xs
xsm
sm
md
lg

สร้างแบรนด์ไทยมาตรฐานสากล “เมอร์ทิซ” ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ยึด 3 หลักสร้างธุรกิจยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังการเกิดโรคโควิด-19 คนทั่วไปให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกินหรือของใช้ก็ตาม จึงเป็นโอกาสและสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ในแบรนด์ “เมอร์ทิซ” ซึ่งให้ความสำคัญและมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้วัตถุดิบต่างๆ จากธรรมชาติ

ชุติญา ศรีสุนทรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัวร์บิวตี้ จำกัด เล่าถึงที่มาของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ในแบรนด์ “เมอร์ทิซ” (Merthis) ว่า เกิดขึ้นเมื่อปี 2556 เนื่องจากต้องการนำเสนอและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงได้มาตรฐานในระดับสากลให้คนไทยได้ใช้ในราคาเหมาะสม โดยยึดหลัก 3 ข้อ เพื่อสร้างธุรกิจที่มั่นคงยืนยาว คือ หนึ่ง สร้างแบรนด์ของคนไทยให้เป็นที่ยอมรับ สอง สร้างผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ และสาม สร้างสรรค์วัตถุดิบและสูตรเพื่อตอบโจทย์ของตลาดได้อย่างแท้จริง


ปัจจุบัน “เมอร์ทีซ” มีผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 4 ชนิด ซึ่งเน้นการใช้วัตถุดิบและสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ “Glamorous Serum” ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาแข็งแรง ผิวกระจ่างใส “Hyaluronic Acid Serum” กรดไฮยาลูโรนิค หรือ ไฮยาลูรอน ผสมสารสกัดจากข้าวบาร์เล่ย์และธัญพืช ผลิตภัณฑ์แก้ไขปัญหาผิวขาดความสมดุล ผิวแห้ง เป็นขุย หรือหลุดลอกเป็นแผ่นๆ ด้วยคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดีเยี่ยมสามารถบำรุงผิวพรรณ โดยเฉพาะผิวหน้าจะสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในด้านความตึง กระชับ เรียบเนียน และซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย เร่งกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ที่มีผลต่อการหายของแผล “Magic Sunscreen Gel” SPF50 ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่สามารถใช้ระหว่างวันแม้จะมีการแต่งหน้าอยู่แล้ว และ“Punica Fruit Whitening Soap” ผลิตภัณฑ์สบู่บำรุงผิว ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสมหลัก กับวิตามินอี ใช้แล้วผิวไม่แห้ง

สำหรับ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ คาดว่าจะขยายไปสู่สินค้าเพื่อสุขภาพเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในยุคโควิด-19 มากขึ้น


ภาพ - ชุติญา ศรีสุนทรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัวร์บิวตี้ จำกัด

กว่า 6 ปีกับการสร้างธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น ผู้บริหารธุรกิจสกินแคร์แบรนด์ไทย กล่าวว่า ความสำเร็จที่ได้นอกจากจะมาจากความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจแล้ว ในการสร้างอนาคตให้ยั่งยืน จึงยังคงต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอเพื่อเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง เช่น การเติมเต็มองค์ความรู้ด้านอื่นๆ โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการบุคลากร ทั้งยังเรียนรู้เรื่องความเป็นมนุษย์ พฤติกรรมของคน อีกทั้ง ยังศึกษาธรรมะและฝึกฝนตนเองอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าใจทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ฯลฯ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร แม้จะเป็นธุรกิจระดับเอสเอ็มอีก็ตาม