ถ้ามีคนขอให้คุณสัญญากับตัวเองว่า “ฉันจะดีกว่าเดิมเดี๋ยวนี้เลย” เป็นไปได้ไหม?
ขณะเดียวกันคนถามก็บอกเป้าหมายว่า จะช่วยให้คุณดีกว่าตัวเองเมื่อวาน ในทุกๆวัน ในทุกวิถีทาง ตลอดชีวิตที่เหลือของคุณ…
ถ้าตื่นขึ้นมาด้วยความปรารถนาในใจเช่นนี้ และหมั่นติดตามผลเรื่อยๆ คุณน่าจะประหลาดใจ ที่พบแรงบันดาลใจมากมาย แล้วชีวิตคุณก็เริ่มมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้า…
นั่นเป็นประเด็นท้าทายจากข้อความอารัมภบท ของหนังสือเล่มเด่นชื่อ GOOD VIBES , GOOD LIFE ซึ่งสำนักพิมพ์ howto จัดพิมพ์เป็นครั้งที่ 10 ในฉบับพากย์ไทยชื่อ “ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข”
ผู้เขียนคือ เว็กซ์ คิงส์ อินฟลูเอ็นเซอร์ทางอินสตาแกรมผู้ให้แรงบันดาลใจผู้คนทั่วโลก เขาเคยผ่านประสบการณ์ชีวิตที่ตกต่ำและต้องเร่ร่อนไปกับครอบครัว แถมเมื่อมีอาชีพการงานก็เจอปัญหาล้มเหลวหลายครั้ง แต่เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้และสู้ไม่ถอย จึงตกผลึกได้ข้อคิดพลิกชีวิตใหม่ และได้แบ่งปันสิ่งที่ได้สรุปบทเรียนชีวิตช่วยคนที่รู้สึกแย่ๆ ให้ได้เจอหนทางบรรลุเป้าหมาย ช่วยคนที่อยากมีชีวิตทำสิ่งที่มีคุณค่าแก่ตัวเองและต่อโลก
การอยากใช้ชีวิตที่ดีกว่าเดิม หลายคนก็พยายามค้นหาจุดแข็งหรือ “ความเป็นเลิศ” ในตัวเอง คือ “เป็นตัวคุณในแบบที่ดีที่สุด” ก็ต้องทำลายขอบเขตของค่านิยมที่คิดว่าชีวิตต้องเป็นแบบที่ตามสังคม และไปสัมผัสสิ่งที่คาดไม่ถึง แต่มีความเป็นไปได้ โดยไม่จำกัดระดับของความพิเศษ ทั้งจุดเริ่มและจุดจบของความเป็นเลิศนั้น
ขอเพียงมุ่งมั่นดิ้นรนที่จะทำให้ดีกว่าเดิม และไม่ยอมที่จะเป็น-อยู่แบบคนระดับกลางๆ ชิวๆ
“ความเป็นเลิศ” ไม่ได้มีมุมเดียว แล้วแต่คนตีความ แต่การจะให้เกิดขึ้นจะต้องมี: จุดมุ่งหมาย ความรัก การไม่เห็นแก่ตัว ความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักชื่นชม มีความอ่อนโยน และมีความสุขที่ได้ทำให้เกิดความสำเร็จ “ที่ไม่ธรรมดา” แม้จะเริ่มจากความสำเร็จเล็กๆก็ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงความเป็นเลิศ ก็ควรมุ่งสู่ระดับ “ผู้เชี่ยวชาญ” ให้ได้ ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน เมื่อทำแล้วเพื่อให้เกิดผลดีทั้งต่อตัวเองและต่อโลก
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จึงมีเป้าหมาย ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่าน มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม จึงขอให้ตั้งเป้าหมายประจำวันว่า…
“เป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน”
การจะมีจุดมุ่งหมายชีวิตเช่นนี้ ก็ต้องให้ความสำคัญและกำกับพฤติกรรมตัวเอง ให้เกิดผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายข้างต้น
เคยมีคำถามว่า “ถ้าขอให้กล่าวถึงทุกสิ่งที่คุณรัก จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าคุณจะกล่าวถึงตัวเอง”
คุณจะเอ่ยถึงสิ่งต่างๆ มากมายเพียงไร ก่อนจะกล่าวถึงตัวเองหรือไม่?
เว็กซ์ คิงส์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นโค้ชด้านจิตใจ มีความรอบรู้ด้านจิตวิญญาณและมีความเชื่อมั่นในทัศนคติเชิงบวก เพื่อสร้างความสำเร็จในชีวิตและการงาน
เขาบอกว่า คำถามดังกล่าวนี้เป็นการเตือนคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่อง “การรักตัวเอง” เพราะเคยชินกับการสนใจว่า “คนอื่นคิดอย่างไรกับเรา” มากกว่าสนใจว่า “เราคิดกับตัวเองอย่างไร”
เราก็เลยตกอยู่ในภาวะที่พยายามทำให้คนอื่นพอใจ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีคุณค่า แล้วก็ดิ้นรนใฝ่หาปัจจัยภายนอกไม่สิ้นสุด แต่ละเลยการพัฒนาให้เติบโตทางจิตวิญญาณตัวเอง
แท้จริงแล้ว “การรักตัวเอง” คือการสร้างสมดุลระหว่างการยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็น พร้อมกับ รู้ว่าคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าและพยายามไปให้ถึงจุดนั้น
เมื่อเกิดความสมดุลจะช่วยให้สบายใจขึ้น และไม่รู้สึกแย่ เช่นคนเป็นหัวหน้าทีม ที่จะต้องลงมือจัดการอะไรบางอย่าง แทนการนิ่งเฉยอดทน หรือทำความเข้าใจและให้อภัย กับสิ่งที่เกิดจากผู้เกี่ยวข้อง ด้วยการยึดหลักการที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อระบบหน่วยงาน ก็จะสร้างความเห็นด้วยและมีโอกาสได้รับความนับถือในตัวคุณ
“การรักตัวเอง” จึงเป็นการเพิ่มคุณค่าในตัวคุณและสร้างการยอมรับ (ไม่ใช่หลบเลี่ยงเพื่ออ้างการไม่เผชิญกับสิ่งท้าทาย) มีองค์ประกอบ 2 อย่างที่ต้องสมดุลกัน
1 ส่งเสริมการรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข (เหมือนที่แม่มีความรักและปรารถนาดีต่อเขา
2 ส่งเสริมการเติบโตโดยเน้นที่การลงมือทำ การพัฒนาตัวเองก็เป็น การแสดงความรักตังเอง ที่ตระหนักว่าตัวเองสมควรได้สิ่งที่ดีกว่าการอยู่ในระดับปานกลาง
การรักตัวเองต้องคิดแบบที่รักคนอื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข เช่นรู้สึกต่อคนรัก (แม้มีบางอย่างเป็นข้อด้อย) แต่ก็สนับสนุนให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และอยากให้เธอเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ การรักตัวเองก็คือการทำเรื่องแนวนี้กับตัวเอง แต่ไม่ใช่ตามใจตัวเอง
เมื่อรักตัวเองจะช่วยให้เจอความสมดุล ระหว่างชุดความคิด(Mindset) และการกระทำ (Action) เกิดผลลัพธ์ที่ดี ชีวิตก็จะเริ่มรักคุณตอบสนองเช่นกัน
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เชื่อมโยงแนวคิดจากการได้อ่านหนังสือ The Secret ที่มีเนื้อหาหลักคือ “กฎแห่งแรงดึงดูด” ซึ่งยืนยันว่า “สิ่งที่คุณคิดคุณคุณเชื่อและจดจ่อ จะเกิดขึ้นจริงตามนั้น”
เราสามารถดึงดูด “สิ่งที่ต้องการ”เข้ามาในชีวิตได้ด้วยการ “คิดถึงสิ่งนั้นด้วยความรู้สึกเชื่อมั่นจริงจัง” แล้วสิ่งที่คุณใส่ใจก็จะย้อนกลับมาหาคุณ
“กฎแห่งแรงดึงดูด” ให้ความสำคัญกับการ “คิดถึงสิ่งที่ต้องการ” มากกว่าการใส่ใจกับสิ่งที่หวาดกลัวหรือไม่ต้องการ และ “การคิดเชิงบวก” จะได้ผลเมื่อคุณคิดบวก แม้จะไม่ได้สมหวังทุกสิ่งที่ต้องการ แต่ก็ยังจะมีเรื่องดีๆแฝงมาด้วย
เพราะชื่อหนังสือเล่มนี้ว่าด้วย Good Vibes จึงให้ความสำคัญกับ “กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน” ที่กล่าวว่าทุกอย่างในจักรวาล ล้วนมีแรงสั่นสะเทือนของตัวเอง และสิ่งที่มีความถี่ของการสั่นสะเทือนตรงกันย่อมดึงดูดเข้าหากัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ “กฎแห่งแรงดึงดูด”ที่ร่วมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ใช้เกื้อหนุนให้มีชีวิตที่ดีกว่า
ดังที่ นโปเลียน ฮิลล์ ปรมาจารย์ด้านหลักแห่งการสร้างความสำเร็จ ผู้เขียนหนังสือสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองรุ่นแรกๆ ของโลก เช่น “Think and Grow Rick “หนังสือยอดนิยมอมตะตลอดกาล (ฉบัปรับปรุง ใหม่ที่แปลโดย ไพบูลย์ สำราญภูติ ใช้ชื่อปกพากย์ไทยว่า คิดแล้ว..ต้องรวย)
ข้อสรุปประการหนึ่งที่ฮิลล์ค้นพบ จากการศึกษาค้นคว้าว่า “เราเป็น อย่างที่เป็น เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของความคิดที่เราเลือกและบันทึกไว้ ผ่านการกระตุ้นของสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน”
การจะทำให้ความคิดกลายเป็นรูปประธรรม อย่างน้อยก็เป็นจริงสำหรับตัวคุณ ก็ต้องเชื่อมต่อกับความถี่ในแรงสั่นสะเทือนของสิ่งนั้น ยิ่งนึกเป็นภาพว่าสิ่งนั้นเป็นจริง หรือคิดเป็นรูปเห็นร่างมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเข้าใกล้แรงสั่นสะเทือนของสิ่งนั้น โอกาสที่สิ่งนั้นจะเป็นจริงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เว็กซ์ คิงส์ กล่าวไว้ในบทท้ายถึงคำสำคัญที่น่าจะเป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกคนก็คือ “ความสุข” ว่าการเพิ่มแรงสั่นสะเทือนจากภายในและความรู้สึกเบิกบานใจ จะทำให้ประสบความสุขได้จริง เริ่มจากความรู้สึกดี สถานะของแรงสั่นสะเทือนก็สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้คนมักจะนำการมีเงินไปโยงกับความสุขและความสำเร็จ แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็ยังสรุปบทเรียนว่า ต่อให้มีเงินทองมากมายก็ยังเผชิญกับความเศร้าเสียใจได้ ถ้าใช้เงินเป็นตัววัดความสุขและความสำเร็จ สุดท้ายแล้วตัวเลขก็ไม่เคยพอเพียง เพราะยังอยากได้มากขึ้น
เขายืนยันว่าความสุขที่ยั่งยืนในชีวิตนั่นแหละคือความสำเร็จอย่างแท้จริง ดังนั้น ลองเปลี่ยนวิธีคิด ความรู้สึก การพูด และการกระทำ และคุณจะเริ่มเปลี่ยนโลกของตัวเอง
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ GOOD VIBES GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข
ผู้เขียน เว็กซ์ คิงส์
สำนักพิมพ์ อัมรินทร์ฮาวทู
แนะนำหนังสือ
วิธีฝึกสติและปรับสมอง
ผู้เขียน : SHAUNA SHAPIRO
ผู้แปล : ภรณี ภูรีสิทธิ์
สำนักพิมพ์ : บี มีเดีย
ราคา 220 บาท
วิธีฝึกสติ และปรับสมอง เปลี่ยนวิธีคิด เพิ่มความเมตตากรุณา เพื่อความสงบสุข แจ่มชัด และเบิกบาน หนังสือเล่มนี้สอนการฝึกเจริญสติ การภาวนา การปรับเปลี่ยนวิธีคิด และการฝึกตนเพื่อปรับสมอง เพราะสิ่งที่เราฝึกฝนเป็นประจำ จะเปลี่ยนสมองของเราได้
ครองใจคนได้ง่ายนิดเดียว
ผู้เขียน : ริชาร์ด เทมพลาร์
ผู้แปล : สมิทธิ์ เอกโชติ
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
ราคา 235 บาท
กฎที่จะทำให้คุณอยู่ให้เขารัก จากให้เขาอาลัย ตายให้เขาคิดถึง กฎเหล่านี้เป็นหลักการที่บันดาลความราบรื่นให้ชีวิต เป็นกฎที่จะสอนคุณว่า ควรผูกไมตรีกับคนอื่นอย่างไร จะคบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงผู้ร่วมงานให้ซี้ย่ำปึ้ก และซื้อใจคนหัวรั้นที่พูดไม่รู้ภาษาให้หันมาสนับสนุนแบบสุดตัวได้อย่างไร
แล้วชีวิตจะผ่านไปได้ด้วยดี
ผู้เขียน : ฮิโจริ โมริโมโตะ
ผู้แปล : วลัยพร บำรุงสวัสดิ์
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
ราคา 169 บาท
"ฮิโจริ โมริโมโตะ" อดีตนักกีฬาเบสบอลระดับท็อปของญี่ปุ่น แบ่งปันเรื่องราวสุดประทับใจที่อาจช่วยให้โลกของคุณงดงามขึ้น
เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก
ผู้เขียน : แพซ็องแท
ผู้แปล : พรพิสุทธิ์ มั่นคง
สำนักพิมพ์ : บลูม พับลิชชิ่ง
ราคา 345 บาท
หนังสือภาพลายเส้นซึ้งอินกินใจ บันทึกทุกห้วงอารมณ์ของความรัก พร้อมบทความบรรยายความรู้สึกของ "หนุ่มนักวาดฟรีแลนซ์" ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน กับเรื่องราวของสองคนกับหนึ่งความสัมพันธ์ (พร้อมลูกสาวอีกสองตัว) ที่จะพาคุณไปทบทวนช่วงเวลาอันมีค่า พร้อมกับคนที่คุณรัก
ขณะเดียวกันคนถามก็บอกเป้าหมายว่า จะช่วยให้คุณดีกว่าตัวเองเมื่อวาน ในทุกๆวัน ในทุกวิถีทาง ตลอดชีวิตที่เหลือของคุณ…
ถ้าตื่นขึ้นมาด้วยความปรารถนาในใจเช่นนี้ และหมั่นติดตามผลเรื่อยๆ คุณน่าจะประหลาดใจ ที่พบแรงบันดาลใจมากมาย แล้วชีวิตคุณก็เริ่มมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้า…
นั่นเป็นประเด็นท้าทายจากข้อความอารัมภบท ของหนังสือเล่มเด่นชื่อ GOOD VIBES , GOOD LIFE ซึ่งสำนักพิมพ์ howto จัดพิมพ์เป็นครั้งที่ 10 ในฉบับพากย์ไทยชื่อ “ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข”
ผู้เขียนคือ เว็กซ์ คิงส์ อินฟลูเอ็นเซอร์ทางอินสตาแกรมผู้ให้แรงบันดาลใจผู้คนทั่วโลก เขาเคยผ่านประสบการณ์ชีวิตที่ตกต่ำและต้องเร่ร่อนไปกับครอบครัว แถมเมื่อมีอาชีพการงานก็เจอปัญหาล้มเหลวหลายครั้ง แต่เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้และสู้ไม่ถอย จึงตกผลึกได้ข้อคิดพลิกชีวิตใหม่ และได้แบ่งปันสิ่งที่ได้สรุปบทเรียนชีวิตช่วยคนที่รู้สึกแย่ๆ ให้ได้เจอหนทางบรรลุเป้าหมาย ช่วยคนที่อยากมีชีวิตทำสิ่งที่มีคุณค่าแก่ตัวเองและต่อโลก
การอยากใช้ชีวิตที่ดีกว่าเดิม หลายคนก็พยายามค้นหาจุดแข็งหรือ “ความเป็นเลิศ” ในตัวเอง คือ “เป็นตัวคุณในแบบที่ดีที่สุด” ก็ต้องทำลายขอบเขตของค่านิยมที่คิดว่าชีวิตต้องเป็นแบบที่ตามสังคม และไปสัมผัสสิ่งที่คาดไม่ถึง แต่มีความเป็นไปได้ โดยไม่จำกัดระดับของความพิเศษ ทั้งจุดเริ่มและจุดจบของความเป็นเลิศนั้น
ขอเพียงมุ่งมั่นดิ้นรนที่จะทำให้ดีกว่าเดิม และไม่ยอมที่จะเป็น-อยู่แบบคนระดับกลางๆ ชิวๆ
“ความเป็นเลิศ” ไม่ได้มีมุมเดียว แล้วแต่คนตีความ แต่การจะให้เกิดขึ้นจะต้องมี: จุดมุ่งหมาย ความรัก การไม่เห็นแก่ตัว ความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักชื่นชม มีความอ่อนโยน และมีความสุขที่ได้ทำให้เกิดความสำเร็จ “ที่ไม่ธรรมดา” แม้จะเริ่มจากความสำเร็จเล็กๆก็ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงความเป็นเลิศ ก็ควรมุ่งสู่ระดับ “ผู้เชี่ยวชาญ” ให้ได้ ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน เมื่อทำแล้วเพื่อให้เกิดผลดีทั้งต่อตัวเองและต่อโลก
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จึงมีเป้าหมาย ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่าน มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม จึงขอให้ตั้งเป้าหมายประจำวันว่า…
“เป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน”
การจะมีจุดมุ่งหมายชีวิตเช่นนี้ ก็ต้องให้ความสำคัญและกำกับพฤติกรรมตัวเอง ให้เกิดผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายข้างต้น
เคยมีคำถามว่า “ถ้าขอให้กล่าวถึงทุกสิ่งที่คุณรัก จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าคุณจะกล่าวถึงตัวเอง”
คุณจะเอ่ยถึงสิ่งต่างๆ มากมายเพียงไร ก่อนจะกล่าวถึงตัวเองหรือไม่?
เว็กซ์ คิงส์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นโค้ชด้านจิตใจ มีความรอบรู้ด้านจิตวิญญาณและมีความเชื่อมั่นในทัศนคติเชิงบวก เพื่อสร้างความสำเร็จในชีวิตและการงาน
เขาบอกว่า คำถามดังกล่าวนี้เป็นการเตือนคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่อง “การรักตัวเอง” เพราะเคยชินกับการสนใจว่า “คนอื่นคิดอย่างไรกับเรา” มากกว่าสนใจว่า “เราคิดกับตัวเองอย่างไร”
เราก็เลยตกอยู่ในภาวะที่พยายามทำให้คนอื่นพอใจ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีคุณค่า แล้วก็ดิ้นรนใฝ่หาปัจจัยภายนอกไม่สิ้นสุด แต่ละเลยการพัฒนาให้เติบโตทางจิตวิญญาณตัวเอง
แท้จริงแล้ว “การรักตัวเอง” คือการสร้างสมดุลระหว่างการยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็น พร้อมกับ รู้ว่าคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าและพยายามไปให้ถึงจุดนั้น
เมื่อเกิดความสมดุลจะช่วยให้สบายใจขึ้น และไม่รู้สึกแย่ เช่นคนเป็นหัวหน้าทีม ที่จะต้องลงมือจัดการอะไรบางอย่าง แทนการนิ่งเฉยอดทน หรือทำความเข้าใจและให้อภัย กับสิ่งที่เกิดจากผู้เกี่ยวข้อง ด้วยการยึดหลักการที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อระบบหน่วยงาน ก็จะสร้างความเห็นด้วยและมีโอกาสได้รับความนับถือในตัวคุณ
“การรักตัวเอง” จึงเป็นการเพิ่มคุณค่าในตัวคุณและสร้างการยอมรับ (ไม่ใช่หลบเลี่ยงเพื่ออ้างการไม่เผชิญกับสิ่งท้าทาย) มีองค์ประกอบ 2 อย่างที่ต้องสมดุลกัน
1 ส่งเสริมการรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข (เหมือนที่แม่มีความรักและปรารถนาดีต่อเขา
2 ส่งเสริมการเติบโตโดยเน้นที่การลงมือทำ การพัฒนาตัวเองก็เป็น การแสดงความรักตังเอง ที่ตระหนักว่าตัวเองสมควรได้สิ่งที่ดีกว่าการอยู่ในระดับปานกลาง
การรักตัวเองต้องคิดแบบที่รักคนอื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข เช่นรู้สึกต่อคนรัก (แม้มีบางอย่างเป็นข้อด้อย) แต่ก็สนับสนุนให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และอยากให้เธอเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ การรักตัวเองก็คือการทำเรื่องแนวนี้กับตัวเอง แต่ไม่ใช่ตามใจตัวเอง
เมื่อรักตัวเองจะช่วยให้เจอความสมดุล ระหว่างชุดความคิด(Mindset) และการกระทำ (Action) เกิดผลลัพธ์ที่ดี ชีวิตก็จะเริ่มรักคุณตอบสนองเช่นกัน
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เชื่อมโยงแนวคิดจากการได้อ่านหนังสือ The Secret ที่มีเนื้อหาหลักคือ “กฎแห่งแรงดึงดูด” ซึ่งยืนยันว่า “สิ่งที่คุณคิดคุณคุณเชื่อและจดจ่อ จะเกิดขึ้นจริงตามนั้น”
เราสามารถดึงดูด “สิ่งที่ต้องการ”เข้ามาในชีวิตได้ด้วยการ “คิดถึงสิ่งนั้นด้วยความรู้สึกเชื่อมั่นจริงจัง” แล้วสิ่งที่คุณใส่ใจก็จะย้อนกลับมาหาคุณ
“กฎแห่งแรงดึงดูด” ให้ความสำคัญกับการ “คิดถึงสิ่งที่ต้องการ” มากกว่าการใส่ใจกับสิ่งที่หวาดกลัวหรือไม่ต้องการ และ “การคิดเชิงบวก” จะได้ผลเมื่อคุณคิดบวก แม้จะไม่ได้สมหวังทุกสิ่งที่ต้องการ แต่ก็ยังจะมีเรื่องดีๆแฝงมาด้วย
เพราะชื่อหนังสือเล่มนี้ว่าด้วย Good Vibes จึงให้ความสำคัญกับ “กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน” ที่กล่าวว่าทุกอย่างในจักรวาล ล้วนมีแรงสั่นสะเทือนของตัวเอง และสิ่งที่มีความถี่ของการสั่นสะเทือนตรงกันย่อมดึงดูดเข้าหากัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ “กฎแห่งแรงดึงดูด”ที่ร่วมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ใช้เกื้อหนุนให้มีชีวิตที่ดีกว่า
ดังที่ นโปเลียน ฮิลล์ ปรมาจารย์ด้านหลักแห่งการสร้างความสำเร็จ ผู้เขียนหนังสือสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองรุ่นแรกๆ ของโลก เช่น “Think and Grow Rick “หนังสือยอดนิยมอมตะตลอดกาล (ฉบัปรับปรุง ใหม่ที่แปลโดย ไพบูลย์ สำราญภูติ ใช้ชื่อปกพากย์ไทยว่า คิดแล้ว..ต้องรวย)
ข้อสรุปประการหนึ่งที่ฮิลล์ค้นพบ จากการศึกษาค้นคว้าว่า “เราเป็น อย่างที่เป็น เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของความคิดที่เราเลือกและบันทึกไว้ ผ่านการกระตุ้นของสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน”
การจะทำให้ความคิดกลายเป็นรูปประธรรม อย่างน้อยก็เป็นจริงสำหรับตัวคุณ ก็ต้องเชื่อมต่อกับความถี่ในแรงสั่นสะเทือนของสิ่งนั้น ยิ่งนึกเป็นภาพว่าสิ่งนั้นเป็นจริง หรือคิดเป็นรูปเห็นร่างมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเข้าใกล้แรงสั่นสะเทือนของสิ่งนั้น โอกาสที่สิ่งนั้นจะเป็นจริงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เว็กซ์ คิงส์ กล่าวไว้ในบทท้ายถึงคำสำคัญที่น่าจะเป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกคนก็คือ “ความสุข” ว่าการเพิ่มแรงสั่นสะเทือนจากภายในและความรู้สึกเบิกบานใจ จะทำให้ประสบความสุขได้จริง เริ่มจากความรู้สึกดี สถานะของแรงสั่นสะเทือนก็สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้คนมักจะนำการมีเงินไปโยงกับความสุขและความสำเร็จ แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็ยังสรุปบทเรียนว่า ต่อให้มีเงินทองมากมายก็ยังเผชิญกับความเศร้าเสียใจได้ ถ้าใช้เงินเป็นตัววัดความสุขและความสำเร็จ สุดท้ายแล้วตัวเลขก็ไม่เคยพอเพียง เพราะยังอยากได้มากขึ้น
เขายืนยันว่าความสุขที่ยั่งยืนในชีวิตนั่นแหละคือความสำเร็จอย่างแท้จริง ดังนั้น ลองเปลี่ยนวิธีคิด ความรู้สึก การพูด และการกระทำ และคุณจะเริ่มเปลี่ยนโลกของตัวเอง
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ GOOD VIBES GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข
ผู้เขียน เว็กซ์ คิงส์
สำนักพิมพ์ อัมรินทร์ฮาวทู
แนะนำหนังสือ
วิธีฝึกสติและปรับสมอง
ผู้เขียน : SHAUNA SHAPIRO
ผู้แปล : ภรณี ภูรีสิทธิ์
สำนักพิมพ์ : บี มีเดีย
ราคา 220 บาท
วิธีฝึกสติ และปรับสมอง เปลี่ยนวิธีคิด เพิ่มความเมตตากรุณา เพื่อความสงบสุข แจ่มชัด และเบิกบาน หนังสือเล่มนี้สอนการฝึกเจริญสติ การภาวนา การปรับเปลี่ยนวิธีคิด และการฝึกตนเพื่อปรับสมอง เพราะสิ่งที่เราฝึกฝนเป็นประจำ จะเปลี่ยนสมองของเราได้
ครองใจคนได้ง่ายนิดเดียว
ผู้เขียน : ริชาร์ด เทมพลาร์
ผู้แปล : สมิทธิ์ เอกโชติ
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
ราคา 235 บาท
กฎที่จะทำให้คุณอยู่ให้เขารัก จากให้เขาอาลัย ตายให้เขาคิดถึง กฎเหล่านี้เป็นหลักการที่บันดาลความราบรื่นให้ชีวิต เป็นกฎที่จะสอนคุณว่า ควรผูกไมตรีกับคนอื่นอย่างไร จะคบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงผู้ร่วมงานให้ซี้ย่ำปึ้ก และซื้อใจคนหัวรั้นที่พูดไม่รู้ภาษาให้หันมาสนับสนุนแบบสุดตัวได้อย่างไร
แล้วชีวิตจะผ่านไปได้ด้วยดี
ผู้เขียน : ฮิโจริ โมริโมโตะ
ผู้แปล : วลัยพร บำรุงสวัสดิ์
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
ราคา 169 บาท
"ฮิโจริ โมริโมโตะ" อดีตนักกีฬาเบสบอลระดับท็อปของญี่ปุ่น แบ่งปันเรื่องราวสุดประทับใจที่อาจช่วยให้โลกของคุณงดงามขึ้น
เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก
ผู้เขียน : แพซ็องแท
ผู้แปล : พรพิสุทธิ์ มั่นคง
สำนักพิมพ์ : บลูม พับลิชชิ่ง
ราคา 345 บาท
หนังสือภาพลายเส้นซึ้งอินกินใจ บันทึกทุกห้วงอารมณ์ของความรัก พร้อมบทความบรรยายความรู้สึกของ "หนุ่มนักวาดฟรีแลนซ์" ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน กับเรื่องราวของสองคนกับหนึ่งความสัมพันธ์ (พร้อมลูกสาวอีกสองตัว) ที่จะพาคุณไปทบทวนช่วงเวลาอันมีค่า พร้อมกับคนที่คุณรัก