ในสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 นอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว เจลแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ทำความสะอาดมือเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งเป็นที่ต้องการของประชาชนเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมามีข่าวเจลแอลกอฮอล์ปลอมออกมาจำหน่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง
ศ.ดร.ธีรยุทธ วิไลวัลย์ ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาฯ และรองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงหลักการใช้เจลแอลกอฮอล์อย่างถูกต้องว่า ควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเพื่อทำความสะอาดมือในช่วงเวลาที่ไม่สามารถหาสบู่และน้ำเปล่าได้ วิธีที่ถูกต้องที่สุดคือการล้างมือและฟอกสบู่เป็นเวลา 20 วินาทีขึ้นไป
เจลแอลกอฮอล์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะต้องใช้เจลที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ 70% เพราะถ้าใช้สัดส่วนที่ต่ำกว่านั้นตัวแอลกอฮอล์จะระเหยเร็วเกินไป ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรค COVID-19 ได้ ตามที่มีกฎหมายใหม่ออกมา ส่วนผสมอื่นในเจลทำให้ตัวแอลกอฮอล์ระเหยได้ช้าลง สัมผัสกับผิวได้นานขึ้น และช่วยลดการระคายเคืองของแอลกอฮอล์ และคงความชุ่มชื้นต่อผิว
“ควรใช้เจลแอลกอฮอล์เฉพาะมือเท่านั้น ห้ามสัมผัสหรือเช็ดล้างบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ใบหน้าและดวงตาโดยเด็ดขาด ไม่เปิดฝาทิ้งไว้ ไม่เก็บในที่มีแสงแดดส่องถึง ไม่เก็บไว้ในรถ เพราะจะทำให้แอลกอฮอล์ระเหยและเสื่อมสภาพ” ศ.ดร.ธีรยุทธ แนะนำการใช้งาน
สำหรับการสังเกตว่าเจลแอลกอฮอล์นั้นเป็นแอลกอฮอล์ปลอมหรือไม่ จะต้องตรวจสอบ อัตราส่วนของแอลกอฮอล์ที่ผสมในเจลล้างมือว่ามีสัดส่วนที่มากกว่า 70% หรือไม่ ซึ่งต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเท่านั้น สำหรับบุคคลทั่วไปให้ดูจากฉลากของผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ต้องตรวจสอบว่าเป็นการใช้แอลกอฮอล์ผิดชนิดหรือไม่ ช่วงนี้มีกระแสข่าวว่ามีการนำเมทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาใช้แทนเอทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้กันปกติในผลิตภัณฑ์สารฆ่าเชื้อทางการแพทย์ ซึ่งมีอันตรายต่อผู้ใช้
“แอลกอฮอล์ มีสารประกอบอินทรีย์ที่มีโมเลกุลคล้ายน้ำแต่มีส่วนผสมของคาร์บอนผสมเข้าไปด้วย ซึ่งเอทิลแอลกอฮอล์ ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ และเมทิลแอลกอฮอล์มีจำนวนคาร์บอนที่ต่างกัน เอทิลแอลกอฮอล์ มีคาร์บอนสองตัว ไอโซโพรพิสแอลลกอฮอล์ มีคาร์บอนสามตัว สามารถใช้ฆ่าเชื้อได้เฉพาะภายนอกเท่านั้น ส่วนเมทิลแอลกอฮอล์มีคาร์บอนหนึ่งตัวซึ่งปกติใช้ในอุตสาหกรรมเคมี ไม่นำมาใช้กับคนหรือฆ่าเชื้อโรคเนื่องจากมีความเป็นพิษสูง ถ้าโดนผิวหนังจะซึมเข้าสู่ร่างกาย เมื่อเมทิลแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายจะสะสมความเป็นพิษโดยเปลี่ยนเป็นสารอื่นๆ ที่มีพิษ ทำให้ตับทำงานหนักเพื่อที่จะกำจัดสารเหล่านี้ หากรับประทานเข้าไปจะทำให้ตาบอดและอาจถึงตายได้
ศ.ดร.ธีรยุทธ กล่าวเพิ่มเติมถึงวิธีตรวจสอบแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ว่าปลอมหรือไม่ ซึ่งภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ คิดค้นขึ้น โดยการนำแอลกอฮอล์ ผสมกับด่างทับทิม 1 เกล็ด และน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ถ้าสีจางลงภายใน 15 นาที ก็จะเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ซึ่งสามารถใช้ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าประชาชนยังมีข้อสงสัย ไม่แน่ใจ สามารถส่งมาที่ห้อง Lab ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อตรวจสอบได้ หรือสอบถามได้ที่ศูนย์เครื่องมือวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จุฬาฯ www.strec.chula.ac.th ทั้งนี้เจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือมีจำหน่ายที่โอสถศาลา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2218-8428