ยกระดับภูมิปัญญาปู่ย่าตายาย ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังบูรณาการแพทย์สองระบบเข้าด้วยกัน

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ขยายศักยภาพการทำงานแพทย์แผนไทยด้วยการผนวกเข้ากับแพทย์แผนปัจจุบันเต็มรูปแบบ และเปิดบริการเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันสถาปนาโรงพยาบาลครบรอบ 75 ปี

นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แนวคิดการจัดตั้งโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยภัยภูเบศร เป็นแนวคิดที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีการนำการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมาใช้ในระบบบริการสุขภาพ ตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 4 โดยเริ่มจากงานสาธารณสุขมูลฐานก่อน จนถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 7 ก็มีโครงการนำร่องในการพัฒนาระบบบริการการผสมผสานการบริการการแพทย์แผนไทยในระบบบริการสุขภาพ จากนั้นมีการเปิดคลินิกการบริการการแพทย์แผนไทยในระบบบริการสาธารณสุขของรัฐบาลหลายแห่ง ปัจจุบันครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ

“โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรมีการพัฒนาการที่ต่อเนื่อง เป็นการบูรณาการการแพทย์แผนไทยสู่ระบบบริการสุขภาพให้ครบทุกมิติ เพื่อทำให้การแพทย์แผนไทยมีการพัฒนามาตรฐานและขยายการใช้ประโยชน์จากการแพทย์แผนไทยให้เต็มศักยภาพ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์แผนดั้งเดิมขององค์การอนามัยโลก พ.ศ.2557 -2566 โดยส่งเสริมการบูรณาการการแพทย์ดั้งเดิมเข้าในระบบการดูแลสุขภาพแห่งชาติโดยการพัฒนาและดำเนินการตามนโยบายด้านการแพทย์ดั้งเดิมของแต่ละชาติให้มีความปลอดภัย มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ” ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว


นายแพทย์จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดดำเนินงานด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมากว่า 30 ปี ครอบคลุมในทุกมิติ ตั้งแต่การพัฒนายาจากสมุนไพรและบริการผู้ป่วยนอก การเผยแพร่ความรู้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีโครงสร้างและแนวทางที่ชัดเจนในการบูรณาการกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
ตั้งแต่ปี 2556 ได้เตรียมการในด้านบุคลากร อาคารสถานที่ โรคและอาการที่จะบูรณาการ มาตรฐานการตรวจวินิจฉัย การให้การรักษา การประเมินผล การส่งต่อระหว่างการแพทย์ทั้งสองระบบ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 24 มิถุนายน 2559 ซึ่งตรงกับวันสถาปนาโรงพยาบาลครบรอบ 75 ปี

“การมีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยนี้จะเป็นการก้าวกระโดดของการพัฒนาการแพทย์แผนไทยจากจุดอ่อนเดิมของการแพทย์แผนไทยที่ไม่เคยมีโรงพยาบาล หมอเป็นผู้ไปรักษาคนไข้ที่บ้านในรายที่คนไข้หนักเนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวกที่จะนำคนไข้มา ทำให้ไม่มีการบันทึกวิธีการรักษา การใช้ยา ผลการรักษาอย่างเป็นระบบ จึงขาดข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ พัฒนาปรับปรุงให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง การที่มีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย จึงเป็นการสร้างความการยอมรับระบบการแพทย์แผนไทยต่อสังคม และสร้างความมั่นคงให้ระบบสุขภาพ รวมถึงการยกระดับและคุ้มครองภูมิปัญญาไทย ซึ่งเป็นมรดกของชาติให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก” ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว
ด้าน ภญ.ดร.สุภากรณ์ ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวเสริมว่า วันนี้ภูมิปัญญาปู่ย่าตายาย ได้ลงหลักปักฐาน และสามารถขยายศักยภาพการทำงานโดยผนวกรวมกับแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาไปสู่การรักษาโรคที่รักษายากให้ง่ายยิ่งขึ้น เกิดประโยชน์สูงสูดของการรักษาพยาบาล ขณะเดียวกันก็คงไว้ซึ่งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ