บัวบก หรือที่เราชอบเรียกกันติดปากว่า ใบบัวบก คือหนึ่งในผักสมุนไพรที่หาได้ง่าย ๆ เพราะมีอยู่ในแทบทุกพื้นที่ของประเทศ รู้หรือไม่ว่า เจ้าพืชผักต้นเล็ก ๆ นี้มีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องของการบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือ ภาวะสมองเสื่อม
บัวบก เป็นผักที่สามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบ (ต้นและใบ) หรือจะนำไปคั้นหรือปั่นเป็นน้ำสำหรับดื่ม ก็ดีเช่นกัน ขณะที่ในปัจจุบันก็มีการนำไปสกัดเป็นแคปซูลหรือสกัดเป็นสารประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพมากมาย นั่นก็เพราะว่า บัวบกมีสรรคุณในการดูแลร่างกายหลากหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงแค่ลดการช้ำในและต้านการอักเสบอย่างที่รู้กันทั่วไปเท่านั้น
บัวบกมีสรรพคุณบำรุงสายตา เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินเอสูง และจากข้อมูลซึ่งทีมงานของโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย ได้รวบรวมไว้ ระบุว่า บัวบกมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณเนื่องจากใบบัวบกมีสารที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกาย และจึงทำให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์
นอกจากนั้นแล้ว บัวบกยังมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิตสูงและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว เนื่องจากกรดเอเชียติกในบัวบกทำให้ความดันโลหิตลดลง
แต่เหนืออื่นใดก็คือ ใบบัวบกมีส่วนช่วยอย่างสำคัญในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือ ภาวะสมองเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสูงอายุและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกวัน
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ สมัยดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะโฆษกกรม ให้ข้อมูลว่า สำหรับสรรพคุณของบัวบกที่ให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษคือ “บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์” เนื่องจากในบัวบกมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยทำให้เพิ่มความจำดีขึ้นและทำให้มีปฏิภาณไหวพริบเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ใบบัวบกยังช่วยเสริมการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ลดความกระวนกระวาย ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยแค่เพียงรับประทานเป็นประจำก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ปัจจุบันนี้มีการผลิตสารสกัดจากบัวบกเป็นยาบำรุงสมอง สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โปรดสังเกตมาตรฐานและเลขจดแจ้งขออนุญาตจาก อย.
อย่างไรก็ดี ใบบัวบก แม้จะดี แต่ก็มีข้อพึงระวังในการใช้หรือรับประทานด้วยเช่นกัน คือ ผลข้างเคียงจากการทานมากเกินไป อาจจะมีอาการภูมิแพ้ที่ผิวหนัง ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ เวียนศีรษะ และง่วงซึม ส่วนสตรีมีครรภ์ ก็แนะนำให้ให้ใช้ใบบัวบกสำหรับการทาผิวหรือบำรุงผิวเท่านั้น ขณะที่ผู้ป่วยโรคตับ เช่น ตับอักเสบไม่ควรรับประทาน อาจทำให้อาการแย่ลงได้ และผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด ก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากใบบัวบกอาจทำให้มีอาการง่วงซึมได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้กับยาที่ในระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัด ดังนั้น จึงควรหยุดใช้บัวบกสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
สุดท้ายแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่า บัวบกเป็นผักที่มีสรรพคุณทางยาซึ่งกินอย่างเหมาะสมก็มีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพได้ และสำหรับใครที่อยากจะทำน้ำใบบัวบกไว้สำหรับไว้ดื่ม ก็ทำง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้
1. นำบัวบกทั้งต้นมาล้างน้ำให้สะอาด
2. หั่นต้น และใบบัวบกเป็นท่อน ๆ ราว 2-3 ท่อน
3. นำใบบัวบกมาปั่นรวมกับน้ำเปล่า โดยใส่น้ำเปล่าลงไปให้ท่วมใบบัวบก
4. กรองเอาแต่น้ำมาดื่ม อาจปรุงรสด้วยน้ำผึ้งได้เล็กน้อยเพื่อลดความขม
ทั้งนี้ การดื่มน้ำใบบัวบกให้เหมาะสมตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ คือ ดื่มครั้งละ 120-200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร