รู้หรือไม่ว่า การพักผ่อนในความหมายของการ “ไม่ทำอะไรเลย” (nothing at all) หรือที่เรียกว่า Downtime เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายและสมอง เพราะนี่ไม่ใช่ความขี้เกียจ แต่คือการให้เวลาสมองได้ “หยุดพัก” และ “จัดระเบียบ” ตัวเองอย่างแท้จริง
1. ช่วยลดความเครียดและป้องกันภาวะหมดไฟ
เมื่อเราทำกิจกรรมต่าง ๆ สมองจะอยู่ในภาวะตื่นตัวตลอดเวลา การปล่อยให้ตัวเองได้อยู่เฉย ๆ หรือเหม่อลอยบ้าง จะช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลและอะดรีนาลีนลงได้ การหยุดพักสมองเป็นช่วง ๆ จึงเป็นเหมือนการกดปุ่ม “รีเซ็ต” ที่ช่วยให้เราฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าทางจิตใจและป้องกันภาวะหมดไฟ (Burnout) ที่อาจเกิดขึ้นได้
2. เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ปัญหา
ช่วงเวลาที่เราไม่ได้จดจ่ออยู่กับอะไรเลย สมองจะเข้าสู่โหมดที่เรียกว่า Default Mode Network ซึ่งเป็นช่วงที่สมองทำงานแบบอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและความคิดที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระ การปล่อยให้สมองได้ “ฝันกลางวัน” จึงเป็นเหมือนการเปิดพื้นที่ให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ และช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างสร้างสรรค์มากขึ้น
3. ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมือนกับการออกกำลังกายที่ร่างกายต้องการการพักฟื้น สมองก็ต้องการเวลาในการฟื้นฟูเช่นกัน การไม่ทำอะไรเลยช่วยให้สมองได้จัดระเบียบความทรงจำและข้อมูลที่ได้รับระหว่างวัน ทำให้เราสามารถจดจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น การให้สมองได้พักจึงส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความสามารถในการมีสมาธิจดจ่อ
ดังนั้นแล้ว การ “ไม่ทำอะไรเลย” บ้างในบางครั้งคราว จึงไม่ใช่การสูญเปล่าของเวลา แต่คือการลงทุนที่สำคัญอย่างหนึ่งเพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของเราเอง