เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าต่อเนื่องด้านการประหยัดพลังงาน และร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากภายในองค์กร “โครงการ Green Office“ เป็นการรณรงค์ให้พนักงานช่วยกันประหยัดการใช้พลังงานด้านต่างๆ ขณะเดียวกัน Green Building เป็นโครงการเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
ดวงตา พงษ์วิไลย์ ผู้จัดการทั่วไปการตลาด เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า โครงการ Green Office“ เป็นโครงการรณรงค์ให้พนักงานช่วยกันประหยัดการใช้พลังงานด้านต่างๆ ภายใต้สโลแกน “Save it like your home” สามารถทำให้พนักงานเกิดความตระหนักถึงการใช้พลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม เช่น การปิดไฟในช่วงพักกลางวัน การใช้กระดาษรีไซเคิลให้ครบทั้งสองหน้า เป็นต้น
พร้อมกันนี้ “โครงการ Green Building“ อย่าง “การใช้ระบบ Cooling Tower“ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศและเกิดการประหยัดพลังงานอย่างสูงสุด “การติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบสำหรับมอเตอร์และปั๊มน้ำ” เพื่อลดการใช้พลังงานของปั๊มน้ำหรือมอเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ได้ดียิ่งขึ้น
“การนำพลังงานความร้อนที่เหลือทิ้งจากระบบระบายความร้อนของตู้แช่มาผลิตเป็นน้ำร้อน” เพื่อใช้ทำความสะอาดภาชนะ (Heat Recovery System) ทำให้ประหยัดพลังงานได้กว่า 3 ล้านกิโลวัตต์ คิดเป็นการประหยัดพลังงานตู้แช่ประมาณ 10% และประหยัดพลังงานเครื่องทำน้ำร้อนได้มากถึง 90%
“ระบบการรีไซเคิลน้ำ” ด้วยการบำบัดน้ำจากการใช้งานต่างๆ ของอาคาร ให้สามารถกลับมาใช้ได้อีก โดยผ่านระบบ Recycle Water (Carbon Filter) และ Ultra Filtration (Membrane Filter) และฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน เพื่อนำกลับมาใช้งานระบบ Flush Valve ของห้องน้ำ รวมถึง การนำมารดต้นไม้รอบอาคารและการนำกลับมาเป็นน้ำในระบบ Cooling Tower
กระบวนการเหล่านี้ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำประปาในภาพรวม อีกทั้งเป็นการจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดปัญหามลพิษทางน้ำจากการลดปริมาณน้ำทิ้งที่ปล่อยออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เมื่อคำนวณโดยรวมจากปีที่เริ่มต้นระบบรีไซเคิลน้ำสามารถประหยัดน้ำไปได้ถึงกว่า 1.6 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นการประหยัดน้ำได้ 20%-30%
ทั้งนี้ โครงการGreen Office ในปี 2556 นี้ มีการรณรงค์รักษ์สิ่งแวดล้อมกับพนักงานผ่าน Desktop Wallpaper และ email ทำให้สามารถกระตุ้นให้เกิดการกระทำเพิ่มขึ้น เช่น ปิดไฟและปิดจอคอมฯ ในตอนพักกลางวัน ปิดไฟและปิดเครื่องปรับอากาศหลังจากใช้ห้องประชุมเสร็จ การใช้กระดาษ 2 หน้า และงดการพิมพ์เอกสารโดยไม่จำเป็น ได้อย่างชัดเจน
เดินหน้ากระตุ้นผู้บริโภค
ด้วย Green Shopping
การรณรงค์ให้ผู้บริโภคหรือลูกค้าแบบใกล้ตัว ด้วยโครงการ “Green Shopping” เริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โดยโครงการ Green Shopping เป็นการรณรงค์ให้ใช้ทรัพยากรในการช้อปปิ้งให้น้อยที่สุด ด้วยการส่งเสริมการใช้ถุงผ้าในการจับจ่ายซื้อของเพื่อเป็นการลดปริมาณในการใช้ถุงกระดาษและถุงพลาสติกซึ่งย่อยสลายได้ยาก โดยมีการจัดกิจกรรมในแต่ละปีเพื่อกระตุ้นการลดใช้ถุง และมีการผลิตถุงผ้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อไปใช้ในการช้อปปิ้งได้ โดยในปี 2550 ริเริ่ม สามารถย่อยสลายได้เองภายใน 1 ปี ในภาวะธรรมชาติ
ปี 2551 ประกาศการเป็น “Green Department Store รายแรกของโลก” ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภาคีสมาชิก ของ Climate Neutral Network โดย United Nations Environment Programme (UNEP) หรือ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ผ่านโครงการ Think Green ด้วยการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ รณรงค์ลดการใช้ถุง และลดการใช้พลังงาน ภายใต้ Concept Reduce, Reuse, Recycle โดยมีนโยบายต่างๆ อาทิ
I. เปลี่ยนมาใช้ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกผสม BIO MAT ที่สามารถย่อยสลายได้ตามสภาวะแวดล้อมธรรมชาติ โดยไม่มีสารพิษเจือปน ปลอดภัย ต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
II. ปรับเปลี่ยนถุงช้อปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน เป็นถุงที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิลทั้งหมด
III. รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ด้วยการใช้ถุงผ้า Eco Bag ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ปี 2552 ร่วมลงนามข้อตกลงลดใช้ถุงพลาสติกร่วมกับกรุงเทพมหานคร และจัดแคมเปญในวันสิ่งแวดล้อมโลก “Think Green : Green Days Green Ways“ ให้ลูกค้าที่ช้อปปิ้งและไม่รับถุง 1 ใบ จะได้ร่วมปลูกป่า 1 ต้น ผลที่ได้คือมีการปลูกต้นไม้จากโครงการนี้ 10,000 ต้น และมีการรณรงค์ใช้ถุงผ้าอย่างต่อเนื่อง
ปี 2553 ร่วมลงนามข้อตกลงลดใช้ถุงพลาสติกร่วมกับทางกรุงเทพมหานครต่อเนื่อง และใช้แคมเปญ “ช้อปผ่านบัตร M Card“ รับเพิ่มทันที M Points 10 คะแนน เมื่อไม่รับถุง ทำให้ลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้ประมาณ 100,000 ใบ
นอกจากนี้ ยังใช้ แคมเปญ ”Think Green : Green Wednesday“ เมื่อช้อปปิ้งในห้างทุกวันพุธ โดยไม่รับถุง รับทันทีส่วนลด 1 บาท ต่อ 1 ใบเสร็จ ทำให้ลดปริมาณการใช้ถุงในห้างได้ประมาณ 5 % และในโครงการ Think Green ได้ร่วมกับรายการแจ๋วและไทยทีวีสีช่อง 3 นำเสนอกล่องอาหาร “ไอเดียแจ๋ว” นวัตกรรมใหม่จากข้าวโพด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำรายได้จากการขายทั้งหมดมากกว่า 25,000 ชิ้น มอบให้ศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
ในปี 2554 จัดแคมเปญ “Think Green : Every day is Green day” เมื่อช้อปปิ้งในห้างทุกวันโดยไม่รับถุง รับทันทีส่วนลด 1 บาท ต่อ 1 ใบเสร็จ และในปี 2555 จัดแคมเปญ Think Green : Green Wednesday ขึ้นอีก โดยเมื่อช้อปปิ้งในห้างทุกวันพุธโดยไม่รับถุง รับทันทีส่วนลด 1 บาท ต่อ 1 ใบเสร็จ
ทั้งนี้ ปัจจุบันถุงช้อปปิ้งของห้างเป็นถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้ (Oxo Biodegradable) และถุงกระดาษที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล
สำหรับ โครงการ Green Shopping ที่ดำเนินการในปี 2556 นี้ เพิ่มความเข้มข้นด้วยแคมเปญ No Bag Get Points มอบ MPoint 10 คะแนนให้ลูกค้าที่ถือบัตร MCard ที่ “ไม่รับถุง” ทำให้ลดจำนวนการใช้ถุง 200,000 ใบ
นอกจากกิจกรรมหลักของ M Heart Think Green ดังกล่าว ยังมีการจัดกิจกรรม “Let’s Share ปั่น ปัน สุข” รณรงค์และกระตุ้นให้คนหันมาปั่นจักรยานแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวให้มากขึ้น เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และถือเป็นการออกกำลังกาย นอกจากนี้ กำลังจะจัดทำ “Bike Parking” สำหรับลูกค้าที่รักการปั่นจักรยานอีกด้วย
ชูกลยุทธ์ “Think Green”
The Mall Group กำหนดวิสัยทัศน์การเป็นศูนย์การค้า หรือแหล่งจำหน่ายสินค้าและบริการยุคใหม่ว่า ต้องการเป็นตัวกลางในการสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมให้ทุกคนร่วมกันทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ พัฒนาชุมชน และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์และการพัฒนาสังคมส่วนรวมอย่างยั่งยืน
โดยใช้กลยุทธ์การต่อยอดศักยภาพและความพร้อมผ่าน “โครงการ M Heart“ และร่วมมือกับองค์กรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อขยายผลในวงกว้าง โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงารอย่างรู้ค่า โดยมุ่งให้สามารถส่งต่อจิตสำนึกและนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้โดยง่าย
ด้วยการใช้ “โครงการ M Heart Think Green“เพื่อรักษาโลกของเราให้น่าอยู่สำหรับลูกหลานต่อไปในอนาคต รวมถึง การทำธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก The Mall Group สามารถเป็นกระบอกเสียงที่ดีได้จากลูกค้าจำนวนมากที่เข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในแต่ละวัน