xs
xsm
sm
md
lg

เข็มทิศ สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ฯ มุ่งสู่ความเข้มแข็งที่ยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“การรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มสมบูรณ์ ไม่ได้มุ่งเน้นคุณค่าทางกำไรหรือผลตอบแทนทางการตลาด แต่คือการมุ่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ บริหารจัดการธุรกิจด้วยความโปร่งใส และการผลิตบุคลากรให้เป็นคนเก่งและคนดี อันจะนำพาองค์กรและสังคมไปสู่ความเข้มแข็งที่ยั่งยืน”
ยงเกียรติ์ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มสมบูรณ์
ตลอดเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ในกลุ่มสมบูรณ์ ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมมาตลอด โดยกำหนดวิสัยทัศน์ 2560 ไว้ว่า “เป็นบริษัทฯ ที่เติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเอเชีย ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคม” ดังนั้น บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะร่วมเป็นเครือข่ายในการผลักดันนโยบายของลูกค้า เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป ด้วยการกำหนดกรอบแนวทางในการปฏิบัติให้กับผู้บริหารและพนักงานทุกคน จะต้องมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และอยู่ร่วมกับสังคมรอบข้างได้อย่างยั่งยืน
การรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มสมบูรณ์ ไม่ได้มุ่งเน้นคุณค่าทางกำไรหรือผลตอบแทนทางการตลาด แต่คือการมุ่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ บริหารจัดการธุรกิจด้วยความโปร่งใส และการผลิตบุคลากรให้เป็นคนเก่งและคนดี อันจะนำพาองค์กรและสังคมไปสู่ความเข้มแข็งที่ยั่งยืน
แผนการดำเนินกิจกรรมด้าน CSR บริษัทปฏิบัติตามแนวทางของเข็มทิศธุรกิจ และระบบมาตรฐานสากล ISO 14001 และ ISO26000 มาเป็นแนวปฏิบัติ ให้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน และนอกจากนี้ยังได้จัดทำเป็นคู่มือจริยธรรมธุรกิจ และข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน (Code of Conduct) เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้กับพนักงานทุกระดับในองค์กรได้ปฏิบัติตามไปในทิศทางเดียวกัน

ตีกรอบตอบแทนคุณแผ่นดิน และคืนกำไรสู่สังคม

ด้วยความที่นายห้างสมบูรณ์ กิตะพาณิชย์ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะตอบแทนคุณแผ่นดินและคืนกำไรสู่สังคม ตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการก่อนที่บริษัทฯ จะรู้จักคำว่า CSR เพราะท่านเชื่อว่า ถ้าชุมชนที่อยู่รอบๆ โรงงานอยู่กันอย่างมีความสุข ก็จะทำให้โรงงานสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างมีความสุข และนายห้างสมบูรณ์จึงปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานโดยการรู้จัก “ให้” ซึ่งเป็นการปลูกฝังการเป็นคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อช่วยเหลือดูแลกันและกันเหมือนคนในครอบครัว ให้กับผู้บริหารและพนักงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาบุคลากรและสังคมอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าพนักงานจะรักและอยู่ร่วมกับองค์กรได้นั้น พนักงานต้องมีความสุขกับการทำงานและมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเมื่อพนักงานมีความสุขแล้ว บริษัทได้ส่งเสริมให้พนักงานรู้จักการแบ่งปันให้กับสังคม ซึ่งในปี 2542 ได้มีการจัดตั้งชมรมสมบูรณ์กรุ๊ปอาสา และมีการดำเนินงานด้าน CSR อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมเรื่อยมา
ยงเกียรติ์ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ส่งเสริมให้พนักงานได้รู้จักการ “ให้” กับคนรอบข้าง ด้วยการประพฤติตนเป็นคนดี โดยการใช้ความสามารถของพนักงาน และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเครือข่ายอื่นๆ เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของคนในชุมชน พัฒนาสถานศึกษา สถานที่ต่างๆ ของชุมชนให้เป็นชุมชนน่าอยู่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในชุมชน

ตั้งหน่วยงาน CSR ดูแลสังคม
บริษัทฯ มีหน่วยงานสิ่งแวดล้อมดูแลด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมและจัดการพลังงาน มีหน่วยงานเลขานุการบริษัทฯ ดูแลเรื่องกิจกรรมธรรมภิบาล (Corporate Governance) รวมทั้งมีการจัดตั้งหน่วยงานด้าน CSR ให้ดูแลรับผิดชอบด้านชุมชนและสังคมโดยตรง มีกลยุทธ์และแผนงานด้าน CSR อย่างชัดเจน เพื่อให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
สำหรับแผนงานด้าน CSR ที่โดดเด่นมี 2 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาบุคลากร และด้านการพัฒนาสังคม
ด้านการพัฒนาบุคลากรนั้น บริษัทให้ความสำคัญกับ “คน” ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด ด้วยการพัฒนาให้พนักงานทุกคนเป็น “ฅนเก่งและฅนดี” ไปพร้อมๆ กันภายใต้แนวความคิด “สานฅนเก่งสร้างฅนดี” โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน

ในระยะที่ 1 ด้านการสานฅนเก่ง มุ่งเน้นที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการเรียนรู้จากรุ่นพี่หรือผู้ที่มีประสบการณ์ แล้วลงมือทำงานร่วมกับรุ่นพี่ เพื่อฝึกทักษะให้ชำนาญและสามารถทำงานได้ด้วยตนเอง ส่วนด้านการสร้างคนดี บริษัทได้เริ่มให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมภายในบริษัท ภายใต้โครงการ “โรงงานสวยด้วยมือเรา” ต่อมา พนักงานในองค์กรได้ชวนกันไปทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมชุมชนรอบข้าง และได้รวมตัวกันจัดตั้งชมรมอาสาเพื่อทำกิจกรรมเพื่อสังคมในวันหยุดงาน เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยการมอบสิ่งของและเลี้ยงอาหารแก่ผู้ด้อยโอกาส และนำความรู้ทักษะในด้านงานช่างต่างๆ ไปพัฒนาชุมชน จึงได้เกิดเป็นโครงการรักบ้านเกิด โดยชมรมสมบูรณ์กรุ๊ปอาสา ช่วยกันไปพัฒนาโรงเรียนที่บ้านเกิดของพนักงาน

ระยะที่ 2 ด้านการพัฒนาฅนเก่ง บริษัทฯ วางแผนหลังจากที่พนักงานสามารถทำงานได้เองแล้ว บริษัทฯ จะส่งเสริมและอบรมให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พัฒนาเป็นผู้เชี่ยวชาญและต่อยอดความรู้ได้ต่อไป พร้อมกับส่งเสริมความเป็นฅนดีของพนักงาน โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับ อบต.ดำเนินโครงการซ่อมสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้ด้อยโอกาสในชุมชนโดยฝีมือการซ่อมสร้างของพนักงาน และต่อมาพนักงานมีความสามารถเป็นพี่เลี้ยงสอนทักษะในการดำเนินกิจกรรม ซ่อมสร้างให้กับสภาสังคมสงเคราะห์ และหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจจากภายนอกองค์กร และยังเปิดโรงงานให้เป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน โดยมีพนักงานเป็นอาจารย์พิเศษในการสอนคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ปุ๋ยอินทรีย์ และกีฬาให้กับเด็กนักเรียนและชุมชน

ระยะที่ 3 ยังคงพัฒนาฅนเก่งด้วยความมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันประสบการณ์ทั้งภายในและภายนอก หรือที่เรียกว่า การถ่ายทอดองค์ความรู้ (Knowledge Management: KM) แบบครบวงจร นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถ ด้านการพัฒนางานและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ผลงานออกมาดีและมีคุณภาพสูง อีกทั้งส่งเสริมให้โอกาสพนักงานมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นนำเสนอกิจกรรมเพื่อสังคมรูปแบบใหม่ ๆ ในโครงการต่างๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานและขยายผลไปยังเครือข่าย CSR นอกองค์กร มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งกันและกัน จนพนักงานมีทักษะ และความชำนาญจนสามารถเป็นพี่เลี้ยงเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดำเนินตามนโยบายรัฐในการทำกิจกรรมเพื่อชุมชน

ด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม บริษัทฯ ได้ยึดถือนโยบายของภาครัฐมาเป็นแนวทางการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ในปี 2550 กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยรู้จักการทำความดีตามรอยเท้าพ่อ ในวโรกาสพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมมายุครบ 80 พรรษา บริษัทฯ จึงนำแนวนโยบายดังกล่าวมาประยุกต์ด้วยการดำเนินโครงการ “8,000 ความดี SBG ถวาย 80 พรรษาเทิดไท้องค์ราชัน”ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานทำความดี โดยมีสมุดบันทึกการทำความดีของพนักงานเป็นรายบุคคลผ่านช่องทางการทำความดี 5 ช่องทาง (อย่างน้อยพนักงาน 1 คน ได้ทำ 5 ความดี) ซึ่งได้ตั้งเป้าไว้ 8,000 ความดี เมื่อปิดโครงการสามารถรวบรวมความดีได้ทั้งสิ้น 9,280 ความดี พนักงานสามารถทำความดีผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่
ช่องทางที่ 1 การเข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ คือการที่บุคลากรของบริษัทฯ ได้สละวันหยุดเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมตามโครงการที่บริษัทฯ จัดขึ้น
ช่องทางที่ 2 การทำบุญ คือ การทำบุญเพื่อทำนุบำรุงศาสนาในโอกาสวันสำคัญต่างๆ
ช่องทางที่ 3 การบริจาคเงิน คือการสมทบเงินเพื่อเป็นทุนในการจัดซื้อวัสดุและสิ่งของจำเป็นเพื่อใช้ในกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม
ช่องทางที่ 4 การบริจาคสิ่งของ คือ การนำสิ่งของใหม่หรือของใช้แล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดีไปแบ่งปันให้ผู้ที่ขาดแคลน
ช่องทางที่ 5 การปฏิบัติตน หมายถึง ความตั้งใจประพฤติตนเป็นคนดี การอุทิศตนในงานเพื่อสังคมเมื่อมีโอกาส
จากความสำเร็จของการดำเนินโครงการ 8,000 ความดี บริษัททำโครงการต่อเนื่องในปี 2551-2554 ภายใต้ชื่อโครงการ 98,480 ความดี SBG ตามรอยเท้าพ่อ” เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมมายุครบ 84 พรรษา ในปี 2554และในปี 2555 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจะทรงพระชนมมายุครบ 80 พรรษา จึงได้นำเลขมงคลมารวมกันเป็น 98,480 ความดี (โดยการเพิ่มช่องทางการทำความดีอีกหนึ่งช่องทาง คือ ช่องทางที่ 6 การทำความดีด้วยตนเอง เป็นการทำดีกับครอบครัวและสังคมในวาระต่างๆ) ซึ่งจากการดำเนินโครงการนี้บริษัทสามารถรวบรวมจำนวนความดีได้ทั้งหมด 110,801 ความดี

เหนือกว่ามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพนักงานและชุมชนด้วยการสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม โดยถือว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ร่วมกันของพนักงานทุกคนในองค์กร ร่วมถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระบบมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม หรือ ISO 14001 อย่างเคร่งครัด โดยให้ความรู้และฝึกอบรมพนักงาน ในเรื่องสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการส่งเสริมการช่วยลดภาวะเรือนกระจกภายใต้การดำเนินงานโครงการต่างๆ
อาทิ กิจกรรมประหยัดพลังงานด้วยการควบคุมเครื่องจักรและระบบอุปกรณ์ ซึ่งสามารถลดจำนวนพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในกระบวนการผลิตได้มากกว่า 350,000 unit/KWh หรือลดปริมาณ CO2 ได้ประมาณ 190 ตัน/ปี โครงการโรงงานปลอดโฟม ซึ่งบริษัทฯ สามารถลดการใช้โฟมได้ 100% ตั้งแต่ปี 2553 โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยการใช้พื้นที่โรงงานกว่า 10 ไร่ ให้เป็นปอดของโรงงาน หรือการสร้างศูนย์เรียนรู้ด้านชีวบำบัด เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาเรียนรู้เพิ่มเติมด้านสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อส่งเสริมให้พนักงานร่วมกันรักษ์สิ่งแวดล้อม การตรวจติดตาม ตรวจวัดคุณภาพอากาศในชุมชน การเยี่ยมชุมชนรอบข้างเพื่อสื่อสารข้อมูลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม และรับทราบปัญหาเพื่อหาทางแก้ไขและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาชุมชน

เพื่อให้การทำกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัท เกิดพลังและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคมในเชิงบวกอย่างกว้างขวาง กลุ่มฯ บริษัทสมบูรณ์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนที่เป็นพันธมิตร ในการพัฒนาสังคมด้านต่างๆ ให้มีความยั่งยืน ด้วยรูปแบบการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างบริษัทฯ การใช้ศักยภาพที่หลากหลายของแต่ละองค์กรมาดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมให้ตอบโจทย์และความต้องการที่ตรงจุดของชุมชน โดยกิจกรรมที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานพันธมิตร เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย องค์กรบริหารส่วนตำบลบางโฉลง องค์กรบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย หรือ สมาคมตำรวจโรงงานแห่งชาติ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น