ก่อนอื่นมาเริ่มทำความชัดเจนว่า คุณให้ความหมายของคำว่า “ความสำเร็จ” นั้นเป็นอย่างไร ก็ต้องรู้ “จุดมุ่งหมาย (Purpose)” ของการใช้ชีวิตเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ (Outcome) ที่สุขสมใจ
หากเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่มั่นคงและชัดเจน การดำเนินการด้านต่างๆ ก็จะมีเป้าหมาย มีแผนกลยุทธ์และวิธีการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดผลดีตามมา
ประเด็นด้านต่างๆ ที่คนเราอยากรู้ผลก่อนอนาคต และมักไปถามหมอดูด้วยคำถามหลักเกี่ยวกับอนาคตของการงาน...การเงิน...ความรัก...ความสัมพันธ์...สุขภาพ...ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ประเด็นเหล่านี้เป็นใครก็ล้วนอยากให้ผลออกมาดีทุกด้าน ดีตลอดกาลใช่ไหมครับ แล้วใครจะมีฤทธิ์เดชเสกได้ล่ะ
แต่ถ้าเชื่อตามหลักที่พระท่านสอนว่า “กรรมเก่า” แก้ไม่ได้ จึงควรสร้างกรรมใหม่ที่ดีตามมาแน่
ดังนั้น ละครชีวิตเรื่องของเราที่เราเป็นตัวเอก แสดงเองก็เขียนบทเอง กำกับการแสดงเองอยู่แล้ว เมื่อตั้งหลักให้ดี คือให้ใฝ่สูง ใฝ่ดี แล้วคิดดีและทำดี ผลจะออกมาเป็นเรื่องจบดีแน่ ไม่ใช่เรื่องเศร้า ไม่ต้องมาบ่น “เสียดาย” ภายหลัง
จังหวะเหมาะที่หนังสือ “กฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก”ออกวางตลาดกลายเป็นหนังสือขายดีจนเตรียมพิมพ์ครั้งที่ 2 แล้ว หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นคู่มือทำนองว่า “ลิขิตชีวิตตัวเอง” และเป็นแนวทางสำหรับตอบโจทย์ที่ใครๆ ก็อยากได้สภาวะ “อยู่ดี-มีสุข” หรือ Well-Being
“การงานสำเร็จ การเงินมั่งคั่ง สุขภาพดี ชีวีมีสุข”
หนังสือเล่มนี้ผมเรียบเรียงจากการกลั่นสาระสำคัญของหนังสือขายดีของกูรูชื่อดังในตลาดโลกที่ผู้อ่านนิยมตนมีการแปลไปเผยแพร่แล้ว 20-30 ภาษา
ในบรรดาสุดยอดกูรูของโลก 40 ท่าน ซึ่งเป็นนักคิดและนักสร้างแรงบันดาลใจในการปรับวิธีคิดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตและการทำงานอย่างมีกลยุทธ์และกลวิธี เพื่อให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพสำเร็จสมใจ แม้แต่ละท่านเน้นประเด็นกลยุทธ์ต่างกัน แต่ก็สอดคล้องและเสริมกันได้
มีคนอยากให้ผมยกตัวอย่างหลักคิดและวิธีการที่ควรเริ่มต้นวางรากฐานเพื่อสร้างความสำเร็จให้ชีวิตรอบด้านดังกล่าว ผมก็ขอกล่าวถึงบางท่านเท่าที่พื้นที่พอเขียนถึง ส่วนเนื้อหาทั้งหมดนั้นเปิดหน้าสารบัญก็เลือกอ่านได้ตามสะดวก โดยไม่ต้องเรียงบท
ขอเริ่มจาก จอห์น ซี.แม็กซ์เวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำที่มีผลงานหนังสือยอดนิยมที่พิมพ์รวมแล้วกว่า 25 ล้านเล่ม หนังสือเล่มนี้เด่นที่ผมชอบมาก ชื่อว่า INTENTIONAL LIVING เนื้อหาก็ตรงตามชื่อเรื่อง คือ “การใช้ชีวิตอย่างมีความตั้งใจ” เพราะอยากมีบั้นปลายชีวิตที่ดี
เมื่อตอนที่แม็กซ์เวลล์ อายุ 70 ท่านบอกว่ารู้ตัวว่ามีเวลาจำกัด อยากจะให้ชีวิตนี้มีความหวัง จึงต้องหาเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี (Good Impect) ทั้งต่อตัวเองและต่อผู้อื่น
การใช้ชีวิตอย่างตั้งใจคือไม่ปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆ เลือกทำเรื่องที่สำคัญที่มีคุณค่า คือสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการมีเป้าหมาย มีวิธีการที่ดีและลงมือทำทันทีจนสำเร็จ
หนทางเดียวที่จะสร้างผลงานยอดเยี่ยมก็คือ รักในสิ่งที่คุณทำ นี่คือ วิธีคิดที่ต้องการใช้ชีวิตที่มีความหมาย
“ไม่มีใครที่มีบั้นปลายชีวิตด้วยความบังเอิญ”
หลักคิดต่อมาของไบรอัน เทรซี่ที่สอดคล้องโดยกล่าวถึงองค์กรที่จะมีผลงานสุดยอดนั้น ผู้บริหารต้องมี 3 ปัจจัยสำคัญ คือ
1.จุดมุ่งหมาย (Purpose) ที่จะผลิตสินค้าหรือบริการต้องตอบคำถามว่า “ทำไมสิ่งที่คุณทำ จึงสำคัญสำหรับผู้อื่น” และผลงานที่ออกมาได้ ช่วยปรับปรุงชีวิตหรือกิจการงานแก่ลูกค้าให้ดีขึ้นอย่างไร
2.ไฟปรารถนาอย่างแรงกล้า(Passion) คุณได้ทำในสิ่งที่ให้ความสำคัญ อยากทำในสิ่งที่รัก เพราะถนัดและทำได้ดี
3.ผลงาน(Performance) ด้วยความชัดเจนของเป้าหมาย และพลังของความมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดก็เกิดความสำเร็จที่ดีในระยะข้างหน้า
เป็นการเน้นเป้าหมายที่จะเกิดขึ้น เป็นไปตามหลักที่ว่า “เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่สร้างอนาคตได้”
ผมชอบหลักคิดจากหนังสือ The 7 Habit of Highly Effecture People ที่พากษ์ไทยว่า “7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงอิทธิพลยิ่ง” ของ ดร.สตีเฟน อาร์ โควีย์ ซึ่งเป็นหนังสือยอดนิยายอมตะมาราว 25 ปี ด้วยยอดพิมพ์ขายทั่วโลกกว่า 15 ล้านเล่ม
ต่อมา ฌอน โคลีย์ ลูกชายของท่านได้นำชุดบทความของพ่อที่เขียนไว้ก่อนอำลาโลก มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือเล่มล่าสุด สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีตั้งชื่อว่า “อุปนิสัยที่ยิ่งใหญ่ : หลักแห่งชีวิต 12 ประการ”
ท่านที่เคยอ่านเล่มต้นตำรับคือ “7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง” ลองทบทวนดูการใช้ประโยชน์จาก 7 อุปนิสัยนั้น สามารถแบ่งเป็นกลุ่ม ได้ดังนี้
2.เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ (Begin With the End in Mind)
3.ทำสิ่งสำคัญที่สุดก่อน (Put First Things First)
5.เข้าใจผู้อื่นก่อน แล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา (Seek First to Understand, Then to beUnderstood)
6.สร้างพลังผนึกจุดร่วม (Synergize)
7.หมั่นฝึกฝนพัฒนากายใจ(Sharpen the Saw)
ผมสนใจในอุปนิสัยที่ 2 “การเริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ” คือมีจินตภาพเห็นเป้าหมายความสำเร็จที่ต้องการ เป็นความรู้สึกเสมือนว่าได้เกิดขึ้นจริงแล้ว
คนใฝ่ดี ใฝ่เห็นการพัฒนา คิดเป็นภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้น แล้วย้อนมาถึงยังจุดเริ่มปฏิบัติการ ก็ต้องสร้างแผนกลยุทธ์ที่เอื้อให้เกิดผลลัพธ์ปลายทางดังที่ต้องการได้
ในหนังสือเล่มใหม่ที่มาจากมรดกบทความของสตีเฟน อาร์. โควีย์ จึงน่าจะเป็นการขยายความอุปนิสัยที่ 2 ดังกล่าวได้ดี
โควีย์ ย้ำสอนลูกทั้ง 3 คนเสมอว่า ชีวิตคนเรามี 2 แนวทาง คือ
1.ชีวิตที่ยึดหลัก “คุณค่าภายใน” มีพฤติกรรมที่สั่งสมเป็นคุณสมบัติ มีอุปนิสัย การยึดหลักความถูกต้อง เป็นธรรม เป็นแรงจูงใจในการใช้ชีวิต
2.ชีวิตที่คำนึงถึง “คุณค่าภายนอก” เช่น ตำแหน่งหน้าที่การงาน โชคลาภ และการมีชื่อเสียงและสังคมยอมรับ
โควีย์ย้ำว่า “ควรให้ความสำคัญกับคุณค่าภายใน”
โควีย์ยืนยันว่า ผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าภายในที่แท้จริงเท่านั้น จึงได้รับผลตอบแทนที่มีความหมาย นั่นคือ มีความสุขใจในความคิดและการกระทำที่มีคุณค่าให้ผู้อื่น ก็จะเกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ทั้งในครอบครัวและมิตรสหาย
ผลตอบแทนจากคุณค่าภายในที่เป็นความรู้สึกทางใจ จึงมีคุณค่าเหนือกว่าและยั่งยืนกว่าผลตอบแทนจากคุณค่าภายนอก เช่นทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงหรือความสุขสำราญ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า นั่นคือ ความสำเร็จซึ่งอาจไม่จีรังยั่งยืน
ขอตบท้ายด้วยหลักคิดของ โทนี่ โนะนากะ ที่มีผลการศึกษามหาเศรษฐีทั่วโลก 2,000 คน และสรุปว่าคนในโลกนี้มีคนระดับมหาเศรษฐีแค่ 10% แต่ในจำนวนนี้มี 7% ที่รวยแต่ไม่มีความสุข และมีแค่ 3% เท่านั้น ที่รวยและมีความสุข
ในหนังสือ “กฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก” ว่าด้วย “ความลับเศรษฐีผู้มีความสุข ไม่ใช่ดูที่ทรัพย์สินมหาศาล”เขาได้เผย 10 เคล็ดลับของเศรษฐีที่มีความสุขและมี “ความมั่งคั่งอย่างแท้จริง” คือ ใช้ชีวิตและทำงานที่มีคุณค่า ไม่ขัดสนด้านเงินทอง เวลาและสุขภาพ
เพราะเป้าหมายชีวิตที่ดี คือ สิ่งที่เมื่อทำสำเร็จแล้ว จะไม่นึกเสียใจ แม้ว่าวันพรุ่งนี้จะต้องลาโลกนี้ไปก็ตาม
ข้อมูลอ้างอิง
หนังสือ : กฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก
ผู้เรียบเรียง : ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล
สำนักพิมพ์ :บ้านพระอาทิตย์
หากเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่มั่นคงและชัดเจน การดำเนินการด้านต่างๆ ก็จะมีเป้าหมาย มีแผนกลยุทธ์และวิธีการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดผลดีตามมา
ประเด็นด้านต่างๆ ที่คนเราอยากรู้ผลก่อนอนาคต และมักไปถามหมอดูด้วยคำถามหลักเกี่ยวกับอนาคตของการงาน...การเงิน...ความรัก...ความสัมพันธ์...สุขภาพ...ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ประเด็นเหล่านี้เป็นใครก็ล้วนอยากให้ผลออกมาดีทุกด้าน ดีตลอดกาลใช่ไหมครับ แล้วใครจะมีฤทธิ์เดชเสกได้ล่ะ
แต่ถ้าเชื่อตามหลักที่พระท่านสอนว่า “กรรมเก่า” แก้ไม่ได้ จึงควรสร้างกรรมใหม่ที่ดีตามมาแน่
ดังนั้น ละครชีวิตเรื่องของเราที่เราเป็นตัวเอก แสดงเองก็เขียนบทเอง กำกับการแสดงเองอยู่แล้ว เมื่อตั้งหลักให้ดี คือให้ใฝ่สูง ใฝ่ดี แล้วคิดดีและทำดี ผลจะออกมาเป็นเรื่องจบดีแน่ ไม่ใช่เรื่องเศร้า ไม่ต้องมาบ่น “เสียดาย” ภายหลัง
จังหวะเหมาะที่หนังสือ “กฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก”ออกวางตลาดกลายเป็นหนังสือขายดีจนเตรียมพิมพ์ครั้งที่ 2 แล้ว หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นคู่มือทำนองว่า “ลิขิตชีวิตตัวเอง” และเป็นแนวทางสำหรับตอบโจทย์ที่ใครๆ ก็อยากได้สภาวะ “อยู่ดี-มีสุข” หรือ Well-Being
“การงานสำเร็จ การเงินมั่งคั่ง สุขภาพดี ชีวีมีสุข”
หนังสือเล่มนี้ผมเรียบเรียงจากการกลั่นสาระสำคัญของหนังสือขายดีของกูรูชื่อดังในตลาดโลกที่ผู้อ่านนิยมตนมีการแปลไปเผยแพร่แล้ว 20-30 ภาษา
ในบรรดาสุดยอดกูรูของโลก 40 ท่าน ซึ่งเป็นนักคิดและนักสร้างแรงบันดาลใจในการปรับวิธีคิดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตและการทำงานอย่างมีกลยุทธ์และกลวิธี เพื่อให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพสำเร็จสมใจ แม้แต่ละท่านเน้นประเด็นกลยุทธ์ต่างกัน แต่ก็สอดคล้องและเสริมกันได้
มีคนอยากให้ผมยกตัวอย่างหลักคิดและวิธีการที่ควรเริ่มต้นวางรากฐานเพื่อสร้างความสำเร็จให้ชีวิตรอบด้านดังกล่าว ผมก็ขอกล่าวถึงบางท่านเท่าที่พื้นที่พอเขียนถึง ส่วนเนื้อหาทั้งหมดนั้นเปิดหน้าสารบัญก็เลือกอ่านได้ตามสะดวก โดยไม่ต้องเรียงบท
ขอเริ่มจาก จอห์น ซี.แม็กซ์เวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำที่มีผลงานหนังสือยอดนิยมที่พิมพ์รวมแล้วกว่า 25 ล้านเล่ม หนังสือเล่มนี้เด่นที่ผมชอบมาก ชื่อว่า INTENTIONAL LIVING เนื้อหาก็ตรงตามชื่อเรื่อง คือ “การใช้ชีวิตอย่างมีความตั้งใจ” เพราะอยากมีบั้นปลายชีวิตที่ดี
เมื่อตอนที่แม็กซ์เวลล์ อายุ 70 ท่านบอกว่ารู้ตัวว่ามีเวลาจำกัด อยากจะให้ชีวิตนี้มีความหวัง จึงต้องหาเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี (Good Impect) ทั้งต่อตัวเองและต่อผู้อื่น
การใช้ชีวิตอย่างตั้งใจคือไม่ปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆ เลือกทำเรื่องที่สำคัญที่มีคุณค่า คือสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการมีเป้าหมาย มีวิธีการที่ดีและลงมือทำทันทีจนสำเร็จ
หนทางเดียวที่จะสร้างผลงานยอดเยี่ยมก็คือ รักในสิ่งที่คุณทำ นี่คือ วิธีคิดที่ต้องการใช้ชีวิตที่มีความหมาย
“ไม่มีใครที่มีบั้นปลายชีวิตด้วยความบังเอิญ”
หลักคิดต่อมาของไบรอัน เทรซี่ที่สอดคล้องโดยกล่าวถึงองค์กรที่จะมีผลงานสุดยอดนั้น ผู้บริหารต้องมี 3 ปัจจัยสำคัญ คือ
1.จุดมุ่งหมาย (Purpose) ที่จะผลิตสินค้าหรือบริการต้องตอบคำถามว่า “ทำไมสิ่งที่คุณทำ จึงสำคัญสำหรับผู้อื่น” และผลงานที่ออกมาได้ ช่วยปรับปรุงชีวิตหรือกิจการงานแก่ลูกค้าให้ดีขึ้นอย่างไร
2.ไฟปรารถนาอย่างแรงกล้า(Passion) คุณได้ทำในสิ่งที่ให้ความสำคัญ อยากทำในสิ่งที่รัก เพราะถนัดและทำได้ดี
3.ผลงาน(Performance) ด้วยความชัดเจนของเป้าหมาย และพลังของความมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดก็เกิดความสำเร็จที่ดีในระยะข้างหน้า
เป็นการเน้นเป้าหมายที่จะเกิดขึ้น เป็นไปตามหลักที่ว่า “เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่สร้างอนาคตได้”
ผมชอบหลักคิดจากหนังสือ The 7 Habit of Highly Effecture People ที่พากษ์ไทยว่า “7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงอิทธิพลยิ่ง” ของ ดร.สตีเฟน อาร์ โควีย์ ซึ่งเป็นหนังสือยอดนิยายอมตะมาราว 25 ปี ด้วยยอดพิมพ์ขายทั่วโลกกว่า 15 ล้านเล่ม
ต่อมา ฌอน โคลีย์ ลูกชายของท่านได้นำชุดบทความของพ่อที่เขียนไว้ก่อนอำลาโลก มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือเล่มล่าสุด สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีตั้งชื่อว่า “อุปนิสัยที่ยิ่งใหญ่ : หลักแห่งชีวิต 12 ประการ”
ท่านที่เคยอ่านเล่มต้นตำรับคือ “7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง” ลองทบทวนดูการใช้ประโยชน์จาก 7 อุปนิสัยนั้น สามารถแบ่งเป็นกลุ่ม ได้ดังนี้
อุปนิสัยที่เป็นนายตัวเอง (Private Victory)
1.ตัดสินใจเชิงรุก-เริ่มทำก่อน(Be Proactive)2.เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ (Begin With the End in Mind)
3.ทำสิ่งสำคัญที่สุดก่อน (Put First Things First)
อุปนิสัยได้ใจสังคม (Public Victory)
4.คิดแบบชนะกันทุกฝ่าย(Think Win-Win)5.เข้าใจผู้อื่นก่อน แล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา (Seek First to Understand, Then to beUnderstood)
6.สร้างพลังผนึกจุดร่วม (Synergize)
7.หมั่นฝึกฝนพัฒนากายใจ(Sharpen the Saw)
ผมสนใจในอุปนิสัยที่ 2 “การเริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ” คือมีจินตภาพเห็นเป้าหมายความสำเร็จที่ต้องการ เป็นความรู้สึกเสมือนว่าได้เกิดขึ้นจริงแล้ว
คนใฝ่ดี ใฝ่เห็นการพัฒนา คิดเป็นภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้น แล้วย้อนมาถึงยังจุดเริ่มปฏิบัติการ ก็ต้องสร้างแผนกลยุทธ์ที่เอื้อให้เกิดผลลัพธ์ปลายทางดังที่ต้องการได้
ในหนังสือเล่มใหม่ที่มาจากมรดกบทความของสตีเฟน อาร์. โควีย์ จึงน่าจะเป็นการขยายความอุปนิสัยที่ 2 ดังกล่าวได้ดี
โควีย์ ย้ำสอนลูกทั้ง 3 คนเสมอว่า ชีวิตคนเรามี 2 แนวทาง คือ
1.ชีวิตที่ยึดหลัก “คุณค่าภายใน” มีพฤติกรรมที่สั่งสมเป็นคุณสมบัติ มีอุปนิสัย การยึดหลักความถูกต้อง เป็นธรรม เป็นแรงจูงใจในการใช้ชีวิต
2.ชีวิตที่คำนึงถึง “คุณค่าภายนอก” เช่น ตำแหน่งหน้าที่การงาน โชคลาภ และการมีชื่อเสียงและสังคมยอมรับ
โควีย์ย้ำว่า “ควรให้ความสำคัญกับคุณค่าภายใน”
โควีย์ยืนยันว่า ผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าภายในที่แท้จริงเท่านั้น จึงได้รับผลตอบแทนที่มีความหมาย นั่นคือ มีความสุขใจในความคิดและการกระทำที่มีคุณค่าให้ผู้อื่น ก็จะเกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ทั้งในครอบครัวและมิตรสหาย
ผลตอบแทนจากคุณค่าภายในที่เป็นความรู้สึกทางใจ จึงมีคุณค่าเหนือกว่าและยั่งยืนกว่าผลตอบแทนจากคุณค่าภายนอก เช่นทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงหรือความสุขสำราญ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า นั่นคือ ความสำเร็จซึ่งอาจไม่จีรังยั่งยืน
ขอตบท้ายด้วยหลักคิดของ โทนี่ โนะนากะ ที่มีผลการศึกษามหาเศรษฐีทั่วโลก 2,000 คน และสรุปว่าคนในโลกนี้มีคนระดับมหาเศรษฐีแค่ 10% แต่ในจำนวนนี้มี 7% ที่รวยแต่ไม่มีความสุข และมีแค่ 3% เท่านั้น ที่รวยและมีความสุข
ในหนังสือ “กฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก” ว่าด้วย “ความลับเศรษฐีผู้มีความสุข ไม่ใช่ดูที่ทรัพย์สินมหาศาล”เขาได้เผย 10 เคล็ดลับของเศรษฐีที่มีความสุขและมี “ความมั่งคั่งอย่างแท้จริง” คือ ใช้ชีวิตและทำงานที่มีคุณค่า ไม่ขัดสนด้านเงินทอง เวลาและสุขภาพ
เพราะเป้าหมายชีวิตที่ดี คือ สิ่งที่เมื่อทำสำเร็จแล้ว จะไม่นึกเสียใจ แม้ว่าวันพรุ่งนี้จะต้องลาโลกนี้ไปก็ตาม
ข้อมูลอ้างอิง
หนังสือ : กฎแห่งทางลัด 40 กูรูโลก
ผู้เรียบเรียง : ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล
สำนักพิมพ์ :บ้านพระอาทิตย์
สนใจอยากได้หนังสือ "กฎแห่งทางลัด 40 กูรูรู้โลก" เล่มนี้ ติดต่อ สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ 082 782 8356
แนะนำหนังสือ กล้าที่จะถูกเกลียด 2 ผู้เขียน : อิชิโร คิชิมิ, ฟุมิทะเกะ โคะกะ ผู้แปล : อภิญญา เตชะบุญไพศาล สำนักพิมพ์ วีเลิร์น ราคา 240 บาท หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณค้นพบชีวิตที่เป็นของคุณจริง ๆ คำถามเดียวคือ... คุณกล้าพอหรือยัง "กล้าที่จะถูกเกลียด กล้าที่จะมีความสุข" EQ ดี อารมณ์ดี ชีวีสดใส ผู้เขียน : ณรงค์วิทย์ แสนทอง สำนักพิมพ์ ซีเอ็ดยูเคชั่น ราคา 95 บาท เทคนิค วิธีการ และข้อคิดสะกิจใจในการควบคุมอารมณ์ที่อ่านเข้าใจง่ายและสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน พูดแบบนี้คนเข้าใจ คุยแบบนี้ใครก็ชอบ ผู้เขียน : มาร์ค โรดส์ ผู้แปล : จิรประภา ประคุณหังสิต สำนักพิมพ์ อมรินทร์ How To ราคา 245 บาท "มาร์ค โรดส์" นักพูดระดับโลก จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีเอาชนะอุปสรรคที่รั้งคุณไว้ และปลุกความเป็นคนที่ชอบชวนคนอื่นคุย บันทึกศึกษา หลักสูตรเร่ง life ผู้เขียน : ทาร่า เวสต์โอเวอร์ ผู้แปล : ธนกร นำรับพร สำนักพิมพ์ ไลฟ์พลัส ราคา 350 บาท เธอไม่เคยเข้าโรงเรียน ที่บ้านไม่มีหนังสือให้อ่าน ทำไมชีวิตเธอถึงเดินมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จได้ เล่มนี้มีคำตอบ! สำรวจใจเรา เข้าถึงใจลูก ผู้เขียน : หลี่, ฉงเจี้ยน ผู้แปล : สุภาพิศ โชติธรรมวัฒนา สำนักพิมพ์ วีเลิร์น ราคา 285 บาท ทลายภูเขาน้ำแข็งในใจลูก ด้วยพลังบทสนทนาของ "เวอร์จิเนีย ซาเทียร์" สำหรับพ่อแม่ที่อยากเข้าใจลูก ครูที่อยากเข้าใจศิษย์ และทุกคนที่อยากเข้าใจคนอื่น |