xs
xsm
sm
md
lg

คนที่ทำอะไรก็สำเร็จ เขาใช้วิธีการอย่างไร / ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อตอนขึ้นปีใหม่ คุณได้ตั้งเป้าหมายสำคัญในการใช้ชีวิตหรืออาชีพการงานสำหรับปีนี้ ไว้อย่างไร?

นี่ก็ผ่านเวลาเข้าสู่ครึ่งหลังของปีแล้ว เกิดอะไรขึ้น มีความคืบหน้า หรือใกล้ความสำเร็จไปแค่ไหนแล้ว

เอาล่ะครับ หากคุณมีการตั้งเป้าหมาย หรือถึงขั้นประกาศเป็นปณิธานที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนาบทใหม่ของชีวิต ทำให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นทางด้าน สุขภาพ การงาน การเงิน และครอบครัว

ก็ขอชื่นชมการเริ่มต้นใหม่ ด้วยการตั้งเป้าหมายที่มั่นคงและชัดเจน ส่วนจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีแค่ไหน ย่อมขึ้นอยู่กับการลงมือทำและวิธีการ ที่ทำอย่างสม่ำเสมอและมีวินัยเพียงใด

ดังนั้น ไม่ว่าผลที่ผ่านมาจะสำเร็จหรือไม่ ถ้ายังอยากให้ดีกว่าเดิม ก็ควรสร้างเสริมวิธีคิดและวิธีการกระทำที่ดี ในการเดินหน้าชีวิตและการงานจากนี้ไป เพื่อให้เกิดผลดีขึ้นจนพิชิตเป้าหมายที่สูงขึ้นได้ภายในสิ้นปีนี้นะครับ…ขอเป็นกำลังใจ

ถ้าเช่นนั้น จังหวะเวลานี้น่าจะเหมาะในการเตรียมทำ”คะแนนชีวิต”ครึ่งหลังของปีนี้ให้เป็นผลบวกเพิ่มขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องสำคัญให้สำเร็จสมใจ

จึงขอแนะนำหนังสือที่ดีมากเรื่อง คนที่ทำอะไรก็สำเร็จ ทำอะไร

ศุภภัทร พัฒนเดชากุล แปลจากต้นฉบับ GOAL ACHIEVEMENT How to get The Best Result เขียนโดย มิทานิ ชุน

เหมาะจะเป็นคู่มือสำหรับคนที่อยากบรรลุเป้าหมายเพื่อให้สำเร็จ ในทุกสิ่งที่ทำจริง อีก โดยผู้เขียนใช้ประสบการณ์ที่เคยเป็นนักกีฬา เป็นนักกฎหมาย ให้เป็นที่ปรึกษานักบริหาร ได้ตกผลึกเป็นแนวคิดและวิธีการทำงานจากตัวอย่างที่ถ่ายทอดให้เข้าใจได้ชัดเจน

รวมทั้งสะท้อนปัจจัยเบื้องหลังความคิดและพฤติกรรมที่ต่างกันของคนที่ทำสำเร็จและคนที่ทำไม่สำเร็จ และชี้ทางสว่างสำหรับคนที่อยากได้วิธีการทำให้สำเร็จได้ดี

น่าสนใจว่าหากใครหรือองค์กรใดมีจุดมุ่งหมาย (Purpose) ที่ต้องการดำเนินอยู่อย่างมีความหมายหรือมีคุณค่าเป็นที่ยอมรับ ด้านใด ระดับไหน ให้ระบุเป็นเป้าหมาย (Goal) ที่ชัดเจนและมีแผนลงมือทำ ที่วัดความคืบหน้าได้ ก็จะสะสมความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป

เป้าหมายด้านอาชีพการงาน เช่น “ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 30% ในเดือนนี้”

เป้าหมายด้านส่วนตัว เช่น “ใน 3 เดือนก่อนถึงปลายปี อยากลดน้ำหนักให้ได้ 5 กิโลกรัม”

เป้าหมายด้านทีมงาน เช่น “อยากทำยอดขายไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นมากกว่าไตรมาส 2 อีก 30%”

3 ขั้นตอนที่จำเป็น

เพื่อไม่ให้เป็นแค่เป้าหมาย “คิดอยากได้” แต่ต้องมีวิธีการเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายที่เป็นจริง ซึ่งมี 3 ขั้นตอนดังนี้

1 ตั้งเป้าหมาย : ที่สามารถทำสำเร็จได้
(คิดบวก = คิดว่าทำได้ทุกเรื่องที่มีเหตุผล)

2 วางแผนลงมือทำ : แผนที่ลงมือทำให้สำเร็จได้
(คิดลบ = วางแผนละเอียดรอบคอบ
เผื่อเกิดเรื่องผิดคาด)

3 ลงมือทำตามแผน : ทำจนสำเร็จไม่ท้อถอย
(คิดบวก= เชื่อมั่นว่าทำสำเร็จแน่)

ขั้นตอนที่ 1 ผู้เขียนแนะให้ตั้งเป้าสูงกว่า “ที่ทำได้” เพื่อเป็นเป้าท้าทาย “ที่อยากทำ” จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ต้องเพิ่มการเอาจริง และทีมงานช่วยกันสุดฝีมือ เพื่อให้ใกล้ความสำเร็จ

ขั้นตอนที่ 2 เป็นแผนปฏิบัติการ( Action Plan)ใช้ความคิดย้อนศรแบบ Milestone คือคิดย้อนหลังจากเป้าปลายทาง ให้มีเป้าย่อยระหว่างทางที่ต้องทำอะไร วันไหน อย่างไร

เช่นมีเป้าหมายจะลดน้ำหนัก 5 กก.ภายใน 3 เดือน จึงตั้งเป้าย่อยเดือนแรกลด 2กก. และช่วงเดือนสุดท้ายก็ต้องลดไปแล้ว 4 กก.จึงจะสำเร็จ

การที่ให้ “คิดลบ” ในการวางแผนด้วย คือให้มีแผนสำรองรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

ขั้นตอนที่ 3 เน้นการกระทำตามแผนอย่างเต็มที่จนสำเร็จด้วยความเชื่อมั่น

เน้นย้ำว่า “คุณไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ แต่ควบคุมการกระทำได้” จึงควรเน้นที่การกระทำ แทนที่จะเป็นเล็งที่ผลลัพธ์ เพราะเมื่อทำเหตุดีผลย่อมดีนะครับ

ทั้งนี้การตั้งเป้าหมายและการลงมือทำ ให้เริ่มทำเรื่องที่สำเร็จได้ไม่ยากก่อน ตามหลักคิดที่ว่า

ความสำเร็จเล็กๆ x สม่ำเสมอ = ผลมหาศาล

3 สภาวะพื้นที่ทางใจ

วิธีการบรรลุเป้าหมายที่หนังสือเล่มนี้มักเอ่ยถึง เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดผลแปรผันได้ แม้มีการจัดการทั้ง 3 ขั้นตอนอย่างรัดกุมก็ตาม คือมีการตั้งเป้าหมาย (คิดบวก) การวางแผน (คิดลบ) และลงมือทำ (คิดบวก)

นั่นเป็นเพราะมีปัจจัยและเงื่อนไขแวดล้อม ที่มีผลให้เกิดผลกระทบต่อความรู้สึกเชิงบวกหรือเชิงลบได้ ซึ่งในทางจิตกับวิทยาจะเรียกต่างกันได้แก่

●การอยู่ในภาวะที่รู้สึกเคยชิน ปลอดภัย สบายใจจึงเป็น “พื้นที่คุ้นชิน” (Comfort Zone) ทำให้คนไม่อยากเปลี่ยนแปลง เช่นมีที่ทำงาน ที่พักเดิม ๆ ได้รับมอบหมายงานที่ถนัดเคยชิน

●เกิดการเปลี่ยนแปลง จนรู้สึกออกจากภาวะพื้นทีคุ้นชินกลาย เป็นภาวะ “พื้นที่ยืดตัว” ( Streth Zoon) เช่นรู้สึกกดดันเมื่อก้าวสู่ภาวะใหม่ รับงานใหม่ที่ต้องใช้วิธีใหม่ ต้องย้ายที่อยู่หรือที่ทำงานต่างจากเดิม หรือได้รับตำแหน่งใหม่ที่ได้เงินเพิ่มพร้อมเป้าที่สูงขึ้น

●ยิ่งถ้าเจอภาวะความรู้สึกที่ไปไกลกว่าพื้นที่ยืดตัวกลายเป็น “พื้นที่ตื่นตระหนก” (Panic Zone) เช่นถูกไล่ออกจากงาน หรือต้องย้ายไปทำงานต่างแดนที่ไม่เข้าใจภาษาอย่างกะทันหัน หรือเจ็บป่วยจนไปทำงานไม่ได้ ที่มีโอกาสเจอจะต้องเลือกในการจัดการเป้าหมายระหว่างภาวะพื้นที่คุ้นชิน กับพื้นที่ยืดตัว ว่าจะเลือกทางไหน (ตามแผนภาพที่อยู่ด้านบน)

ถ้าติดยึดในความรู้สึกพื้นที่คุ้นชิน แล้วไม่ทำ ก็อาจจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำ เพราะปล่อยโอกาสให้หลุดมือ แต่ถ้ากล้าเผชิญกับความท้าทาย แม้เป็นพื้นที่ยืดตัว มีแรงกดดัน

เมื่อตัดสินใจลงมือทำ แล้วใช้กระบวนการพัฒนาคุณภาพ PDCA คือ Pมีแผนที่ดี Dลงมือทำ C ติดตามผล ถ้าเจอข้อติดขัด A ก็ปรับปรุงแก้ไข และเรียนรู้

หนังสือเล่มนี้ ฟันธงว่าความรู้สึกในภาวะ “พื้นที่ยืดตัว” เป็นโอกาสในการบรรลุเป้าหมาย เพราะจะมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น และแสดงศักยภาพได้สูงกว่าคนยึดติดความรู้สึกแบบ “พื้นที่คุ้นชิน”
...............................

ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ “คนที่ทำอะไรก็สำเร็จ ทำอะไร” GOAL ACHIEVEMENT How to get The Best Result
ผู้เขียน : มิทานิ ชุน
ผู้แปล : ศุภภัทร พัฒนเดชากุล
สำนักพิมพ์ : WE LEARN


แนะนำหนังสือ


100 เคล็ดลับ ยกระดับคุณภาพการนอน
ผู้เขียน : Tokio Knowledge (โทะกิโอะ โนว์เลดจ์)
ผู้แปล : วิธารณี จงสถิตย์วัฒนา
สำนักพิมพ์ : นานมีบุ๊คส์
ราคา 265 บาท

หนังสือที่จะเปลี่ยนเวลา 1 ใน 3 ของชีวิตคุณให้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เพียงแค่นอนหลับสนิทก็จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ครอบคลุมทั้งด้านการกิน การนอน การออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอน พร้อมบอกวิธีปรับเพื่อให้สามารถนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น


สำเร็จได้เพราะรู้กลยุทธ์ผูกใจเจ้านาย
ผู้เขียน : ณรงค์วิทย์ แสนทอง
สำนักพิมพ์ : ต้นคิด
ราคา 215 บาท

หนังสือที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ได้พบเจอมาในการทำงาน และในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาส่วนบุคคลให้กับคนทำงานในองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้ใครหลายคนที่กำลังมีปัญหากับเจ้านาย เป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์มาอยู่เหนือกว่า และสามารถซื้อใจนายมาอยู่ในกำมือของคุณได้สำเร็จ!


ชีวิตสุขล้นของคน (ไม่) สมบูรณ์แบบ The Gifts of Imperfection
ผู้เขียน : Brene Brown, Ph.D (เบรเน บราวน์, ดร.)
ผู้แปล : ดร. พรรณผกา รุ่งเรือง
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
ราคา 229 บาท

มนุษย์ล้วนมีความกังวลกับความไม่สมบูรณ์แบบของตนเองด้วยกันทั้งนั้น หากคุณมีความกังวลที่จะไม่สมบูรณ์แบบ รู้สึกว่าทำอย่างไรก็ไม่ดีพอ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำในหนังสือเล่มนี้ เพื่อเปลี่ยนชีวิตของ "คุณ" ให้กลายเป็น "คุณ" ที่มีความสุขกว่าเดิม


The Startup Mindset
ผู้เขียน : ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน (Casper S.)
สำนักพิมพ์ : วิช กรุ๊ป (ไทยแลนด์)
ราคา 389 บาท

หนังสือที่ได้รวบรวม 29 แนวคิดจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน "ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน (แคสเปอร์)" อุปนายกสมาคม Thai Startup คนไทย คนรุ่นใหม่ ผู้มีโอกาสได้พบกับบุคคลสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของหลากหลายประเทศ รวมถึงนักธุรกิจชื่อดังต่าง ๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น