีม แล้วคลิกให้คำมั่นสัญญาเพื่อรับตราประจำทีมสำหรับการแชร์ผ่านสื่อโซเชียล โดยใช้แฮชแท็ก #SayNotoIllegalWildMeat และ #KindDining ชักชวนให้คนรอบข้างอื่นเข้าร่วมทีม ร่วมให้คำมั่นสัญญาไม่บริโภคเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย ได้ที่ www.kind-dining.com

ชื่อแคมเปญ Kind Dining มาจากการรวมคำระหว่าง Kindness (ความใจดี มีเมตตา) และ Fine Dining (การกินอาหารที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ทำให้รู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากร้านทั่วไป) ก่อเกิดเป็นแนวคิดว่า มื้อที่ดีและพิเศษที่สุด คือ มื้อที่ไม่ทำร้ายสัตว์ป่า มีเป้าหมาย คือ การรณรงค์เพื่อลดการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายและปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคเนื้อเหล่านี้ในประเทศไทย อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความต้องการในการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายในอนาคต แคมเปญนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง TRAFFIC ZSL อส. ททท. และ UNDP โดยการสนับสนุนของ GEF, GWP, IWTCF และ USFWS


กำลังโหลดความคิดเห็น