xs
xsm
sm
md
lg

‘ขมิ้นชัน’ ช่วยลดไขมันพอกตับได้จริง?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ภาวะไขมันพอกตับ” เป็นปัญหาสุขภาพที่พบมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีภาวะอ้วน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ภาวะนี้สามารถนำไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ด้วยเหตุนี้ จึงมีการศึกษาและค้นหาสารธรรมชาติที่มีศักยภาพในการรักษาหรือป้องกันภาวะดังกล่าว และ “ขมิ้นชัน” ได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำรุงตับ

สารสำคัญในขมิ้นชันที่ส่งผลต่อสุขภาพตับ มีชื่อว่า “เคอร์คูมินอยด์” (Curcuminoids) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เคอร์คูมิน” (Curcumin) ซึ่งเป็นสารประกอบหลักที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยมีกลไกที่สำคัญดังนี้

ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ: เคอร์คูมินช่วยลดความเสียหายของเซลล์ตับที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการอักเสบในตับในผู้ป่วยไขมันพอกตับ

ฤทธิ์ต้านการอักเสบ: เคอร์คูมินสามารถยับยั้งการทำงานของสารสื่ออักเสบในร่างกาย ซึ่งช่วยลดการอักเสบเรื้อรังในเนื้อเยื่อตับ

ลดการสร้างไขมันในตับ: งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า เคอร์คูมินอาจมีส่วนช่วยในการลดการสะสมของไขมันในเซลล์ตับโดยการเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ไขมัน


ทั้งนี้ งานวิจัยหลายชิ้นได้ศึกษาประสิทธิภาพของขมิ้นชันต่อภาวะไขมันพอกตับ โดยมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจ เช่น งานวิจัยในประเทศอิหร่านที่ทำการศึกษาแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized controlled trial) ในปี 2559 ที่เผยแพร่ในวารสาร BMC Gastroenterology พบว่า การให้สารสกัดเคอร์คูมินแก่ผู้ป่วยไขมันพอกตับเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ส่งผลให้ปริมาณไขมันในตับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับเอนไซม์ตับ และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

ขณะที่งานวิจัยในวารสาร Complementary Therapies in Medicine ปี 2565 (ค.ศ. 2022) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) ได้รวบรวมผลการศึกษาจากทั่วโลก พบว่า การให้สารสกัดขมิ้นชันแก่ผู้ป่วยไขมันพอกตับควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดปริมาณไขมันในตับและปรับปรุงค่าเอนไซม์ตับให้ดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานวิจัยหลายชิ้นจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของขมิ้นชันในการช่วยลดไขมันพอกตับ แต่การบริโภคขมิ้นชันในรูปแบบอาหารเสริมจำเป็นต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดอาจมีปริมาณเคอร์คูมินที่แตกต่างกัน และการใช้ในปริมาณสูงเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อการทำงานของตับในบางกรณี

สรุปแล้วก็คือ สารเคอร์คูมินขมิ้นชัน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพตับในผู้ป่วยไขมันพอกตับ อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะนี้อย่างยั่งยืนที่สุดยังคงเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นการจัดการที่ต้นเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง การใช้ขมิ้นชันจึงเป็นเพียงการรักษาเสริมที่ช่วยส่งเสริมให้การทำงานของตับดีขึ้นเท่านั้น

-------------------------------
แหล่งที่มาของข้อมูล:
1. Rahmani, S., et al. (2016). Therapeutic effects of curcumin on fatty liver disease. BMC Gastroenterology.
2. Srivaro, S., et al. (2021). The effect of curcumin supplement on liver function and anthropometric parameters in patients with non-alcoholic fatty liver disease. Journal of Integrative Medicine.
3. Salehi, B., et al. (2019). Curcumin and its derivatives in the prevention and treatment of non-alcoholic fatty liver disease: A review of preclinical and clinical studies. Current Pharmaceutical Design.
4. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/35661765/


กำลังโหลดความคิดเห็น