xs
xsm
sm
md
lg

ไขมันสูงต้องลอง! ผักพื้นบ้าน 7 ชนิด ตัวช่วยพิชิตคอเรสเตอรอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การลดไขมันในเลือดเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากยาและอาหารเสริมแล้ว ผักพื้นบ้านของไทยหลายชนิดก็มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันได้อย่างน่าสนใจ และยังหาได้ง่ายอีกด้วย

นี่คือ 5 ชนิดของผักพื้นบ้านไทยที่ได้รับการยอมรับว่ามีส่วนช่วยลดไขมันได้จริง

1. มะระขี้นก
มีสารสำคัญชื่อ ชาแรนทิน (Charantin) และ โพลีเพปไทด์-พี (Polypeptide-P) ซึ่งทำหน้าที่คล้ายอินซูลินธรรมชาติ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และยังช่วยลดระดับไขมัน LDL (ไขมันเลว) และไตรกลีเซอไรด์ โดยมะระขี้นกสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผัดมะระใส่ไข่ ต้มจืด หรือนำมาคั้นเป็นน้ำมะระขี้นก ซึ่งอาจจะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำมะนาวเพื่อลดความขม

2. กระเจี๊ยบเขียว
เป็นผักที่มีใยอาหารชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) สูงมาก ใยอาหารนี้จะทำหน้าที่คล้ายเจลที่ดักจับไขมันและน้ำตาลในลำไส้ ก่อนที่ร่างกายจะดูดซึม ทำให้ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งการรับประทานกระเจี๊ยบเขียว นิยมนำไปลวกจิ้มน้ำพริก, ใส่ในแกงส้ม, หรือนำไปย่าง

3. ผักเชียงดา
เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “ราชินีแห่งผักพื้นบ้าน” ในภาคเหนือ มีสารสำคัญที่เรียกว่า กรดไกมีนิก (Gymnemic acid) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าสามารถช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้อีกด้วย วิธีรับประทาน สามารถนำยอดอ่อนมาลวกจิ้มน้ำพริกได้เลย

4. ใบบัวบก
มีสาร ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด ลดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จะนำมาคั้นเป็นน้ำใบบัวบก หรือทานสด ๆ เป็นเครื่องเคียงคู่กับอาหารต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน


5. เห็ด
เห็ดหลายชนิด เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม หรือเห็ดออรินจิ มีสาร เบต้ากลูแคน (Beta-glucans) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่งที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเห็ดสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ต้มยำ, ผัด, หรือแกง

6. กระเทียม
มีสารสำคัญอย่าง อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบซัลเฟอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) และไขมัน LDL (ไขมันเลว) ในเลือด งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าการบริโภคกระเทียมอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยลดระดับไขมันได้

ทั้งนี้ หากต้องการให้กระเทียมช่วยลดไขมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แนะนำให้บริโภคกระเทียมสด 1-2 หัวต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน การกินกระเทียมสดจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารสำคัญอย่างครบถ้วนและออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด

7. หอมหัวใหญ่
มีสาร เควอซิทิน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและไขมัน LDL นอกจากนี้ยังมีสารประกอบซัลเฟอร์ที่ช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันในหลอดเลือดได้

การเพิ่มผักเหล่านี้ในมื้ออาหารเป็นประจำจะช่วยเสริมการทำงานของร่างกายในการควบคุมระดับไขมันได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ หากคุณมีภาวะไขมันในเลือดสูงและต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น