ถ้ามีการสำรวจคำสำคัญยอดฮิตในยุคนี้ ผมว่า Ikigai (อิคิไก) น่าจะติดกลุ่มที่ได้รับความสนใจ อยากรู้ อยากเข้าถึง แน่นอน
เพราะในกระแสสังคมโลกยุคปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับวิธีการที่สร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) มีคุณค่า (Value) และมีความหมาย (Meaningful)
แวดวงวิชาการนักพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตจึงพากันสนใจแนวคิดนี้ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาร่วมพันปีมาแล้ว และหนังสือ Blue Zones ของ แดน บิวด์เนอร์ ได้สนใจเรื่องอิคิไก กล่าวถึงหมู่บ้านโอกิมิ ในจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ก็ชื่นชมประชากรสูงอายุ ที่มีสุขภาพดี ที่นั่น
อิคิไกคืออะไร
Ikigai (อิคิไก) หมายถึง “คุณค่าของชีวิต” มาจากคำว่า iki แปลว่า ชีวิต และ gai หมายถึง คุณค่า
อิคิไก เป็นจิตวิญญาณของชีวิตที่สมดุล ช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสุขกายและเบิกบานใจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบ 1 ใน 10 ข้อ ที่ยืนยันด้วยผลการศึกษาวิจัยเหตุปัจจัยที่คนโอกินาวา เป็นชุมชนที่มีประชากรอายุเกิน 100 ปี มากที่สุดในโลก
เพราะ อิคิไก คือ “จุดมุ่งหมายของการมีชีวิต” (Purpose of Life) หรือคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และเป็น “เหตุผลที่ทำให้คุณลุกจากเตียงนอนตอนเช้าอย่างมีชีวิตชีวา” และกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งที่มีความหมาย ต่อตัวเองและผู้อื่น
โลกจึงสนใจที่จะศึกษาเรียนรู้ “อิคิไก” กันเป็นกระแส มีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาหลายเล่ม และเล่มใหม่ที่ผมอ่านแล้ว รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจดีมาก จึงขอนำเนื้อหาสำคัญมาแบ่งปัน เล่มนี้คือ...
“How to Ikigai” มีชื่อปกฉบับภาษาไทยว่า วิถีอิคิไก เขียนโดย ทิม ทะมะชิโระช่วยให้เข้าใจชัดเจนว่าคืออะไร และบอกวิธีค้นหาอิคิไกของตัวคุณ โดยขยายความด้วยการเล่าประสบการณ์ตัวเอง และเรื่องเราคนเด่นในวงการต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 20 เรื่อง ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินชีวิตและเลือกทำงาน ในแนวทางของตัวที่สอดคล้องกับแนวคิดอิคิไก และชีวิตมีคุณค่าอย่างมีความสุข
อะไรคือความสำเร็จของชีวิต
การสร้างคุณค่าและความสุขแก่ชีวิตที่เป็นอยู่ กลายเป็นแนวโน้มใหม่ของการตีความเรื่อง “ความสำเร็จของชีวิต”
ตัวอย่างที่มหาวิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา ดร.ลอรี่ ซานโตส สอนวิชา “ศาสตร์แห่งสุขภาวะ” (The Science of Well-Being) มีนักศึกษาเข้าเรียนมากถึงคราวละ 1,200 คน แสดงว่าวิชานี้และอาจารย์ท่านนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 316 ปี ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ดร.ซานโตส ยืนยันด้วยผลวิจัยมากมายว่า การมีเงินทอง ทรัพย์สินมีค่า ตำแหน่งการงานหรือคะแนนสอบ ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุข เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อสุขภาวะโดยรวมของเราน้อยมาก
ทำงานมอบความสุขและรับความสุขได้
ทิม ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เดิมก็ไม่รู้จักอิคิไกมาก่อน แต่ก็มีวิธีคิด แนวการดำเนินชีวิตและการเลือกอาชีพการงานเป็นแนวนี้ แสดงว่าตัวเขามีสิ่งที่เรียกว่า “อิคิไก”อยู่แล้ว และตอนนี้เขาเริ่มรู้ว่า ตัวเองมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเพื่ออะไร
เมื่อตอนจบการศึกษา ทิมได้งานเป็นผู้ช่วยนักสำรวจถนน ค่าตอบแทนก็ดี แต่เขาบอกว่า “มันเป็นอาชีพ แต่ไม่ใช่ความฝันที่ผมอยากทำ” เขาจึงมุ่งไปเรียนด้านดนตรี เพื่อจะมีอาชีพใหม่ในสายธุรกิจเกี่ยวกับดนตรี จนได้เป็นพนักงานร้านขายแผ่นเสียง พร้อมกับร่วมงานวงดนตรี ซึ่งเขามีความสนุกและพอใจกับรายได้ จากนั้นก็ได้โอกาสเป็นตัวแทนค่ายดนตรีใหญ่ มีจังหวะก้าวที่ดี ได้งานที่ตัวรัก และทำได้ดี จึงมีความสุขและรายได้น่าพอใจ
เมื่อตอนที่รับจ้างเป็นผู้จัดรายการที่สถานีวิทยุ CBC เขาต้องค้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเพลง ศิลปิน หรือนักแต่งเพลง เพื่อมาเล่าเชื่อมโยงกับเพลงที่เปิด ให้ผู้ฟังรื่นรมย์ จนเป็นที่ชื่นชอบแฟนเพลงมากมาย “ผมส่งความสุขผ่านเครื่องวิทยุทุกครั้งที่ออกอากาศ และผู้ฟังก็ส่งความสุขกลับมาให้ผมเช่นกัน” ทิมเล่าให้ฟัง
มาส่องหาอิคิไกในตัว
จากหลายตัวอย่างในหนังสือ เราได้เห็นลีลาการใช้ชีวิตและการทำอาชีพการงานเพื่อให้ผลลัพธ์ชีวิตมีคุณค่ามากกว่าเพียงผลทางธุรกิจ
ถ้าจะหาอิคิไกในตัวเอง ลองดำเนินตาม “ลายแทงอิคิไก” เพื่อจะได้ผลแบบสุขกาย และสบายใจ ก็ด้วยแนวปฏิบัติ 4 ข้อนี้
1.ทำสิ่งที่คุณรัก /สุขใจที่ได้ทำ
2.ทำสิ่งที่คุณเก่ง/ถนัด/ทำได้ดี
3.ทำสิ่งที่โลกต้องการ/สังคมต้องการ/ตลาดต้องการ /เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
4.ทำสิ่งที่จะได้รับรางวัลตอบแทน / เป็นรายได้ / เป็นความภูมิใจ /สุขใจ
ความจริง สังคมโลกเริ่มเข้าใจความหมายของอิคิไกดีขึ้น เมื่อพิมพ์ค้นหาคำ Ikigai ทาง google ก็จะพบข้อมูลอ้างอิงด้วยแผนภาพแบบเวนน์ (Venn Diagram) ที่เป็นรูปวงกลม 4 วง วางเหลื่อมกัน ช่วยให้เข้าใจแนวคิดอิคิไกจาก 4 แนวปฏิบัติดังกล่าวชัดเจนขึ้น
อิคิไก 2 ระดับ
จากวงจร 4 มิติของอิคิไก หนังสือเล่มนี้ และให้ทำทีละครึ่งก็ได้
อิคิไกครึ่งรูปแบบ
เริ่มทำใน “สิ่งที่รักจะทำ” และทำ “สิ่งที่เก่งหรือทำได้ดี”
เริ่มจากงานเสริมพิเศษ หรือปรับแนวของงานประจำที่เหมาะสมก็ได้ ประโยชน์จะเกิดขึ้นจากการทำแนวนี้บ่อย ๆ ก็เป็นความสุขจากการได้ทำสิ่งที่เป็นพรสวรรค์ หรือ "จุดแข็ง” ของคุณ
แม้เป็นงานพิเศษช่วยเหลือผู้อื่น เป็นงานที่อาจไม่สร้างเงินรายได้ก็ตาม แต่ก็สร้างความสุข ความภูมิใจ เป็นรางวัลตอบแทนทางใจ จากการช่วยเหลือสังคม
อิคิไกเต็มรูปแบบ
จากครึ่งแรกของอิคิไก ที่เน้นตัวเรา คือทำสิ่งที่เรารัก เราเก่ง ถนัดและทำได้ดี อิคิไกเต็มรูปแบบจะเป็นการทำครบวงจร โดยหลักคิด “จงไปให้เหนือกว่าตัวตนของคุณ เพื่อให้รู้ในคุณค่าตัวเองที่มีต่อโลก”
อิคิไกอีกครึ่งหนึ่ง จึงเป็นการทำสิ่งที่โลกต้องการ เช่นในสิ่งที่เป็นผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นการทำสิ่งที่ได้รางวัลตอบแทน ทั้งที่เป็นตัวเงินหรือเป็นผลตอบแทนทางใจก็ตาม
การใช้ชีวิตด้วยวิถีอิคิไก คือหัวใจสำคัญในการสร้างจุดมุ่งหมายระยะยาวให้ชีวิต และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายทุก ๆ วัน
เดินตามลายแทง 4 ข้อข้างต้น คุณจะได้พบพรสวรรค์หรือจุดแข็งของตน และช่วยแบ่งปันสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น เพื่อสังคมโลกของเราที่ดีขึ้น แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลตอบแทนในสิ่งที่คุณทำแน่นอนอีก
............................
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ
ผู้เขียน Tim Tamashiro
ผู้แปล เขมขวัญ
สำนักพิมพ์ เชนจ์ พลัส
...............................
*แนะนำหนังสือ*
1 นาทีก็ฟิตได้ สไตล์ฝรั่งเศส
ผู้เขียน : โยโกะ แบร์เฌอรง
ผู้แปล : ธันยาภัทร์ ศิริทรัพย์
สำนักพิมพ์ : ไดฟุกุ
ราคา : 199 บาท
เคล็ดลับบริหารช่องคลอด เล่มแรกของไทย เคล็ด (ไม่) ลับ คุณแม่หลังคลอดก็หุ่นเป๊ะได้ ไม่พึ่งรีแพร์ ลดปวดประจำเดือน แก้ปัสสาวะเล็ด
Invent & Wander เจฟฟ์ เบโซส
ผู้เขียน : เจฟฟ์ เบโซส
ผู้แปล : สมสกุล เผ่าจินดามุข
สำนักพิมพ์ : เนชั่นบุ๊คส์
ราคา : 295 บาท
นี่คือหนังสือที่เขียนโดยคนที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก ผู้เริ่มต้นนับ 1 จากก้าวเล็ก ๆ ในโรงรถ ทุกความสำเร็จยิ่งใหญ่ เริ่มต้นที่ก้าวแรกเสมอ
การคิดเป็นภาพ
ผู้เขียน : วิลเลมเมียน แบรนด์
ผู้แปล : ภาวินี เจือติระรักษ์
สำนักพิมพ์ : สุขภาพใจ
ราคา : 379 บาท
คุณไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านศิลปะแบบแวนโก๊ะห์ หรือมีความฉลาดแบบไอน์สไตน์ เพียงรู้จักใช้เทคนิคการคิดเป็นภาพและทำให้บริษัทของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้นได้
ลงทุนหุ้น ท่ามกลางวิกฤต
ผู้เขียน : ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น
ราคา : 265 บาท
20 มหาเศรษฐีหลังโควิด อันดับเศรษฐีโลกในรอบ 25 ปี อนาคตของการลงทุนต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร หาคำตอบได้จากหนังสือเล่มนี้!
เพราะในกระแสสังคมโลกยุคปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับวิธีการที่สร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) มีคุณค่า (Value) และมีความหมาย (Meaningful)
แวดวงวิชาการนักพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตจึงพากันสนใจแนวคิดนี้ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาร่วมพันปีมาแล้ว และหนังสือ Blue Zones ของ แดน บิวด์เนอร์ ได้สนใจเรื่องอิคิไก กล่าวถึงหมู่บ้านโอกิมิ ในจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ก็ชื่นชมประชากรสูงอายุ ที่มีสุขภาพดี ที่นั่น
อิคิไกคืออะไร
Ikigai (อิคิไก) หมายถึง “คุณค่าของชีวิต” มาจากคำว่า iki แปลว่า ชีวิต และ gai หมายถึง คุณค่า
อิคิไก เป็นจิตวิญญาณของชีวิตที่สมดุล ช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสุขกายและเบิกบานใจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบ 1 ใน 10 ข้อ ที่ยืนยันด้วยผลการศึกษาวิจัยเหตุปัจจัยที่คนโอกินาวา เป็นชุมชนที่มีประชากรอายุเกิน 100 ปี มากที่สุดในโลก
เพราะ อิคิไก คือ “จุดมุ่งหมายของการมีชีวิต” (Purpose of Life) หรือคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และเป็น “เหตุผลที่ทำให้คุณลุกจากเตียงนอนตอนเช้าอย่างมีชีวิตชีวา” และกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งที่มีความหมาย ต่อตัวเองและผู้อื่น
โลกจึงสนใจที่จะศึกษาเรียนรู้ “อิคิไก” กันเป็นกระแส มีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาหลายเล่ม และเล่มใหม่ที่ผมอ่านแล้ว รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจดีมาก จึงขอนำเนื้อหาสำคัญมาแบ่งปัน เล่มนี้คือ...
“How to Ikigai” มีชื่อปกฉบับภาษาไทยว่า วิถีอิคิไก เขียนโดย ทิม ทะมะชิโระช่วยให้เข้าใจชัดเจนว่าคืออะไร และบอกวิธีค้นหาอิคิไกของตัวคุณ โดยขยายความด้วยการเล่าประสบการณ์ตัวเอง และเรื่องเราคนเด่นในวงการต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 20 เรื่อง ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินชีวิตและเลือกทำงาน ในแนวทางของตัวที่สอดคล้องกับแนวคิดอิคิไก และชีวิตมีคุณค่าอย่างมีความสุข
อะไรคือความสำเร็จของชีวิต
การสร้างคุณค่าและความสุขแก่ชีวิตที่เป็นอยู่ กลายเป็นแนวโน้มใหม่ของการตีความเรื่อง “ความสำเร็จของชีวิต”
ตัวอย่างที่มหาวิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา ดร.ลอรี่ ซานโตส สอนวิชา “ศาสตร์แห่งสุขภาวะ” (The Science of Well-Being) มีนักศึกษาเข้าเรียนมากถึงคราวละ 1,200 คน แสดงว่าวิชานี้และอาจารย์ท่านนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 316 ปี ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ดร.ซานโตส ยืนยันด้วยผลวิจัยมากมายว่า การมีเงินทอง ทรัพย์สินมีค่า ตำแหน่งการงานหรือคะแนนสอบ ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุข เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อสุขภาวะโดยรวมของเราน้อยมาก
ทำงานมอบความสุขและรับความสุขได้
ทิม ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เดิมก็ไม่รู้จักอิคิไกมาก่อน แต่ก็มีวิธีคิด แนวการดำเนินชีวิตและการเลือกอาชีพการงานเป็นแนวนี้ แสดงว่าตัวเขามีสิ่งที่เรียกว่า “อิคิไก”อยู่แล้ว และตอนนี้เขาเริ่มรู้ว่า ตัวเองมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเพื่ออะไร
เมื่อตอนจบการศึกษา ทิมได้งานเป็นผู้ช่วยนักสำรวจถนน ค่าตอบแทนก็ดี แต่เขาบอกว่า “มันเป็นอาชีพ แต่ไม่ใช่ความฝันที่ผมอยากทำ” เขาจึงมุ่งไปเรียนด้านดนตรี เพื่อจะมีอาชีพใหม่ในสายธุรกิจเกี่ยวกับดนตรี จนได้เป็นพนักงานร้านขายแผ่นเสียง พร้อมกับร่วมงานวงดนตรี ซึ่งเขามีความสนุกและพอใจกับรายได้ จากนั้นก็ได้โอกาสเป็นตัวแทนค่ายดนตรีใหญ่ มีจังหวะก้าวที่ดี ได้งานที่ตัวรัก และทำได้ดี จึงมีความสุขและรายได้น่าพอใจ
เมื่อตอนที่รับจ้างเป็นผู้จัดรายการที่สถานีวิทยุ CBC เขาต้องค้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเพลง ศิลปิน หรือนักแต่งเพลง เพื่อมาเล่าเชื่อมโยงกับเพลงที่เปิด ให้ผู้ฟังรื่นรมย์ จนเป็นที่ชื่นชอบแฟนเพลงมากมาย “ผมส่งความสุขผ่านเครื่องวิทยุทุกครั้งที่ออกอากาศ และผู้ฟังก็ส่งความสุขกลับมาให้ผมเช่นกัน” ทิมเล่าให้ฟัง
มาส่องหาอิคิไกในตัว
จากหลายตัวอย่างในหนังสือ เราได้เห็นลีลาการใช้ชีวิตและการทำอาชีพการงานเพื่อให้ผลลัพธ์ชีวิตมีคุณค่ามากกว่าเพียงผลทางธุรกิจ
ถ้าจะหาอิคิไกในตัวเอง ลองดำเนินตาม “ลายแทงอิคิไก” เพื่อจะได้ผลแบบสุขกาย และสบายใจ ก็ด้วยแนวปฏิบัติ 4 ข้อนี้
1.ทำสิ่งที่คุณรัก /สุขใจที่ได้ทำ
2.ทำสิ่งที่คุณเก่ง/ถนัด/ทำได้ดี
3.ทำสิ่งที่โลกต้องการ/สังคมต้องการ/ตลาดต้องการ /เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
4.ทำสิ่งที่จะได้รับรางวัลตอบแทน / เป็นรายได้ / เป็นความภูมิใจ /สุขใจ
ความจริง สังคมโลกเริ่มเข้าใจความหมายของอิคิไกดีขึ้น เมื่อพิมพ์ค้นหาคำ Ikigai ทาง google ก็จะพบข้อมูลอ้างอิงด้วยแผนภาพแบบเวนน์ (Venn Diagram) ที่เป็นรูปวงกลม 4 วง วางเหลื่อมกัน ช่วยให้เข้าใจแนวคิดอิคิไกจาก 4 แนวปฏิบัติดังกล่าวชัดเจนขึ้น
อิคิไก 2 ระดับ
จากวงจร 4 มิติของอิคิไก หนังสือเล่มนี้ และให้ทำทีละครึ่งก็ได้
อิคิไกครึ่งรูปแบบ
เริ่มทำใน “สิ่งที่รักจะทำ” และทำ “สิ่งที่เก่งหรือทำได้ดี”
เริ่มจากงานเสริมพิเศษ หรือปรับแนวของงานประจำที่เหมาะสมก็ได้ ประโยชน์จะเกิดขึ้นจากการทำแนวนี้บ่อย ๆ ก็เป็นความสุขจากการได้ทำสิ่งที่เป็นพรสวรรค์ หรือ "จุดแข็ง” ของคุณ
แม้เป็นงานพิเศษช่วยเหลือผู้อื่น เป็นงานที่อาจไม่สร้างเงินรายได้ก็ตาม แต่ก็สร้างความสุข ความภูมิใจ เป็นรางวัลตอบแทนทางใจ จากการช่วยเหลือสังคม
อิคิไกเต็มรูปแบบ
จากครึ่งแรกของอิคิไก ที่เน้นตัวเรา คือทำสิ่งที่เรารัก เราเก่ง ถนัดและทำได้ดี อิคิไกเต็มรูปแบบจะเป็นการทำครบวงจร โดยหลักคิด “จงไปให้เหนือกว่าตัวตนของคุณ เพื่อให้รู้ในคุณค่าตัวเองที่มีต่อโลก”
อิคิไกอีกครึ่งหนึ่ง จึงเป็นการทำสิ่งที่โลกต้องการ เช่นในสิ่งที่เป็นผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นการทำสิ่งที่ได้รางวัลตอบแทน ทั้งที่เป็นตัวเงินหรือเป็นผลตอบแทนทางใจก็ตาม
การใช้ชีวิตด้วยวิถีอิคิไก คือหัวใจสำคัญในการสร้างจุดมุ่งหมายระยะยาวให้ชีวิต และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายทุก ๆ วัน
เดินตามลายแทง 4 ข้อข้างต้น คุณจะได้พบพรสวรรค์หรือจุดแข็งของตน และช่วยแบ่งปันสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น เพื่อสังคมโลกของเราที่ดีขึ้น แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลตอบแทนในสิ่งที่คุณทำแน่นอนอีก
............................
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ
ผู้เขียน Tim Tamashiro
ผู้แปล เขมขวัญ
สำนักพิมพ์ เชนจ์ พลัส
...............................
*แนะนำหนังสือ*
1 นาทีก็ฟิตได้ สไตล์ฝรั่งเศส
ผู้เขียน : โยโกะ แบร์เฌอรง
ผู้แปล : ธันยาภัทร์ ศิริทรัพย์
สำนักพิมพ์ : ไดฟุกุ
ราคา : 199 บาท
เคล็ดลับบริหารช่องคลอด เล่มแรกของไทย เคล็ด (ไม่) ลับ คุณแม่หลังคลอดก็หุ่นเป๊ะได้ ไม่พึ่งรีแพร์ ลดปวดประจำเดือน แก้ปัสสาวะเล็ด
Invent & Wander เจฟฟ์ เบโซส
ผู้เขียน : เจฟฟ์ เบโซส
ผู้แปล : สมสกุล เผ่าจินดามุข
สำนักพิมพ์ : เนชั่นบุ๊คส์
ราคา : 295 บาท
นี่คือหนังสือที่เขียนโดยคนที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก ผู้เริ่มต้นนับ 1 จากก้าวเล็ก ๆ ในโรงรถ ทุกความสำเร็จยิ่งใหญ่ เริ่มต้นที่ก้าวแรกเสมอ
การคิดเป็นภาพ
ผู้เขียน : วิลเลมเมียน แบรนด์
ผู้แปล : ภาวินี เจือติระรักษ์
สำนักพิมพ์ : สุขภาพใจ
ราคา : 379 บาท
คุณไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านศิลปะแบบแวนโก๊ะห์ หรือมีความฉลาดแบบไอน์สไตน์ เพียงรู้จักใช้เทคนิคการคิดเป็นภาพและทำให้บริษัทของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้นได้
ลงทุนหุ้น ท่ามกลางวิกฤต
ผู้เขียน : ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น
ราคา : 265 บาท
20 มหาเศรษฐีหลังโควิด อันดับเศรษฐีโลกในรอบ 25 ปี อนาคตของการลงทุนต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร หาคำตอบได้จากหนังสือเล่มนี้!