xs
xsm
sm
md
lg

7-11 เดินเครื่องร้านค้าปลีกรักษ์โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ด้านหน้าและภายในของสาขาธาราสแควร์ ถ.แจ้งวัฒนะ
*"เซเว่นฯ สาขาธาราสแควร์" ซีพี ออลล์ ใช้เป็นต้นแบบร้านค้าปลีกสีเขียว
*ชูร้านค้าปลีกแห่งแรกใน AEC พร้อมคุณภาพการันตีจากสถาบันอาคารเขียวไทยระดับสูงสุด
*ต่อยอดแนวคิด "7 Go Green" ที่สมบูรณ์แบบผ่าน 4 โครงการหลัก
สุวิทย์ กิ่งแก้ว
คงปฎิเสธไม่ได้ว่า การทำธุรกิจในปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบการไม่ควรมุ่งแสวงหาแต่กำไร หรือผลประกอบการที่ดีเท่านั้น แต่จะต้องให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันในสังคม และรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วยจึงจะทำให้การดำเนินธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน

"ซีพี ออลล์ ในฐานะบริษัทขนาดใหญ่ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าว จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม โดยจะทำธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน" สุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าว

จากเริ่มต้นเล็ก ๆ ของแนวคิดที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นที่มาของการลงทุนพัฒนาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธาราสแควร์ ให้เป็นร้านค้าปลีกที่ประหยัดพลังงานอย่างสมบูรณ์แบบภายใต้แนวคิด 7 Go Green (เซเว่น โก กรีน) อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผ่าน 4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการรณรงค์ใช้ถุงพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ “คิดถุ๊ง คิดถุง”, โครงการประหยัดพลังงานในศูนย์กระจายสินค้า “Green Logistics”, โครงการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “Green Products” และโครงการร้านค้าปลีกประหยัดพลังงานซึ่งได้พัฒนาดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

สุวิทย์กล่าวว่า ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธาราสแควร์ ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นร้านค้าปลีกรายแรกของไทยที่ได้ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับสูงสุดแพลตินัม (Platinum)จากสถาบันอาคารเขียวไทย ซึ่งนับเป็นร้านค้าปลีกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอย่างครบวงจรแห่งแรกของเซเว่น อีเลฟเว่นในเมืองไทย และใน AEC

ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธาราสแควร์ จะเป็นร้านค้าปลีกต้นแบบประหยัดพลังงาน และนับเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่ร้านประหยัดพลังงานที่ใส่ใจสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม เท่ากับว่าลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านจะมีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ที่นี่จะใช้เป็นต้นแบบในการทำสาขาของ เซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อตอบสนองเรื่องของอาคารเขียว ต่อไปในอนาคต อีกทั้งยังใช้เพื่อประกอบการเรียนรู้ของบุคลากร ทั้งนักศึกษา ผู้สนใจในเรื่องของอาคารเขียว ที่สำคัญเพื่อตอบโจทย์แนวคิดในเรื่องของ “7 Go Green” ให้ชัดเจน

สำหรับการก่อสร้างร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ต้นแบบร้านประหยัดพลังงานนี้ ซีพี ออลล์ ได้นำเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียวของสถาบันอาคารเขียวไทย (Thai Green Building Institute : TGBI) ที่เป็นระดับสากล มาใช้ในการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อต้นแบบประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม

กระบวนการก่อสร้าง ใช้ทีมผู้เชี่ยวชาญวิศวกรและสถาปนิก ตามมาตรฐานเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยในระดับแพลตินัม (Platinum) ซึ่งเป็นการรับรองระดับสูงสุด (จากทั้งหมด 4 ระดับ ได้แก่ Platinum / Gold / Silver / Certified) ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบและก่อสร้างอาคาร การบริหารจัดการอาคาร ผังบริเวณและภูมิทัศน์ การประหยัดน้ำ พลังงานและบรรยากาศ วัสดุและทรัพยากรในการก่อสร้าง คุณภาพของสภาวะแวดล้อมในอาคาร การป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านและนวัตกรรมอื่นๆโดยสาขาดังกล่าวสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 668 ตันต่อปี
ปัจจุบันค่าเฉลี่ยของลูกค้าที่เข้าใช้บริการใน เซเว่น อีเลฟเว่น เฉลี่ย 1,200 คนต่อสาขาต่อวัน แน่นอนว่ามีการใช้พลังงานค่อนข้างมาก ที่ผ่านมาการดำเนินงานของเซเว่น อีเลฟเว่น ต้องตอบโจทย์ 3 ข้อ คือ เพื่อโลก เพื่อคุณ (สังคม ชุมชน) เพื่อเรา (ธุรกิจ) ซึ่ง 2 เหตุผลแรกเป็นที่มาของแนวคิดในการทำเซเว่น อีเลฟเว่น สาขานี้เพื่อใช้เป็นสาขาต้นแบบที่ช่วยลดต้นทุนจากการประหยัดพลังงาน พร้อมการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

"นับตั้งแต่เปิดให้บริการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธาราสแควร์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับคำชมและการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด มีพื้นที่สำหรับที่จอดรถ ความร่มรื่นบริเวณรอบๆ ร้าน และการใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน และสิ่งที่สำคัญคือลูกค้าและผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เห็นว่า เซเว่นอีเลฟเว่น ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติ และพร้อมที่จะร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติไปกับซีพี ออลล์ด้วย"

ลดใช้พลังงาน มุ่งสู่ Go Green

ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธาราสแควร์ ผ่านการรับรอง TREEES-NC2014 ระดับ Platinum ตามเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยสำหรับการก่อสร้างและปรับปรุงโครงการใหม่ ซึ่งจัดทำโดยสถาบันอาคารเขียวไทย (Thai Green Building Institute: TGBI) ด้วยความร่วมมือระหว่างวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกอบด้วยมาตรฐาน 8 หมวด ดังนี้
ใช้แผงโซลาร์เซลล์ สามารถสร้างกระแสไฟทดแทนได้ 13,750 kwh ต่อปี
หมวดที่ 1 การบริหารจัดการอาคาร (Building Management)
การเตรียมความพร้อมความเป็นอาคารเขียว การประชาสัมพันธ์ให้สังคมและชุมชนรับทราบว่าจะมีการก่อสร้างขึ้นในพื้นที่ รวมถึงนโยบายของบริษัทในการลดใช้พลังงานเพื่อมุ่งสู่กลยุทธ์ Go Green
หมวดที่ 2 ผังบริเวณและภูมิทัศน์ (Site&Landscape)
ส่งเสริมและลดการใช้พลังงาน โดยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและปลูกไม้ยืนต้น 1 ต้น ต่อพื้นที่เปิดโล่ง 100 ตรม.
หมวดที่ 3 การประหยัดน้ำ (Water Conservation)
ลดปริมาณการใช้น้ำด้วยสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ทั้งในส่วนของห้องน้ำพนักงานและห้องน้ำสำหรับบริการประชาชนทั่วไป เพื่อรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป
หมวดที่ 4 พลังงานและบรรยากาศ (Energy & Atmosphere)
ลดพลังงานด้วยการใช้วัสดุและอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานทดแทนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของภาวะโลกร้อน วัสดุที่เลือกใช้ ได้แก่
o กระจก Insulation Pair Glass ซึ่งเป็นกระจก 2 ชั้น บรรจุก๊าซเฉื่อยตรงกลาง เป็นฉนวนป้องกันความร้อนได้มากกว่ากระจกทั่วไป 28%
o ผนังคอนกรีตมวลเบา ลดการส่งผ่านความร้อนและประหยัดพลังงานได้ 30%
o หลังคาเมทัลชีตชนิดบุโฟม PE ช่วยสะท้อนและลดความร้อนที่เข้ามาจากทางหลังคาได้ 45%
o ฝ้าชนิด Insulation Ceiling ช่วยกรองและควบคุมอุณหภูมิความเย็นในพื้นที่ขาย สามารถประหยัดพลังงานได้ 25%
o ระบบแสงสว่าง ใช้หลอดไฟ LED ทั้งร้าน ช่วยประหยัดไฟมากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ 30%
o ระบบไฟฟ้า ใช้แผงโซลาร์เซลล์ สามารถสร้างกระแสไฟทดแทนได้ 13,750 kwh ต่อปี
o ระบบเครื่องทำน้ำร้อน ใช้ Solar Heater สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ 1,095 kwh ต่อปี
o ระบบปรับอากาศ ใช้เครื่องปรับอากาศแบบ Split Type ระบบ Inverter ให้ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงานไฟฟ้า 30%
o ช่องรับแสงธรรมชาติสกายไลท์ ทดแทนการใช้แสงสว่างจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้ 20 หลอด
ใช้หลอดไฟ LED ทั้งร้าน ช่วยประหยัดไฟมากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ 30%
หมวดที่ 5 วัสดุและทรัพยากรในการก่อสร้าง (Materials&Resources)
บริหารจัดการขยะจากกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งเป็นการลดปริมาณขยะก่อสร้างที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง
หมวดที่ 6 คุณภาพของสภาวะแวดล้อมในอาคาร (Indoor Environment Quality)
ส่งเสริมสภาพแวดล้อมภายในร้านให้ดียิ่งขึ้น ลูกค้าและพนักงานได้รับความสบายและสดชื่น อาทิ ระบบแสงสว่างและระบบหมุนเวียนอากาศจากธรรมชาติ
หมวดที่ 7 การป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection)
การป้องกันมลพิษในบริเวณก่อสร้าง เป็นมาตรการสำคัญที่ต้องคำนึงถึงตั้งแต่การออกแบบจนกระทั่งก่อสร้างร้านเสร็จสมบูรณ์
หมวดที่ 8 นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Innovation)
สร้างสรรค์ความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อม อาทิ การผลิตพลังงานทดแทนมูลค่าไม่น้อยกว่า 2.5% ของค่าใช้จ่ายพลังงานทั้งอาคาร ด้วยการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการสร้างกระแสไฟฟ้า ผ่านระบบโซลาร์เซลล์แบบ Poly Crystalline ซึ่งสามารถสร้างกระแสไฟทดแทนได้ 13,750 kw-hr ต่อปี และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยพื้นที่เปิดโล่งเชิงนิเวศ (Eco Open Space) มากกว่า 50% ของพื้นที่โครงการ
กำลังโหลดความคิดเห็น