ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลับเป็นช่วงเฟื่องฟูของร้านอาหารที่ปรับตัวมาให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี แต่อย่างที่ทราบกันดี ผู้บริโภค ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายที่ไม่ต้องออกไปเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาด้วย คือ ขยะพลาสติกจากฟู้ดเดลิเวอรีนั่นเอง
เมื่อคิดต่อการสั่งของต่อครั้ง เราจะได้รับผลิตภัณฑ์พลาสติก ไม่น้อยกว่า 5 ชิ้น ยิ่งสั่งบ่อย สั่งมาก ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งก็เพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงประมาณ 3 เดือนของการแพร่ระบาดที่ผ่านมาในประเทศไทย ทำให้ขยะจากผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15
การผูกปิ่นโต คนยุคนี้หลายคนอาจไม่เข้าใจความหมาย ว่าคือการจ้างให้ทำอาหารใส่ปิ่นโต แล้วส่งให้ตามที่ตกลงกัน คนสมัยก่อนที่มีอายุถึงตอนนี้ราว 50 ปีขึ้นไปย่อมเข้าใจดี เมื่อบ้านใครไม่มีเวลาทำอาหาร หรือทำไม่เป็นก็ใช้วิธีผูกปิ่นโต วันละกี่มื้อ จ่ายเงินค่าผูกปิ่นโตเท่าไร ตกลงเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ก็แล้วแต่ข้อตกลงที่มักว่ากันด้วยวาจา
สำหรับ ร้าน RISE Cafe เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้จับเอาวิกฤตมาเปลี่ยนให้เป็นโอกาสอย่างตั้งใจ เมื่อการเปิดหน้าร้านไม่ได้ ทำให้พวกเขาจำใจต้องเปลี่ยนมาลงสนามในธุรกิจที่สร้างขยะเป็นอันดับต้นๆ อย่างการเดลิเวอรี ซึ่งผลักดันให้พวกเขาปรับตัวจนค้นพบวิธีการส่งอาหารรูปแบบใหม่อย่างการ “ผูกปิ่นโต”ซึ่งนอกจากจะเป็นความตั้งใจในการลดปัญหาขยะพลาสติกแล้ว ทางร้านยังมีการสร้างรายได้ให้กับชุมชนแถวประตูผี ด้วยการจ้างวินมอเตอร์ไซต์ และชาวบ้านมาส่งให้ด้วย ทั้งลูกค้ายังสามารถสั่งแบบเป็นมื้อ ๆ หรือจะสั่งเป็นรายสัปดาห์ก็ได้ โดยทางร้านจะเสิร์ฟผ่านบรรจุภัณฑ์ธรรมชาติอย่างใบบัว และปิ่นโต ทุกรอบการส่ง
ซึ่งเห็นว่าเป็นแนวทางในการลดใช้ขยะพลาสติกที่ควรค่าต่อการสนับสนุนที่สุด จึงขอบอกต่อ
สำหรับช่วงนี้เริ่มคลายล็อคดาวน์เป็นระยะ ๆ แล้ว ทำให้ร้านอาหารก็เริ่มกลับมาเปิดขายได้ตามปกติ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ RISE Cafe นั้น ก็พร้อมสำหรับการกลับมาเปิดหน้าร้านอีกครั้งที่ชั้นดาดฟ้าของ Luk Hostel กลางย่านสำเพ็ง พร้อมให้ทุกคนได้ไปฝากกระเพาะไว้ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดกันได้ที่เพจเฟซบุ๊ก RISE Café
