นับเป็นอีกหนึ่งพืชผักที่ดีต่อสุขภาพอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับ “กระเจี๊ยบเขียว” ผักที่หากินง่าย ๆ ในบ้านเรา แต่ทว่าสรรพคุณนั้น ไม่ธรรมดา
เพราะเมื่อไม่นานมานี้ มีแม่เฒ่าชาวอเมริการายหนึ่ง นามว่า “เอลิซาเบธ ฟรานซิส” (Elizabeth Francis) ได้รับการเปิดเผยผ่านสื่อว่า เป็นบุคคลที่มีอายุยืนที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 5 ด้วยวัย 114 ปี
แม่เฒ่าผู้นี้อาศัยอยู่ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา แม้ว่าปัจจุบันเธอจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าความอายุยืนของเธอก็ได้รับการบันทึกจาก LonigeviQuest ซึ่งเป็นองค์กรที่เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีอายุยืนมากที่สุดในโลก พร้อมฝากเคล็ดลับอายุยืนไว้ให้คนรุ่นลูกหลานได้ศึกษาและปฏิบัติกันต่อไป
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของการดูแลสุขภาพโดยพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ พักผ่อนเพียงพอ ไม่นอนดึก และเดินออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้ว ยังมีเรื่องของการอาหารการกิน ซึ่งแม่เฒ่าอลิซาเบธ บอกว่า สิ่งที่เธอรับประทานเป็นประจำ มีทั้งผักคะน้า (Collard Greens) ผักกาดเขียวปลี (Mustard Greens) รวมถึงแครอท และของกินอีกหนึ่งอย่างที่เธอชอบเติมลงในมื้ออาหารก็คือ กระเจี๊ยบเขียว (ที่มา: https://www.today.com/health/oldest-living-american-rcna140482)
กระเจี๊ยบเขียว มีอะไรดี? เราพาไปดูกัน
จากเว็บไซต์ของมูลนิธิหมอชาวบ้าน ให้ข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า กระเจี๊ยบเขียว มีคุณค่าทางโภชนาการหลายด้าน ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต เส้นใยโปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซี อยู่ในปริมาณพอสมควร
ที่สำคัญกระเจี๊ยบเขียวมีกลูตาไธโอน (glutathione) มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซมเซลล์ ทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย และช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนของพืชผักที่ร่างกายย่อยไม่ได้ และเส้นใยที่ละลายน้ำได้ เช่น เพกทิน (pectin) และเมือก (mucilage) ซึ่งเกิดจากสารประกอบ acetyated acidic polysaccharide และกรดกาแล็กทูโลนิก (galactulonic caid)
ขณะที่ประโยชน์หรือสรรพคุณของ “กระเจี๊ยบเขียว” นั้นก็มีมากมาย แต่ทว่ามีอยู่ 7 ข้อที่เชื่อว่า หลายคนได้ยินแล้วต้องรู้สึกดีอย่างแน่นอน
1. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และคนที่กำลังควบคุมน้ำตาล-น้ำหนัก
2. ลดอาการท้องผูก เพราะมีเมือกที่ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวขึ้น และยังมีใยอาหารที่ดีต่อการขับถ่าย
3. ลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย
4. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระเพาะอาหาร เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบ และลำไส้อักเสบได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เท่ากับเป็นการป้องกันการนำไปสู่การเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งลำไส้ด้วย
5. ใครที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้ว การทานกระเจี๊ยบเขียวพร้อมเมือกเหนียว ๆ ใส ๆ จะช่วยเข้าไปเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
6. ฝักกระเจี๊ยบต้มเกลืออ่อน ๆ สามารถแก้อาการกรดไหลย้อนได้
7. มีโฟเลตสูง ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นจึงเหมาะกับหญิงมีครรภ์
จาก 7 ข้อที่ฟังมา จึงไม่แปลกใจเลยว่า ย่อมมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพของคุณย่าอลิซาเบธให้มีอายุยืนยาวด้วยอย่างแน่นอน จากการที่เธอมักจะเติมกระเจี๊ยบเขียวเข้าไปในเมนูอาหารแต่ละมื้อแต่ละวันเป็นประจำ
สำหรับคนที่รับประทานกระเจี๊ยบเขียวอยู่แล้ว ได้ฟังอย่างนี้ก็คงรู้สึกสุขภาพดี และใครยังไม่เคยลิ้มลอง คงต้องไปหามาติดครัวไว้บ้างแล้ว