มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย หรือ World Vision จัดพิธีมอบโล่และเกียรติบัตร เป็นสัญลักษณ์แทนคำขอบคุณของเด็กๆ ที่ยากไร้ให้แก่โรงเรียนและนักเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เข้าร่วมโครงการ “The Heart of Giving ปลูกหัวใจแห่งการให้” ประจำปีการศึกษา 2562 และถือเป็นปีที่ 12 ของการดำเนินโครงการฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายวิมล จำนงบุตร ที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เป็นประธานในพิธีมอบโล่และเกียรติบัตร โดยมี ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ และร่วมมอบเกียรติบัตร
การจัดงานในปีนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังได้เชิญเด็กในโครงการ ‘อุปการะเด็ก’ ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่ได้รับโอกาสจากการแบ่งปันของน้องๆ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ The Heart of Giving มาเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ได้รับ
ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย หรือ World Vision เผยถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ The Heart of Giving ปลูกหัวใจแห่งการให้ ว่าเพื่อเป็นการปลูกฝังวินัยแห่งการออม และการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการให้ การแบ่งปัน และจิตสำนึกแห่งความดีในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ให้เติบโตขึ้นในหัวใจของเด็กไทย อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้นักเรียนเป็นทั้งคนเก่งและคนดี และเป็นการพัฒนาจิตใจของนักเรียนให้มี ‘หัวใจแห่งการให้’ อันจะส่งผลต่อพฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้วยการออมเงิน
มูลนิธิศุภนิมิตฯ หรือ World Vision ได้ดำเนินโครงการ The Heart of Giving ปลูกหัวใจแห่งการให้ ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 12 ปี โดยในแต่ละปีจะมีโรงเรียนที่เห็นถึงประโยชน์และเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีการศึกษา 2562 มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 121 แห่ง และด้วยน้ำใจของการแบ่งปันจากเด็กๆ ที่ช่วยกันออมเงินตามกำลัง รวบรวมจากน้อยสู่มากจนเกิดเป็นพลังแห่งการให้ที่ยิ่งใหญ่
ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการดำเนินโครงการฯ มูลนิธิศุภนิมิตฯ สามารถจัดสรรเงินที่เด็กๆ ได้ช่วยกันออม นำไปช่วยเด็กยากไร้ในพื้นที่ห่างไกล จำนวน 425 คน ให้ได้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตจากการดำเนินงานโครงการ ‘อุปการะเด็ก’ สามารถนำไปจัดเตรียมอาหารเช้าที่ถูกหลักโภชนาการครบ 5 หมู่ ในโครงการ ‘มื้อเช้าเพื่อน้องท้องอิ่ม’ ให้กับเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจังหวัดที่ห่างไกล ได้มีสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัย พร้อมสำหรับการเรียนรู้ในแต่ละวัน จำนวน 351,424 มื้อ
นอกจากนี้ เงินออมจากนักเรียนทุกคน ยังมีส่วนในการช่วยสนับสนุนการดำเนินงานโครงการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ซ่อมสร้างอาคารเรียนให้แก่โรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น โรงเรียนบ้านเกาะนางโดย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับความเสียหายจากพายุปาบึก เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา อีกด้วย
วิมล จำนงบุตร ที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) สะท้อนมุมมองต่อโครงการฯ ว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ ได้รับการปลูกฝังให้เป็นคนดี รู้จักเก็บออม รู้จักแบ่งปัน มีความเอื้อเฟื้อ รวมถึงเป็นการเริ่มต้นการเรียนรู้ที่จะทำให้เด็กๆ เห็นถึงความสำคัญในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นบนพื้นฐานของกำลังและความสามารถที่ตนมี
“สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่มีการเรียนการสอนในห้องเรียน แต่ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่เด็กๆ ได้รับประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการนี้ ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นการปลูกฝังให้เด็กๆ เติบโตเป็นทั้งคนเก่งและเป็นคนที่ดีในอนาคต”
นุจรี จิระยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการ โรงเรียนพันธะวัฒนา บอกว่าหลังจากเข้าร่วมโครงการฯ นักเรียนของตนมีการพัฒนาเรื่องของการแบ่งปันขึ้นทุกปี “โรงเรียนของเราเข้าร่วมโครงการฯ เป็นปีที่ 8 แล้ว โดยในแต่ละปีเด็กๆ จะกระตืนรืนร้นและใส่ใจที่จะแบ่งปัน เพราะเขารู้สึกมีความสุขที่ได้แบ่งปัน และทำให้คนที่ได้รับมีความสุขไปกับเขาด้วย โดยเราจะสอนให้เขารู้จักจัดลำดับความสำคัญ ว่าเงินส่วนที่เขาจะไปซื้อขนมหรือของเล่น ซึ่งบางครั้งไม่ได้จำเป็นหรือสำคัญ แต่ถ้านำเงินจำนวนนี้ไปออมและแบ่งปันให้กับผู้ที่ด้อยโอกาส ก็จะทำให้เขามีโอกาสขึ้นมา และตัวเราก็จะมีความสุขที่ได้เป็นผู้ให้” คุณนุจรี ฉายภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับนักเรียนของตน ก่อนจะยกตัวอย่างผลของการออมและการแบ่งปันที่เห็นเป็นรูปธรรมได้จากงานในครั้งนี้"
“วันนี้เราได้มีโอกาสพบกับน้องเดียร์ ซึ่งเป็นเด็กในความอุปการะของโรงเรียนของเราที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการฯ นี้เป็นครั้งแรก ก็รู้สึกดีใจที่เห็นน้องเขาได้รับโอกาสจากเงินออมที่เด็กๆ ของเราช่วยกันออมเงินและแบ่งปัน จนวันนี้น้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถเรียนจบ ม.6 และเตรียมเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ก็อยากจะเชิญชวนโรงเรียนต่างๆ ให้มาเข้าร่วมโครงการ The Heart of Giving กับมูลนิธิศุภนิมิตฯ เพราะเป็นโครงการที่ดีที่ทำให้เด็กๆ ได้รู้จักการแบ่งปัน เมื่อเขารู้จักการแบ่งปัน รู้จักการให้โอกาสผู้อื่น สังคมจะเป็นสังคมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น เรามาร่วมมือร่วมใจกันโรงเรียนละเล็กละน้อย ก็สามารถรวมกันเป็นทุนทรัพย์ก้อนใหญ่ที่สามารถช่วยคนที่ด้อยโอกาสได้มากขึ้น”
เด็กหญิงพิมพ์พิศา หรือ น้องพิมพ์ นักเรียนชั้น ป. 6 โรงเรียนพันธะวัฒนา เผยความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ ว่า “หนูรู้สึกดีใจที่เห็นพี่เดียร์เขาประสบความสำเร็จด้วยเงินจากการออมที่พวกเราช่วยกันสะสม และได้นำไปเป็นทุนให้พี่เขาได้มีโอกาสทางการศึกษา ยิ่งได้เห็นพี่เขามาแสดงความสามารถให้ดูในวันนี้ ยิ่งรู้สึกภูมิใจที่ได้แบ่งปันเงินเล็กๆ น้อยๆ ให้คนอื่นที่มีโอกาสน้อยกว่าเราได้มีโอกาสเพิ่มขึ้นค่ะ”
ชลธิชา หรือ น้องดรีม เด็กในโครงการอุปการะเด็กของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่ได้รับการหยิบยื่นโอกาสจากนักเรียนและโรงเรียนพันธะวัฒนา เผยความรู้สึกพร้อมเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ได้รับโอกาสจากโครงการฯ นี้ว่า “ปัจจุบันหนูกำลังจะเข้าเรียนที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยทักษิณ หนูรู้สึกดีใจและประทับใจมากๆ ที่รู้ว่าคุณครูและน้องๆ ได้ช่วยเหลืออย่างไร และรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่มีโอกาสได้มาพบกับคุณครูและน้องๆ ที่เป็นผู้อุปการะ ซึ่งเด็กคนอื่นๆ อาจจะมีผู้อุปการะที่เป็นบุคคล แต่หนูมีผู้อุปการะที่เป็นคุณครูและนักเรียนทั้งโรงเรียนเลย หนูสัญญาว่าจะเป็นคนดีและตั้งใจเรียน ซี่งหนูตั้งใจว่าในอนาคตจะได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นๆ เหมือนที่หนูได้รับโอกาสค่ะ”