ผลการสำรวจล่าสุดพบตัวเลขที่ทำให้นักการตลาดแทบไม่เชื่อสายตา อัตราการเติบโตของงานกรีนโดยรวมทั่วโลกยังคงอยู่ในอัตราสูง หลังจากที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำ และอุตสาหกรรมหนึ่งที่งานกรีนเติบโตอย่างเห็นชัดคือ พลังงานหมุนเวียน
ตามข้อมูลของ International Renewable Energy Agency’s (IRENA) ในรายงานประจำปี Renewable Energy and Jobs - Annual Review 2014 พบว่า ในรอบปี 2013 งานกรีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคนเป็นกว่า 6.5 ล้านคนโดยรวม
ในรายงานดังกล่าวมีแนวโน้มใหม่ที่น่าสนใจหลายประการ
ประการที่ 1 การเติบโตของภาระงานกรีนได้เกิดขึ้นทั่วโลกก็จริง แต่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพราะความไม่ชัดเจนในเชิงนโยบายที่ต่อเนื่องยาวนาน ทำให้เกิดความไม่แน่ใจ และส่งผลกระทบให้เกิดการขาดแคลนอัตรากำลังแรงงานมีฝีมือในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน
ประการที่ 2 จำนวนแรงงานที่ทำงานกรีนในตลาดโลก แยกตามประเภทธุรกิจสามารถจำแนกได้ ดังนี้
อันดับ 1 ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานโซลาร์เซลล์ จำนวน 2.273 ล้านคน
อันดับ 2 เชื้อเพลิงชีวภาพเหลว จำนวน 1.453 ล้านคน
อันดับ 3 พลังงานลม จำนวน 834,000 คน
อันดับ 4 พลังงานชีวมวล จำนวน 782,000 คน
อันดับ 5 เครื่องทำความร้อน/เย็น พลังงานโซลาร์เซลล์ 503,000 คน
ประการที่ 3 IRENA ประมาณการว่า อัตราแรงงานที่ทำงานในธุรกิจกรีนจำนวนราว 800,000 คน ที่เกิดใหม่ในปี 2013 ทำให้จำนวนธุรกิจที่ทำงานพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นจาก 5.7 ล้านคนในปี 2012 เป็น 6.5 ล้านคน ณ สิ้นปี 2013
ประการที่ 4 เมื่อพิจารณารายประเทศ พบว่าภาระงานกรีนเกิดขึ้นจำนวนมากและกระจุกตัวอยู่ในประเทศจีน บราซิล อเมริกา อินเดีย และเยอรมนีตามลำดับ นอกจากนั้น ก็มีจำนวนมากในสเปนและบังกลาเทศ ซึ่งสะท้อนว่าแนวโน้มได้เปลี่ยนจากประเทศพัฒนาแล้วทางตะวันตกสู่ประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล
ประการที่ 5 การที่จีนกลายมาเป็นผู้นำที่มีจำนวนคนทำงานในด้านกรีนมากที่สุดในโลก มาจากการเติบโตของธุรกิจการผลิตและติดตั้งพลังงานโซลาร์ ทำให้จำนวนคนทำงานในด้านกรีนเพิ่มเป็น 2.640 ล้านคน รองลงมา คือบราซิลมีจำนวนคนทำงานกรีน 894,000 คน สหรัฐอเมริกา 625,000 คน อินเดีย 391,000 คน เยอรมนี 371,000 คน และส่วนที่เหลือของยุโรปราว 760 ล้านคน ขณะที่บังกลาเทศและสเปนมีจำนวนเท่ากันที่ 114,000 คนตามลำดับ
ประการที่ 6 ปัญหาพัฒนาการของคนทำงานกรีน ไม่ได้เป็นไปอย่างน่าพอใจโดยตลอด ประเด็นที่เป็นด้านลบของส่วนนี้ คือ ความไม่ชัดเจนนโยบายของรัฐว่าจะสนับสนุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเหล่านี้จริงจังเพียงใด ทำให้การผลิตแรงงานป้อนตลาดไม่ชัดเจนตามไปด้วย และบางประเทศยังมีท่าทีว่ารัฐจะปรับเปลี่ยนนโยบายจากที่เคยสนับสนุนมาลดการสนับสนุนแทน อย่างออสเตรเลีย สหรัฐฯ หรือสเปนที่เคยเป็นผู้นำในธุรกิจส่วนนี้แต่กลับมีจำนวนลดลงไป เป็นต้น
นอกจากนั้น เทคโนโลยีของธุรกิจประเภทนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ ทำให้มีจำนวนแรงงานที่มีความรู้ ทักษะที่จะรองรับอย่างเหมาะสม ทำให้หลายประเทศมีปัญหาในบางตำแหน่ง เช่น วิศวกร นักวิเคราะห์ และคนติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์
ประการที่ 7 ผลการศึกษาทำให้สรุปได้งานด้านกรีนไม่ใช่เพียงงานที่มีสัดส่วนจำกัดอีกต่อไป เพราะการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนกลายเป็นตำนานความสำเร็จของโลกเศรษฐกิจ แม้ว่าจะเป็นประเด็นที่ท้าทายความสามารถในการธำรงรักษาระดับของการเติบโตในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายและการสนับสนุนของรัฐบาลในแต่ละประเทศเป็นสำคัญ