น้ำ เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องบริโภคเป็นประจำทุกวัน โดยประโยชน์ของน้ำหลักๆ เลยก็คือ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้เป็นปกติ ช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ระบบและกระบวนการทำงานต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดี ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ร่างกาย ช่วยให้ผ่อนคลาย ชะลอความแก่ ลดอาการปวดข้อต่างๆ ช่วยลดพุง ลดปริมาณไขมันในร่างกาย และลดน้ำหนักได้ แต่ดื่มเท่าไหร่ถึงจะดีต่อร่างกายกันล่ะ

หากอยากรู้ว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือไม่ วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ หากดื่มน้ำเพียงพอจะมีปัสสาวะสีเหลืองใส ขับถ่ายสะดวก แต่หากดื่มน้ำไม่เพียงพอจะมีปัสสาวะสีเข้ม มีกลิ่นฉุนจัด ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน มีปัญหาการขับถ่ายหรือท้องผูก
อีกทั้งการดื่มน้ำไม่เพียงพอยังทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และขับของเสียออกมาได้ยาก ถ้าผู้หญิงดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลให้ประจำเดือนมาน้อย หรือไม่มาเลยก็ได้
ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมกับร่างกาย มีดังนี้
-สำหรับผู้ที่อายุ 4-8 ปี ปริมาณที่ควรได้รับคือ 5 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,200 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้ที่อายุ 9-13 ปี ปริมาณที่ควรได้รับคือ 7-8 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,600-1,900 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้ที่อายุ 14-18 ปี ปริมาณที่ควรได้รับคือ 8-11 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,900-2,600 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้หญิงที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ปริมาณที่ควรได้รับคือ 9 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2,100 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้ชายที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ปริมาณที่ควรได้รับคือ 13 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 3,000 มิลลิลิตร
หรือสามารถคำนวณได้โดยการเอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 หารด้วย 2 ให้หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตร เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 1,650 มิลลิลิตร เป็นต้น
เทคนิคการดื่มน้ำที่ดีต่อร่างกาย
- ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8-12 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี) หรือตามปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน
- อย่าดื่มเร็วเกินไป หรือดื่มมากเกินไป ค่อยๆ จิบทีละนิดจะดีกว่า

ข้อมูลอ้างอิงประกอบ
www.pobpad.com
หากอยากรู้ว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือไม่ วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ หากดื่มน้ำเพียงพอจะมีปัสสาวะสีเหลืองใส ขับถ่ายสะดวก แต่หากดื่มน้ำไม่เพียงพอจะมีปัสสาวะสีเข้ม มีกลิ่นฉุนจัด ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน มีปัญหาการขับถ่ายหรือท้องผูก
อีกทั้งการดื่มน้ำไม่เพียงพอยังทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และขับของเสียออกมาได้ยาก ถ้าผู้หญิงดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลให้ประจำเดือนมาน้อย หรือไม่มาเลยก็ได้
ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมกับร่างกาย มีดังนี้
-สำหรับผู้ที่อายุ 4-8 ปี ปริมาณที่ควรได้รับคือ 5 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,200 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้ที่อายุ 9-13 ปี ปริมาณที่ควรได้รับคือ 7-8 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,600-1,900 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้ที่อายุ 14-18 ปี ปริมาณที่ควรได้รับคือ 8-11 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,900-2,600 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้หญิงที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ปริมาณที่ควรได้รับคือ 9 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2,100 มิลลิลิตร
-สำหรับผู้ชายที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ปริมาณที่ควรได้รับคือ 13 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 3,000 มิลลิลิตร
หรือสามารถคำนวณได้โดยการเอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 หารด้วย 2 ให้หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตร เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 1,650 มิลลิลิตร เป็นต้น
เทคนิคการดื่มน้ำที่ดีต่อร่างกาย
- ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8-12 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี) หรือตามปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน
- อย่าดื่มเร็วเกินไป หรือดื่มมากเกินไป ค่อยๆ จิบทีละนิดจะดีกว่า
ข้อมูลอ้างอิงประกอบ
www.pobpad.com