ถ้าคนไม่ตระหนักคุณค่าของป่าไม้โดยการอนุรักษ์ผืนป่าให้อยู่คู่โลกยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการปกป้อง หรือ ปลูกป่าเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้จำนวนผืนป่าลด และเสื่อมโทรมลง คุณประโยชน์ของป่าที่มากมายต่อทุกมวลชีวิตบนโลกก็ย่อมอยู่ต่อไปได้อีกยาวนาน
ประโยชน์ทางตรง
1.ด้านเศรษฐกิจ สิ่งต่างๆ ที่ได้จากป่าไม้สามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิต หรือทำเป็นสินค้าแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราได้ เช่น เนื้อไม้ นำมาแปรรูปใช้ในการก่อสร้าง ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ทำเยื่อกระดาษ เป็นต้น
2.ด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพราะป่าไม้เปรียบเสมือนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ช่วยดูดซับและกักเก็บน้ำ โดยเศษซากใบไม้และกิ่งไม้ตามพื้นป่าเปรียบเสมือนฟองน้ำช่วยซับน้ำแล้วระบายลงไปเก็บไว้ในพื้นดิน ซึมลงไปเป็นน้ำใต้ดิน และค่อยๆ ระบายลงสู่ลำห้วยลำธารอย่างช้าๆ ทำให้มีน้ำไหลในลำธารตลอดปี
3.แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เป็นทั้งแหล่งอาหาร ที่สร้างรัง สร้างเขตแดน วางไข่ และหลบภัย
4.เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุกรรม เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีความแปรผันแตกต่างกันในด้านพันธุกรรมของทั้งพืชและสัตว์
5.ใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มีทั้งที่เป็นสวนป่า อุทยานแห่งชาติ
6.เป็นแหล่งป้องกันภัยธรรมชาติ ช่วยลดความรุนแรงจากน้ำท่วมด้วยการชะลอความเร็วของน้ำไหลบ่าจากแนวป่าไม้ชะลอความเร็วของน้ำได้ และช่วยลดกำลังของลมพายุได้เป็นอย่างดี
7.ใช้ประโยชน์ด้านวิชาการ เป็นห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และแหล่งวิชาการด้านชีววิทยา นิเวศวิทยา ธรรมชาติวิทยา ป่าไม้ เกษตรกรรม เภสัชกรรม เป็นต้น
8.ด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและความสมดุลของระบบนิเวศ เป็นแหล่งรวมสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อยู่อาศัยและมีความสัมพันธ์ต่อกัน มีการถ่ายทอดหมุนเวียนพลังงานและสสารรวมกัน
ประโยชน์ทางอ้อม
9.ป่าไม้ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
10.ช่วยทำให้ดินดีขึ้น จากอินทรีย์วัตถุ และสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ที่สะสมปกคลุมผิวดิน
11.ป้องกันแม่น้ำลำธารไม่ให้ตื้นเขิน สามารถป้องกันการกัดเซาะและพังทลายของหน้าดิน ลดตะกอนที่ไหลมากับน้ำ ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ มีการตกตะกอนน้อย
12.ช่วยเพิ่มปริมาณอาหารให้แก่สัตว์น้ำในแหล่งน้ำตอนล่าง เพราะน้ำที่ไหลจากป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารปะปนกับน้ำเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของแพลงตอนและสัตว์น้ำชนิดต่างๆ
ที่มา : หนังสือทรัพยากรป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม