xs
xsm
sm
md
lg

จะดื่มวิตามินซีแบบน้ำ เจลลี่ เลือกกินแบบไหนดี ให้ได้ประโยชน์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในยุคที่เราตั้งเป้าอยากมีสุขภาพดี มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นเหมือนเกราะป้องกันจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ประกอบกับไลฟสไตล์การใช้ชีวิตที่เคร่งเครียด การเผชิญการมลภาวะ การเลือกรับประทานผักผลไม้ ที่ไม่หลากหลาย หรือสดใหม่ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราลดต่ำลง ดังนั้นตัวช่วยสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ในเวลานี้ก็คือ วิตามินซี หนึ่งในวิตามินที่เรียกได้ว่าเป็นวิตามินสามัญประจำบ้าน และการมาถึงของวิตามินซีที่อยู่ในรูปเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีหรือวิตามินซีแบบเจลลี่ ที่มาแก้โจทย์คนที่ต้องการดูแลสุขภาพฉบับเร่งรัด ด้วยคอนเซปที่ว่า ดื่มง่าย สะดวก หาซื้อง่าย ในราคาที่จับต้องได้ ทำให้ใครหลายคนติดใจกับการดื่มวิตามินในรูปของเครื่องดื่มมากขึ้น แต่เคยสงสัยมั้ยว่า หากเราหวังผลในเรื่องการดูแลสุขภาพหรือการเสริมภูมิคุ้มกันมากกว่าแค่ความสดชื่น จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องดื่มเสริมวิตามินแบบไหนที่ร่างกายจะได้รับประโยชน์เต็มที่?

เช็คลิสต์เลือกเครื่องดื่มวิตามินซี ให้ดีต่อสุขภาพ

ลองมาดูกันว่า ถ้าคุณเดินเข้าไปเลือกเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีสักแบรนด์หนึ่งในร้านสะดวกซื้อ อะไรบ้างที่คุณควรจะพิจารณาก่อนจะหยิบแล้วเดินไปจ่ายเงินซื้อกลับไปดื่ม

1.เลือกดูปริมาณวิตามินซีต่อขวด
วิตามินซีที่ใส่มาในเครื่องดื่มเสริมวิตามินซี ส่วนใหญ่แล้ว คือ วิตามินซีสังเคราะห์หรือที่เรารู้จักในชื่อของ กรดแอสคอร์บิก แอซิด (Ascorbic Acid) ซึ่งเป็นวิตามินซีสังเคราะห์ที่คิดค้นขึ้นมา เพื่อให้ ร่างกายนำไปใช้ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาว และทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากใส่ในปริมาณที่ต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็ไม่ได้มีผลในเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันซะทีเดียว ซึ่งจากวารสารทางการแพทย์ระบุ ขนาดรับประทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน หรือช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัด ต้องรับประทานวิตามินซีปริมาณสูง 1,000-3,000 มก. ต่อวันเลยทีเดียว

และถ้าไปสำรวจบรรดาเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีหรือเจลลี่ตามร้านสะดวกซื้อ จะพบว่า ปริมาณวิตามินซีต่อขวด จะอยู่ที่ประมาณ 100-120 มก./ขวด เท่านั้น แต่หากเป็นการทานเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันหวัด ขนาดการรับประทานจะอยู่ที่ 1,000 มก. ขึ้นไป


นั่นหมายความว่า หากจะพึ่งพาการดื่มเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จะต้องดื่มมากถึงประมาณ 8 ขวด ต่อวัน (คำนวณจาก เครื่องดื่มวิตามินซี 120 มก./ขวด) ถึงจะได้ปริมาณวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งในปริมาณวิตามินซีต่อขวดนั้นอาจสลายตัวไปก่อนหน้านั้นบ้างแล้ว

2.ดูส่วนประกอบสำคัญบนฉลากข้างขวด
ถัดจากเรื่องของปริมาณวิตามินซีต่อขวดที่ร่างกายจะได้รับแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นความกังวลใจของคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพจริงจัง นั่นคือ เรื่องของปริมาณน้ำตาล ที่ใส่เพิ่มเข้ามาเพื่อปรับรสชาติให้เปรี้ยวน้อยลง ให้รสหวานมากขึ้น ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีทั้งใส่น้ำตาล หรือสารให้ความหวานทดแทนเข้ามาเป็นสัดส่วน หรือเปอร์เซ็นต์แตกต่างกัน เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 กรัม หรือประมาณ 3 ช้อนชา

ในขณะที่ปริมาณความต้องการน้ำตาลของร่างกายคนเราไม่เกิน 6-8 ช้อนชา หรือ 24 กรัมต่อวัน ซึ่งได้รับจากอาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ ในระหว่างวันอยู่แล้ว และถ้าร่างกายได้รับน้ำตาลเพิ่มเข้าไปอีก ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้หมดในทันที ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และถ้านำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานไม่หมดก็จะตามมาด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นตามมา


นอกจากปริมาณน้ำตาลที่ใส่มาให้แล้ว หากพลิกขวดดูส่วนประกอบสำคัญโดยประมาณ จะพบว่า ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น “วัตถุกันเสีย” และ “สารแต่งกลิ่นธรรมชาติ” ถึงแม้ว่าจะใส่มาในปริมาณที่ปลอดภัย แต่เราก็อาจจะตะขิดตะขวงใจอยู่ไม่น้อยที่รู้ว่าวัตถุกันเสีย หรือสารแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีอยู่ดี เรื่องนี้ก็ต้องมาพิจารณากันเองว่า ยอมรับในเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

3. ดูบรรจุภัณฑ์ที่รักษาสภาพวิตามินซี
ถ้าเทียบวิตามินทั้งหมดที่จำเป็นต่อร่างกาย วิตามินซี เป็นตัวที่เกิดการสลายตัวได้เร็วที่สุดในบรรดาวิตามินทั้งหมด เมื่อได้รับความร้อน ไม่ว่าจะมาจากแสงแดด จากการหุงต้ม หรือการแปรรูปด้วยความร้อนในกระบวนการผลิต หรือขั้นตอนบรรจุภาชนะ ด้วยเหตุนี้วิตามินซีจึงจำเป็นต้องเก็บรักษาในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปกป้องวิตามินซีจากแสงหรือความร้อน เพราะฉะนั้นการเลือกดื่มเครื่องดื่มเสริมวิตามินซี คงต้องพิจารณาว่าบรรจุภัณฑ์แบบไหนที่คงสภาพวิตามินไม่ให้เสื่อม หรือสลายตัวจากความร้อน แสงแดด หรือความชื้นได้บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้วคุณอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยนอกจากน้ำตาลเท่านั้น


4.ดูสารคงสภาพวิตามินซีเมื่อเข้าสู่ในร่างกาย (ไบไอฟลาโวนอยด์)
เนื่องจากวิตามินซี เป็นวิตามินในกลุ่มที่สลายตัวได้เร็ว และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างยาก ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำเอาสารธรรมชาติ ที่ชื่อว่า ไบโอฟลาโวนอยด์ นำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในวิตามินซีด้วย เนื่องจากมีผลการศึกษาพบว่า ไบโอฟลาโวนอยด์ มีผลเพิ่มการดูดซึมของวิตามินซี โดยมีผลเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินซีผ่านเส้นเลือดฝอย จึงช่วยให้การดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่กระแสเลือดและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ไบโอฟลาโวนอยด์ ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระปกป้องวิตามินซีจากการถูกทำลาย และช่วยเสริมการทำงานกับวิตามินซีช่วยดูแลฟื้นฟูเซลล์ร่างกาย


5.มาตรฐานความปลอดภัย
ถึงแม้จะเป็นเครื่องดื่มที่หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่มาตรฐานการผลิต และความปลอดภัยของอาหารที่คุณนำเข้าสู่ร่างกายเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม มาตรฐานการผลิต และความปลอดภัยที่ควรมองหาจากบนฉลาก เช่น เครื่องหมาย อย. หรือ เครื่องหมาย GMP ซึ่งมาตรฐานรับรองการผลิตอาหารให้ปลอดภัยซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกรับรอง มีการตรวจสอบทั้งเรื่องของวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องดื่มเสริมวิตามินที่ผลิตออกมานั้น ได้มาตรฐานการผลิต และปลอดภัยจนถึงมือผู้บริโภค

6.ความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ทุกวันนี้เมื่อเราเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตจะพบว่า มีเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีเรียงรายให้เลือกหลายแบรนด์ ที่มีทั้งสีสัน ดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ที่สะดุดตา หรือแม้แต่การดึงเอาคนดังหรือผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดมาสร้างการรับรู้ของเครื่องดื่มวิตามินซีแบรนด์ต่าง ๆ จนเราหลงลืมที่จะพิจารณาไปถึงประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญของผู้ผลิตที่การันตีได้ถึงคุณภาพของวิตามินซีที่จะได้รับ เพราะประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของผู้ผลิตสะท้อนได้ถึงมาตรฐานการผลิต องค์ความรู้ที่สั่งสมประสบการณ์มาเป็นเวลานาน


7.ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย
การเลือกเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และต่อยอดไปถึงการมีสุขภาพที่ดีด้วยวิตามินซีถือว่า เป็นเรื่องที่ดีต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีในท้องตลาด ลองถามตัวเองดูสักข้อว่า ความตั้งใจที่ดื่มเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีคืออะไร ประโยชน์ที่จะได้รับคุ้มค่าหรือดีพอสำหรับสุขภาพของเรามากน้อยแค่ไหน ถึงแม้ว่าเครื่องดื่มวิตามินซีจะหาซื้อง่าย สะดวก ในราคาที่จับต้องได้ ก็อาจจะยังไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หรือแทนที่จะได้ประโยชน์จากวิตามินซีอาจได้น้ำตาลปริมาณสูงมาแทน

มาถึงตรงนี้ ก็น่าจะมีบทสรุปให้กับเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีพอได้แล้วว่า อยากดื่มก็ดื่มได้ แต่ควรดื่มแต่พอดี ส่วนเรื่องประโยชน์นั้น ถ้าหากเป็นการช่วยดับกระหาย คลายร้อน เรียกความสดชื่น เครื่องดื่มวิตามินซีทั้งหลายน่าจะตอบโจทย์ได้ดี เพียงแต่ปริมาณวิตามินซีที่ใส่มา น้อยเกินไป อาจจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้ไม่มากมายนัก


ถ้าหากต้องการให้ร่างกายได้รับวิตามินเสริมเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้จริง ควรเลือกเครื่องดื่มเสริมวิตามินที่ให้ปริมาณวิตามินซีปริมาณสูง 1,000 มก. หรือเลือกเป็นวิตามินซีแบบเม็ดแทนก็ได้ ที่สำคัญควรเลือกวิตามินซีคุณภาพสูง ปลอดภัยและมีมาตรฐานการผลิตเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย จะตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงเป้าที่สุด ในยุคที่สุขภาพแข็งแรงอาจยังไม่พอ ภูมิคุ้มกันต้องแข็งแกร่ง
เริ่มต้นสุขภาพดีได้ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่วันนี้ เสริมภูมิต้านทานที่ดีให้กับร่างกายนั้น ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ภูมิต้านทานอ่อนแอลง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ควบคู่ไปกับการทานวิตามินซีปริมาณสูง ที่มีไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยให้ดูดซึมวิตามินซีได้ดียิ่งขึ้น และอยู่ในร่างกายได้นาน ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เนื่องจากไม่มีความเป็นกรด ในรูปแบบชงดื่ม เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย พกพาสะดวกไปได้ทุกที ในรูปแบบซองพร้อมชงดื่ม สามารถทานได้ทั้งครอบครัว ด้วยความปรารถนาดีจาก MEGA We Care

สนใจข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มเติมได้ที่
1. https://www.megawecare.co.th/
2. Vitamin-express: คลิก


Reference :
1. Carr AC, Maggini S. Vitamin C and Immune Function. 2017; Nov:39(11).
2. Journal of Evidence-Based Complementary & Alternative Medicine, 16(1) 49-57
3. Maggini S et al.Nutrients 2017, 9, 339*British Journal of Nutrition (2007), 98, Suppl. 1, S29–S35
4. Vinson JA, Bose P. Comparative Bioavailability to Humans of Ascorbic Acid Alone or in Citrus Extract. American Journal of Clinical Nutrition · October 1988.
5. Straten MV. Prevent common cold with vitamin C supplement. Adv Ther. 2002 May-Jun;19(3):151-9.
6. Hemila H. Vitamin C and Infections. Department of Public Health, University of Helsinki. 2017; March,1-27.
7. Tongtako W et al. Effects of aerobic exercise and vitamin C supplementation on rhinitis symptoms in allergic rhinitis patients. Asian Pacific Journal of Allergy and Immunology.
8. Hemila H, Chalker E. Vitamin C for preventing and treating the common cold, The Cochrane Collaboration. Published by John Wiley & Sons. Department of Public Health, University of Helsinki.
9. Johnston, C.S. & Luo, B. Comparison of the absorption and excretion of three commercially available sources of vitamin C. Journal of the American Dietetic Association. 1994; volume 94: pages 779-781.
10. Douglas RM, Hemila H, Chalker E, Treacy B. Vitamin C for preventing and treating the common cold. Cochrane Database Syst Rev 2007; (3):CD000980.
11. Bioflavonoids. Available at : https://www.drugs.com/


(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)





กำลังโหลดความคิดเห็น