หนุ่มนักวิ่งโล่งอกพ้นข้อครหากุข่าว หลังผลตรวจพบสารเคมีในน้ำดื่ม

หนุ่มนักวิ่งโล่งผลตรวจน้ำดื่มมีสารปนเปื้อนจริง หลังถูกตราหน้ากุข่าวถูกวางยาในน้ำดื่มแล้วโพสต์ข้อความเตือนภัยลงบนเฟซบุ๊ก เชื่อคนร้ายมีความประสงค์ต่อทรัพย์แน่นอน

เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 25 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านเเห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อไปพบนายวิโรจน์ ไศละบาท อายุ 42 ปี โปรดิวเซอร์รายการทีวีที่ถูกคนร้ายวางยาในน้ำดื่ม จากนั้นได้โพสต์ข้อความเตือนภัยลงบนเฟซบุ๊ก ต่อมามีกระแสออกมาว่าผู้โพสต์ได้กุเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเอง ล่าสุดผลตรวจออกมาแล้วพบว่ามีสารปนเปื้อนอยู่ในน้ำดื่มจริง

ด้านนายวิโรจน์ ไศละบาท ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากที่ได้ดูข่าวตอนแรกก็ตกใจว่าสารที่อยู่ในน้ำเป็นยาสลบสัตว์ ถ้าดื่มเข้าไปเยอะอาจจะทำให้ถึงขั้นตายได้ แต่ในทางกลับกันก็รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะว่าช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาตนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนกุข่าวขึ้นมา ซึ่งเจตนาแรกของตนก็คืออยากจะแจ้งเตือนให้เพื่อนนักวิ่งเเละผู้ที่ออกกำลังกายในสวนสาธารณะมีความปลอดภัยจากพวกวิชาชีพ แต่เรื่องดังกล่าวกลับกลายเป็นเหมือนบูมเบอแรงที่มาทำร้ายตัวเราเอง ตนก็เหมือนเป็นคนที่เฉียดตายมาแล้ว ส่วนอาการตอนนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ ซ้อมวิ่งได้ตามปกติแล้ว ต่อไปถ้าหากว่าออกไปวิ่งในสวนสาธารณะทั่วไป ตนก็จะนำน้ำดื่มวางไว้ที่รถ หรือไม่ก็วางไว้ใต้เบาะรถมอเตอร์ไซค์

ในส่วนของทางด้านคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอเลขประจำตัวคนไข้เพื่อนำไปตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลว่าผลตรวจปัสสาวะจะออกมาเป็นอย่างไร เคสนี้ตนมั่นใจว่าคนร้ายมีความประสงค์ต่อทรัพย์สินแน่นอน เพราะนักวิ่งทุกคนส่วนมากจะสวมใส่นาฬิกาสมาร์ทวอตช์ ราคารวมแล้วก็อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท ถ้าหากคนร้ายก่อเหตุสำเร็จก็จะนำทรัพย์สินดังกล่าวไปขายได้ในราคา 4,000-5,000 บาท หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้คงจะไม่กล้ากลับไปวิ่งที่สวนสาธารณะเดิมอีกแล้ว รู้สึกกลัวไปอีกนาน จะขอวิ่งออกกำลังอยู่ในหมู่บ้านไปก่อนสักระยะแล้วค่อยหาที่วิ่งใหม่