xs
xsm
sm
md
lg

ก.เกษตรฯ จับมือจุฬาฯ ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0 เดินหน้า “ผลิตวัคซีนลัมปิสกินจากพืชเป็นโครงการเร่งด่วน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน
เมื่อวันก่อน (26มิถุนายน 2564) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ประชุมหารือร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม 202 ชั้น 2 อาคารจามจุรี 4 สำนักงานอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าเป็นความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรรมระหว่างกระทรวงเกษตรกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในโครงการแรก คือ การผลิตวัคซีนสัตว์ด้วยเทคโนโลยีโปรตีนพืช (Plant based Protein) เริ่มจากวัคซีนลัมปิสกินซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทยที่แพร่ระบาดในโค-กระบือหลายสิบจังหวัด และต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์โดยกรมปศุสัตว์และบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมดำเนินการทันทีโดยวางเป้าการผลิตเพื่อใข้ในประเทศทดแทนการนำเข้าและขยายสู่การส่งออก นับเป็นประเทศแรกๆของโลกที่ใช้เทคโนโลยีโปรตีนพืชผลิตวัคซีนสัตว์โดยทีมนักวิจัยของไทย

“วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่สำคัญต่อการพลิกโฉมหน้าภาคเกษตรกรรมของไทยเมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตกลงจับมือร่วมทำงานกับกระทรวงเกษตรฯ. เพราะการพัฒนาภาคเกษตรในยุคปัจจุบันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำต้องใช้วิทยาการและเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญ นอกจากนี้จะมีโครงการความร่วมมืออื่นๆที่สำคัญเช่นโครงการพัฒนาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ,โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตร,โครงการพัฒนาฮาลาล , โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง โครงการการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่(Young Smart farmer ) เป็นต้น รวมทั้งการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ขอฝากไว้เป็นพิเศษโดยมอบหมายให้ที่ปรึกษาอลงกรณ์ พลบุตรในฐานะประธานคณะกรรมการบริหาร AIC เป็นผู้ประสานงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งนี้จะมีการทำเอ็มโอยู.ภายในสัปดาห์หน้า"

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยินดีและพร้อมร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเต็มที่ในการต่อยอดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมโดยทันทีโดยเฉพาะการพัฒนาวัคซีนสัตว์จากพืขเป็นโครงการนำร่องโครงการแรก รวมทั้งเสนอให้กระทรวงเกษตรฯ.ใช้พื้นที่ของสยามสแควร์อินโนเวชั่นดิสตริคท์ (Siamsquare Innovation District)ในการนำเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมมาเปิดแสดงและสาธิตต่อยอดการลงทุนนวัตกรรมใหม่ๆของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(AIC)ทั่วประเทศ รวมทั้งการดำเนินโครงการแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์(Kaengkoi Innovation District (KID)โครงการเกษตรอัจฉริยะ( Smart Farming), โครงการสมาร์ท โอท็อป(Smart OTOP), โครงการดิจิตอลไอทีวัลเลย์(Digital IT Valley),

นายอลงกรณ์ พลบุตร เสริมว่า โครงการความร่วมมือที่จะตามมาโดยเร็ว คือโครงการพัฒนาแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์ หรือเมืองนวัตกรรมแก่งคอย ในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นการร่วมกันพัฒนาคล้ายกับซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley)ในสหรัฐอเมริกาที่ริเริ่มดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด(Stanford University) ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีสตาร์ทอัพกว่า 200 บริษัทที่พร้อมต่อยอดการลงทุนสตาร์ทอัพกลุ่มเทคโนโลยีเกษตรและอาหาร รวมทั้ง Foodtech และ Agritech Start-Up โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งเป้าหมายเบื้องต้นจะสร้างคนสร้างงานสร้างรายได้กว่า 2,500 ล้านบาท

คณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ.ประกอบด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองปลัดกระทรวง ผู้ช่วยปลัดกระทรวง เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมปศุสัตว์ รองอธิบดีกรมประมง รองอธิบดีกรมวิชาการ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นต้น ส่วนคณะผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกอบด้วย รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี และทีมนักวิจัยอีกหลายคน


กำลังโหลดความคิดเห็น