เพจเฟซบุ๊ค TOP
Varawut -ท็อป วราวุธ
ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเตือนสตินักท่องเที่ยวในสถานที่กางเต็นท์ในเขตอุทยานแห่งชาติว่า “เรียนมาเพื่อทราบ ถึงนักท่องเที่ยวที่รักและเคารพยิ่งทุกท่านครับ เรากำลังทยอยทำป้ายขอความร่วมมือแบบนี้ให้ครบในอุทยานทุกแห่งนะครับ นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ รักสงบ ต่อไปนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เปิดแอพ QueQ จองวันเดินทาง แล้วมาดื่มด่ำความสงบของธรรมชาติกันได้เลยครับ”
ข้อความบนป้ายประกาศเตือนใหม่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จะเป็นแบบอย่างให้ทุกอุทยานฯ ทำป้ายชี้แจงและขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนในสถานที่กางเต็นท์ ดังต่อไปนี้
“สถานที่กางเต็นท์ คือพื้นที่ส่วนรวม เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อน สัมผัสธรรมชาติในมุมสงบ หากท่านต้องการจะมาเปลี่ยน สถานที่กินเหล้า ร้องเพลงเสียงดัง อันเป็นการทำลายบรรยากาศของบุคคลหมู่มาก รบกวนท่านออกไปเที่ยวนอกอุทยานฯ ที่สามารถรองรับกิจกรรมดังกล่าวได้”
ซึ่งได้มีการโพสต์และแชร์ออกไปที่เพจเฟซบุ๊ค ทั้งของ สำนักอุทยานแห่งชาติ -National Parks of
Thailand และอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง
ก่อนหน้านี้ ในเพจเฟซบุ๊ค รมว.ทส. เคยเตือนมาก่อนว่า “นับจากนี้ ใครท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติอย่างไร้ความรับผิดชอบ #ทิ้งขยะไว้ในพื้นที่#ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา#ส่งเสียงรบกวน#สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น เราจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ขึ้นบัญชีดำ ห้ามไม่ให้เข้ามาทำความเสียหายในเขตอุทยานอีกต่อไปครับ “
ทั้งนี้ มีสาเหตุจากการโพสต์ข้อความบนสื่อออนไลน์และร้องเรียน 2 กรณี (ช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา) เกี่ยวกับ
1)นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ที่มาขอใช้บริการเช่าเต็นท์ที่พักของ #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งภายหลังจากการใช้บริการแล้วได้ทิ้งขยะไว้ในเต็นท์
2)นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ที่มาพักค้างกางเต็นท์ ในพื้นที่ #อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา และส่งเสียงดัง ได้มีการตักเตือนโดยเจ้าหน้าที่ แต่ก็มิได้ปฏิบัติตามนั้น
ทั้ง 2 เหตุการณ์ ถือเป็นการกระทำที่ขาดจิตสำนึก ส่งผลกระทบต่อการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นในสถานที่อันเป็นสมบัติส่วนรวมของประเทศ
ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้ว เพื่อให้การบริการเกี่ยวกับการใช้ที่พักและบริการอื่น รวมถึงมาตรการในการดูแลรักษาความสะอาดของอุทยานแห่งชาติ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงมีหนังสือสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดให้ดำเนินการ ดังนี้
1. กรณีมีการให้บริการเช่าเต็นท์ที่พักและพื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติ ให้จัดทำบันทึกรายละเอียดประกอบด้วยบริเวณที่ผู้ใช้บริการเข้าพัก ชื่อ-นามสกุลผู้เข้าพัก หมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้ จัดทำหมายเลขประจำเต็นท์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้เมื่อเกิดปัญหาในภายหลัง
2. กำชับเจ้าหน้าที่ให้แจ้งนักท่องเที่ยว ห้ามมิให้ทิ้งขยะไว้โดยเด็ดขาด และให้นำขยะออกไปทิ้งนอกเขตอุทยานแห่งชาติ หรือบริเวณซึ่งอุทยานแห่งชาติได้กำหนดไว้ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ฝ่าฝืน มิให้เข้ามาใช้บริการพักค้างแรมในอุทยานแห่งชาติ ต่อไปในอนาคต
3. ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวแต่ละราย ว่ามีความสะอาดเรียบร้อยหรือไม่ อย่างไร ก่อนที่จะคืนบัตรประจำตัวให้กับผู้ใช้บริการ
4. แจ้งเตือนเกี่ยวกับการนำสุราและสิ่งของมึนเมา เข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ และการส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
5. ประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องกระจายเสียง เพื่อแจ้งแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
5.1) ห้ามดื่มสุรา หรือของมึนเมา ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
5.2) ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นหลังเวลา 21.00 น.
5.3) หลังเวลา 22.00 น. นักท่องเที่ยวที่มาพักค้างในอุทยานฯ ต้องงดใช้เสียงทุกประเภท
5.4) หากนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือน จะขอเชิญออกจากพื้นที่โดยทันที
6. ลำดับมาตรการดำเนินการ ในกรณีมีการฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ มีขั้นตอนการตักเตือน การริบอุปกรณ์กระทำผิด การเชิญออกจากพื้นที่ และการแจ้งความดำเนินคดี ตามลำดับ
7. ในช่วงวันหยุดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก จะขอความร่วมมือไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียง เพื่อร่วมส่งกำลังพลตรวจตราความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทั้ง 2 กรณีข้างต้น ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว และเปรียบเทียบปรับตามกฏหมายเรียบร้อยแล้วครับ ขอให้ทุกคนศึกษาเป็นกรณีตัวอย่างที่ไม่น่ารัก และอย่าทำตามกันนะครับ ขอบคุณครับ