มะเร็งปากมดลูก หนึ่งโรคของสตรีที่มีความอันตรายและเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของผู้หญิง ซึ่ง 99% เกิดจากการติดเชื้อไวรัสผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และยังมีสาเหตุอื่นที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ การสูบบุหรี่ การมีลูกหลายคน การเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ปากมดลูก จนกลายเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง และเป็นมะเร็งในที่สุด
พญ.เนตรนิภา พรหมนารท สูตินรีแพทย์ ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูก เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยผู้ป่วยจะไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ เพราะไม่มีอาการแสดง จะตรวจพบได้เมื่อตรวจคัดกรอง ถ้าหากพบว่าเป็นมะเร็งแล้วสามารถแบ่งได้ 4 ระยะ โดย ระยะแรก มะเร็งจะอยู่ที่ปากมดลูก ระยะที่สอง มะเร็งจะออกจากปากมดลูกไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น ช่องคลอดส่วนบนเนื้อเยื่อที่อยู่ติดกับปากมดลูก ระยะที่สาม มะเร็งจะแพร่ไปยังช่องคลอดส่วนล่าง ต่อมน้ำเหลือง เนื้อเยื่อภายในอุ้งเชิงกราน และใน ระยะที่สี่ มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรือออกนอกอุ้งเชิงกราน รวมทั้งปอด ตับ กระดูก
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก จะใช้วิธีการตรวจคัดกรองทางเซลล์วิทยาหรือที่เรียกว่า การตรวจแปปเสมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) เมื่อพบสิ่งผิดปกติจะดำเนินต่อด้วยการส่องกล้องขยายปากมดลูกและตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ หากพบว่ามีการติดเชื้อหรืออยู่ในระยะก่อนเป็นมะเร็งจะสามารถรักษาหรือตรวจติดตามได้แล้วแต่ระยะของโรค แต่ถ้าหากพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกแน่นอน วิธีการรักษาของผู้ป่วยต้องเลือกใช้ตามระยะการลุกลามของมะเร็ง โดยระยะแรกสามารถทำการรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ส่วนในระยะ 2 - 4 ใช้การบำบัดแบบรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด คือ ฉายรังสีในบริเวณที่เกิดมะเร็งเพื่อควบคุมภาวะเลือดออกและความเจ็บปวด ใช้ยารักษาร่วมบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากมะเร็งและป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ในรูปแบบยาเม็ดรับประทานหรือยาฉีด
หากไม่มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายหลังหยุดการรักษาระยะหนึ่งอาการก็จะทุเลาลงและกลับมาเป็นปกติในที่สุด หลังเข้ารับการรักษาจนหายดีและไม่มีเซลล์มะเร็งปรากฏอีกผู้ป่วยยังคงต้องมา พบแพทย์และตรวจร่างกายอยู่เสมอ เพื่อตรวจหาสัญญาณและความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งซ้ำอีก โดยแพทย์จะนัดมาตรวจร่างกายเป็นระยะ
ในคุณผู้หญิงที่ยังไม่พบว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV เพื่อลดโอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูก โดยสามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่ อายุ 11 ปี เป็นต้นไป ซึ่งการฉีดวัคซีนตั้งแต่ก่อนวัยรุ่นและก่อนมีเพศสัมพันธ์จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะยังไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อนและภูมิคุ้มกันในเด็กจะขึ้นสูงกว่าผู้ใหญ่
ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว ให้บริการตรวจวินิจฉัยดูแลรักษารวมทั้งให้ความรู้และคำแนะนำแก่คุณพ่อคุณแม่ ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอดบุตร พร้อมให้การดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น ทางด้านการดูแลสุขภาพของคุณผู้หญิงให้การรักษาครอบคลุมทุกโรคทางนรีเวช รวมทั้งการผ่าตัดเปิดหน้าท้องและการผ่าตัดผ่านกล้อง
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)