วาระ 2030 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (The 2030 Agenda for Sustainable Development) ได้รับการรับรองโดยประเทศสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดในปี 2558 ที่แต่ละชาติสมาชิกรวมถึงประเทศไทย ได้จัดทำพิมพ์เขียวร่วมกันเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับผู้คนและโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคต ในการบรรลุ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” หรือ Sustainable Development Goals (SDGs)
airasia ทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล พร้อมความสำเร็จในการสร้างเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หนึ่งในกรณีศึกษาการทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากหนังสือ Digital Transformation In Action ฉบับปรับปรุงใหม่ปี 2022
จาก “ใคร ๆ ก็บินได้” สู่ “แอร์เอเชียสำหรับทุกคน” ด้วยแนวคิด Super App
แอร์เอเชียเริ่มต้นจากการเป็นสายการบินราคาประหยัด ได้รับเลือกให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกของ Skytrax 11 ปีติดต่อกันระหว่างปี 2552 ถึง 2562 และรางวัล World Travel Awards สายการบินต้นทุนต่ำชั้นนำของโลกเป็นเวลาแปดปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2563
การใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวความสำเร็จของแอร์เอเชีย โดยเริ่มจากการจองออนไลน์ เป็นสายการบินแรกในเอเชียที่ไม่มีตั๋วในเดือนมีนาคม 2545
AirAsia 3.0 ยุคที่สาม ของแอร์เอเชีย
ตั้งแต่ปี 2561 แอร์เอเชียได้เริ่มต้นเส้นทางการทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพื่อเป็นมากกว่าสายการบิน ด้วยการรวมโรงแรม วันหยุด กิจกรรม การช็อปปิ้งออนไลน์และอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ และอีคอมเมิร์ซ ด้วยแนวคิด airasia super app รวมถึงการบูรณาการบริการโลจิสติกส์ การส่งขนส่งไปถึงลูกค้าปลายทาง (Last Mile Deliveries) ผ่าน Teleport และบริการทางการเงินดิจิทัลด้วย BigPay
ต่อมาในปี 2562 แอร์เอเชียได้ประกาศความสำเร็จอย่างเป็นทางการในการเข้าสู่ยุคที่สามของการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ สู่การเป็นบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก
ในรายงานความยั่งยืนประจำปี 2020 ของแอร์เอเชีย ที่เผยแพร่เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2564 ตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญของธุรกิจสายการบินและกลุ่มดิจิทัล ได้ให้ความสำคัญกับ 10 ด้านหลัก นำโดยการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และสุขภาพและความปลอดภัย โดยการให้ความสำคัญกับตัวชี้วันกลุ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการบรรลุผลตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
ในช่วงการระบาดใหญ่โควิด-19 แอร์เอเชียได้เร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ไม่เพียงแต่เพิ่มรายได้เสริมของแอร์เอเชียในช่วงเวลาที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังขยายการสนับสนุนบริการทางดิจิทัลไปยังธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางหลายพันแห่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
แอร์เอเชียยังได้ร่วมมือกับ Google เพื่อเสนอหลักสูตรด้านการศึกษาดิจิทัลและให้โอกาสในการเพิ่มทักษะแก่พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการฝึกสอนเรื่องขนาดที่เหมาะสมของบริษัท ภายใต้ Redbeat Academy โดย แอร์เอเชีย ดิจิทัล
ในส่วนของมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยของแอร์เอเชียที่ได้ดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์การบินที่ปลอดภัยสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงานของแอร์เอเซีย (AirAsia Allstars) อย่างไร้รอยต่อ และไม่ต้องสัมผัส ด้วยบริการ Scan2 Fly และเทคโนโลยีจดจำใบหน้าแบบไบโอเมตริกที่เรียกว่า F.A.C.E.S ในขณะที่นโยบาย Work From Home ของแอร์เอเชียเริ่มต้นอย่างราบรื่นผ่านการใช้เทคโนโลยีการโฮสต์บนคลาวด์และเครื่องมือดิจิทัลในการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน รวมถึงมีการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางดิจิทัลมากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและการปกป้องความเป็นส่วนตัว
ในด้านสิ่งแวดล้อม แอร์เอเชียได้ส่งรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ฉบับแรกไปยังหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อกำหนดพื้นฐานสำหรับโปรแกรมการดำเนินการด้านสภาพอากาศภายใต้โครงการชดเชยคาร์บอนและการลดคาร์บอนสำหรับการบินระหว่างประเทศ
สำหรับการช่วยเหลือสังคม แอร์เอเชียได้ส่งนักเดินทางที่ติดค้างและชาวต่างชาติหลายพันคนกลับบ้าน และดำเนินการเที่ยวบินขนส่งสินค้ากว่า 1,400 เที่ยวเพื่อขนส่งความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนทั่วทั้งภูมิภาค AirAsia Foundation และ IKHLAS ยังร่วมมือกับแอปบริการทางการเงินของ BigPay เพื่อระดมทุนได้เกือบ 1.5 ล้านริงกิต เพื่อรองรับความต้องการขั้นพื้นฐานของครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการล็อกดาวน์ในภูมิภาค
โทนี่ เฟอร์นันเดส ซีอีโอของ AirAsia Group กล่าวว่า "ปีที่แล้วไม่ต้องสงสัยเลย ความท้าทายสูงสุดของเราเป็นประวัติการณ์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างกลยุทธ์ความยั่งยืนที่แข็งแกร่งในธุรกิจของเราอีกครั้ง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของเราซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 2018 นั้นสามารถติดตามได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ประโยชน์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีของเรา ซึ่งทำให้เราได้เริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้กลายเป็น super app ที่เติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน”
บทความ โดย ธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุล
ผู้ก่อตั้งสถาบัน Digital Transformation Academy และ ผู้เขียนหนังสือชุด Digital Transformation : In Action, Canvas และ Compass ทั้ง 3 เล่ม