หากยกย่องชื่นชมใครว่า มีชีวิตที่ “ประสบความสำเร็จที่แท้จริง” ในยุคนี้ จะใช้หลักการประเมินหรือดูอะไรเป็นสิ่งบ่งชี้ดี
หากใช้มุมมองเชิงกายภาพที่เป็นสถานะเฉพาะตัว เช่น มีทรัพย์สินเงินทอง ได้รับรางวัลหรือผลตอบแทนจากผลงาน ได้ตำแหน่งหน้าที่ระดับสูง หรือได้ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นต้น
แต่ถ้ามองในมิติผลลัพธ์ที่เป็นสุขภาวะ (Well-Being) จากการเชื่อมโยงภาวะที่ดีของปัจจัยสู่ความสำเร็จในทุกด้านอย่างสมดุลเป็นองค์รวมทั้งการงาน การเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์กับสังคมอย่างมีความสุข เป็นแนวทางสู่ความยั่งยืน
ขออ้างอิงหนังสือ Find Your Balance Point ที่เขียนร่วมโดย Brian Tracy และ Christina Stein ที่มีเนื้อหามุ่งสู่ “จุดสมดุล” ในการใช้ชีวิตส่วนตัวและการงานที่สอดคล้อง โดยมีเป้าหมายสำคัญที่ต้องทุ่มเททำเต็มที่เพื่อให้สำเร็จ
กล่าวได้ว่า เมื่อรู้จักเลือกใช้ชีวิตในแบบที่จะไม่เสียใจภายหลัง เพราะมีความสุขกับทุกปฏิสัมพันธ์มุ่งทำสิ่งที่สำคัญที่สุดมากขึ้น การใช้ชีวิตในแต่ละวันจึงเป็นไปอย่างมีความหมาย
แนวคิดนี้แนะให้เริ่มด้วยการค้นหา “ค่านิยม” ของตัวคุณให้ชัด นั่นจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตัวคุณเองอย่างแท้จริง
เพราะค่านิยมจะเป็นรากฐานของกรอบความคิด ความเชื่อที่สั่งสม จึงเป็นแก่นของลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพที่ฝังลึกในตัวคุณ
ค่านิยมเป็นตัวกำหนด สิ่งที่ใช่และไม่ใช่ในตัวคุณ และความคิดว่าสิ่งนั้นสำคัญหรือไม่สำคัญสำหรับคุณ
คนที่มีค่านิยมตัวเองชัดเจนและมีจุดยืนที่มั่นคง ก็จะไม่ยอมอ่อนข้อหรือยอมให้ตัวเองเปลี่ยนอุปนิสัยและวิถีทาง ดังเช่นผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่จะยึดมั่นในค่านิยมและจุดยืน จึงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จในเรื่องที่ “ไม่ธรรมดา”
ผู้เขียนทั้งสองได้จำแนก “ค่านิยม” ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1.ค่านิยมที่เกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะตัว ที่เกี่ยวเนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่น จุดแข็ง ซึ่งอาจสั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็ก หรือเมื่อโตขึ้นก็มีการฝึกฝนพัฒนาต่อจนเกิดความเชื่อมั่นและเข้มงวด โดยไม่ยอมอ่อนข้อกับสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยม
2.ค่านิยมเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต ที่มีผลกระตุ้นการกระทำสิ่งต่างๆ ทั้งในแง่มุมตัวบุคคลในครอบครัว เพื่อนฝูงหรือในบริบทสังคม
3.ค่านิยมเกี่ยวกับบทบาทและตัวตน ซึ่งเรามีมากกว่า 1 ตัวตน และมักให้ความสำคัญไม่เท่ากัน ค่านิยมและจุดยืนก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานะและบทบาท
ในหนังสือเล่มนี้ได้ให้แบบฝึกหัดในการจัดลำดับความสำคัญของรายการที่เกี่ยวข้องของทั้ง 3 ประเภท และให้เลือกรายการที่ดีที่สำคัญที่สุด 5 ลำดับแรกที่อยากทำ อยากให้เวลาทุ่มเทมากที่สุดในอนาคตอันใกล้ เพื่อการใช้ชีวิตและการงานด้วยความสมดุลอย่างมีความสุข
การมี “ค่านิยม” ที่แน่ชัดว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรและชีวิตกำลังมุ่งไปทางใด เช่นเชื่อในกฎแห่งกรรม ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล นี่จึงนับเป็นขั้นแรกที่สำคัญของชีวิตที่จะดำเนินไปบนหนทางใฝ่ดีและมีความสมดุลของตัวเอง โดยไม่ไปเปรียบเทียบกับใคร
“ค่านิยม” จึงเสมือนเป็นดีเอ็นเอของชีวิตคุณ การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับค่านิยมของตัวเองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ และเกิดความภูมิใจในตัวเอง ที่ก่อให้เกิดสภาวะจิตใจสงบสุข
ไอน์ แรนด์ นักปรัชญาและนักเขียนนวนิยายชื่อดัง จึงกระตุ้นสังคมโลกด้วยการให้มุ่งไปที่ “ผลลัพธ์” (Outcome) ว่า “เราควรยึด ความสุข เป็นค่านิยม หรือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต”
ดังนั้น ถ้าจะวัดความสำเร็จของตัวเรา ก็ให้ดูว่าเรามีความสุขในตัวเองมากเพียงไรในแต่ละนาทีหรือชั่วโมง
“เราจึงควรใช้ความสุข เป็นเกณฑ์ในการวัดผลการกระทำ พฤติกรรมและค่านิยมของตัวเอง” ที่นับเป็นข้อสรุปการวัดความสำเร็จในแง่ “คุณภาพชีวิต” ของการใช้ชีวิตได้ชัดเจน
วิธีการทำให้ความสำเร็จเป็นจริง
ในการพัฒนาการใช้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน เพื่อให้บรรลุ “ความสำเร็จที่แท้จริง” คือ มีความสงบสุขหรืออยู่ดี-มีสุข เป็นผลลัพธ์สุดท้าย ลองดูหัวข้อต่อไปนี้
• เราเริ่มอย่างถูกจุดด้วยการพิจารณาค่านิยมต่างๆ ของตัวเอง แล้วเลือกค่านิยมในประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิต
• วาดภาพอนาคตที่อยากเป็นหรืออยากมี แล้วให้จินตนาการวาดเป็นภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ที่สอดคล้องกับค่านิยมของคุณ
• ด้วยพลังความคิดและ “กฎแห่งแรงดึงดูด” จะดึงดูดคนและเหตุการณ์ที่เอื้อต่อการทำฝันให้เป็นจริง
• จะคิดหรือทำสิ่งใด ให้สอดคล้องกับค่านิยมของตัวเองเป็นหลัก
• ตัดสินใจว่า จะทำสิ่งที่มีผลให้ชีวิตดีขึ้น
-ชีวิตมีความหมาย (Meaningful)
-มีจุดมุ่งหมาย (Purpose)
-มีเป้าหมาย (Goal)
ต้องทำอย่างไร
ในบทบาทที่คุณคือผู้นำของชีวิตตัวเอง ย่อมต้องรับผิดชอบต่อการสร้างอนาคตตัวเองให้ก้าวหน้าไปด้วยดี แล้วจินตนาการว่า 3-5 ปี ข้างหน้าชีวิตสมบูรณ์ทุกด้านใน 4 มุมมองสำคัญ
1.ด้านอาชีพการงานหรือธุรกิจ
2.ครอบครัวและความสัมพันธ์
3.สุขภาพ
4.การเงินและการลงทุน
มีคุณสมบัติ 3 ประการที่จะช่วยให้การคิดเป็นภาพได้และทำได้ตามเป้าหมายก็คือ
1.ชัดเจน ว่าต้องการอะไร มองออกว่าชีวิตในอนาคตจะเป็นอย่างไร
2.ทุ่มเท ทั้งทรัพยากรและเวลา ทำสิ่งที่ช่วยให้คุณได้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบตามที่ฝัน
3.จดจ่อ มุ่งมั่นทำสิ่งที่สำคัญที่สุดทุกวันเพื่อทำฝันให้เป็นจริง
ท้ายเล่มนี้ได้สรุปวิธีที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของอาชีพการงานบนจุดสมดุลของตัวเองดังนี้
1.ทำให้มากขึ้น ในสิ่งที่ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ตามต้องการ คือ มีความสุข รู้สึกดีกับชีวิตและการงาน
2.ทำให้น้อยลง ในสิ่งที่ไม่เกิดผลลัพธ์ดีๆ แถมไม่มีความสุขหรือหงุดหงิด
3.เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ หรือเป็นเป้าหมายใหม่ที่มีคุณประโยชน์
4.เลิกทำโดยสิ้นเชิง ในสิ่งที่ตอบได้ว่าจะได้มีเวลามากขึ้นในการทำสิ่งสำคัญต่อตัวเองที่แท้จริง
คำถามสำคัญจึงมีว่า “อะไรคือสิ่งที่ควรทำมากขึ้น ทำน้อยลง ริเริ่มทำหรือให้เลิกทำซะ”
ข้อมูลจากหนังสือ : คู่มือค้นหา 1% ที่สำคัญที่สุด Find Your Balance Point
ผู้เขียน : Brian Tracy Christina Stein
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น
หากใช้มุมมองเชิงกายภาพที่เป็นสถานะเฉพาะตัว เช่น มีทรัพย์สินเงินทอง ได้รับรางวัลหรือผลตอบแทนจากผลงาน ได้ตำแหน่งหน้าที่ระดับสูง หรือได้ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นต้น
แต่ถ้ามองในมิติผลลัพธ์ที่เป็นสุขภาวะ (Well-Being) จากการเชื่อมโยงภาวะที่ดีของปัจจัยสู่ความสำเร็จในทุกด้านอย่างสมดุลเป็นองค์รวมทั้งการงาน การเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์กับสังคมอย่างมีความสุข เป็นแนวทางสู่ความยั่งยืน
ขออ้างอิงหนังสือ Find Your Balance Point ที่เขียนร่วมโดย Brian Tracy และ Christina Stein ที่มีเนื้อหามุ่งสู่ “จุดสมดุล” ในการใช้ชีวิตส่วนตัวและการงานที่สอดคล้อง โดยมีเป้าหมายสำคัญที่ต้องทุ่มเททำเต็มที่เพื่อให้สำเร็จ
กล่าวได้ว่า เมื่อรู้จักเลือกใช้ชีวิตในแบบที่จะไม่เสียใจภายหลัง เพราะมีความสุขกับทุกปฏิสัมพันธ์มุ่งทำสิ่งที่สำคัญที่สุดมากขึ้น การใช้ชีวิตในแต่ละวันจึงเป็นไปอย่างมีความหมาย
แนวคิดนี้แนะให้เริ่มด้วยการค้นหา “ค่านิยม” ของตัวคุณให้ชัด นั่นจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตัวคุณเองอย่างแท้จริง
เพราะค่านิยมจะเป็นรากฐานของกรอบความคิด ความเชื่อที่สั่งสม จึงเป็นแก่นของลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพที่ฝังลึกในตัวคุณ
ค่านิยมเป็นตัวกำหนด สิ่งที่ใช่และไม่ใช่ในตัวคุณ และความคิดว่าสิ่งนั้นสำคัญหรือไม่สำคัญสำหรับคุณ
คนที่มีค่านิยมตัวเองชัดเจนและมีจุดยืนที่มั่นคง ก็จะไม่ยอมอ่อนข้อหรือยอมให้ตัวเองเปลี่ยนอุปนิสัยและวิถีทาง ดังเช่นผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่จะยึดมั่นในค่านิยมและจุดยืน จึงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จในเรื่องที่ “ไม่ธรรมดา”
ผู้เขียนทั้งสองได้จำแนก “ค่านิยม” ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1.ค่านิยมที่เกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะตัว ที่เกี่ยวเนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่น จุดแข็ง ซึ่งอาจสั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็ก หรือเมื่อโตขึ้นก็มีการฝึกฝนพัฒนาต่อจนเกิดความเชื่อมั่นและเข้มงวด โดยไม่ยอมอ่อนข้อกับสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยม
2.ค่านิยมเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต ที่มีผลกระตุ้นการกระทำสิ่งต่างๆ ทั้งในแง่มุมตัวบุคคลในครอบครัว เพื่อนฝูงหรือในบริบทสังคม
3.ค่านิยมเกี่ยวกับบทบาทและตัวตน ซึ่งเรามีมากกว่า 1 ตัวตน และมักให้ความสำคัญไม่เท่ากัน ค่านิยมและจุดยืนก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานะและบทบาท
ในหนังสือเล่มนี้ได้ให้แบบฝึกหัดในการจัดลำดับความสำคัญของรายการที่เกี่ยวข้องของทั้ง 3 ประเภท และให้เลือกรายการที่ดีที่สำคัญที่สุด 5 ลำดับแรกที่อยากทำ อยากให้เวลาทุ่มเทมากที่สุดในอนาคตอันใกล้ เพื่อการใช้ชีวิตและการงานด้วยความสมดุลอย่างมีความสุข
การมี “ค่านิยม” ที่แน่ชัดว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรและชีวิตกำลังมุ่งไปทางใด เช่นเชื่อในกฎแห่งกรรม ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล นี่จึงนับเป็นขั้นแรกที่สำคัญของชีวิตที่จะดำเนินไปบนหนทางใฝ่ดีและมีความสมดุลของตัวเอง โดยไม่ไปเปรียบเทียบกับใคร
“ค่านิยม” จึงเสมือนเป็นดีเอ็นเอของชีวิตคุณ การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับค่านิยมของตัวเองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ และเกิดความภูมิใจในตัวเอง ที่ก่อให้เกิดสภาวะจิตใจสงบสุข
ไอน์ แรนด์ นักปรัชญาและนักเขียนนวนิยายชื่อดัง จึงกระตุ้นสังคมโลกด้วยการให้มุ่งไปที่ “ผลลัพธ์” (Outcome) ว่า “เราควรยึด ความสุข เป็นค่านิยม หรือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต”
ดังนั้น ถ้าจะวัดความสำเร็จของตัวเรา ก็ให้ดูว่าเรามีความสุขในตัวเองมากเพียงไรในแต่ละนาทีหรือชั่วโมง
“เราจึงควรใช้ความสุข เป็นเกณฑ์ในการวัดผลการกระทำ พฤติกรรมและค่านิยมของตัวเอง” ที่นับเป็นข้อสรุปการวัดความสำเร็จในแง่ “คุณภาพชีวิต” ของการใช้ชีวิตได้ชัดเจน
วิธีการทำให้ความสำเร็จเป็นจริง
ในการพัฒนาการใช้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน เพื่อให้บรรลุ “ความสำเร็จที่แท้จริง” คือ มีความสงบสุขหรืออยู่ดี-มีสุข เป็นผลลัพธ์สุดท้าย ลองดูหัวข้อต่อไปนี้
• เราเริ่มอย่างถูกจุดด้วยการพิจารณาค่านิยมต่างๆ ของตัวเอง แล้วเลือกค่านิยมในประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิต
• วาดภาพอนาคตที่อยากเป็นหรืออยากมี แล้วให้จินตนาการวาดเป็นภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ที่สอดคล้องกับค่านิยมของคุณ
• ด้วยพลังความคิดและ “กฎแห่งแรงดึงดูด” จะดึงดูดคนและเหตุการณ์ที่เอื้อต่อการทำฝันให้เป็นจริง
• จะคิดหรือทำสิ่งใด ให้สอดคล้องกับค่านิยมของตัวเองเป็นหลัก
• ตัดสินใจว่า จะทำสิ่งที่มีผลให้ชีวิตดีขึ้น
-ชีวิตมีความหมาย (Meaningful)
-มีจุดมุ่งหมาย (Purpose)
-มีเป้าหมาย (Goal)
ต้องทำอย่างไร
ในบทบาทที่คุณคือผู้นำของชีวิตตัวเอง ย่อมต้องรับผิดชอบต่อการสร้างอนาคตตัวเองให้ก้าวหน้าไปด้วยดี แล้วจินตนาการว่า 3-5 ปี ข้างหน้าชีวิตสมบูรณ์ทุกด้านใน 4 มุมมองสำคัญ
1.ด้านอาชีพการงานหรือธุรกิจ
2.ครอบครัวและความสัมพันธ์
3.สุขภาพ
4.การเงินและการลงทุน
มีคุณสมบัติ 3 ประการที่จะช่วยให้การคิดเป็นภาพได้และทำได้ตามเป้าหมายก็คือ
1.ชัดเจน ว่าต้องการอะไร มองออกว่าชีวิตในอนาคตจะเป็นอย่างไร
2.ทุ่มเท ทั้งทรัพยากรและเวลา ทำสิ่งที่ช่วยให้คุณได้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบตามที่ฝัน
3.จดจ่อ มุ่งมั่นทำสิ่งที่สำคัญที่สุดทุกวันเพื่อทำฝันให้เป็นจริง
ท้ายเล่มนี้ได้สรุปวิธีที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของอาชีพการงานบนจุดสมดุลของตัวเองดังนี้
1.ทำให้มากขึ้น ในสิ่งที่ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ตามต้องการ คือ มีความสุข รู้สึกดีกับชีวิตและการงาน
2.ทำให้น้อยลง ในสิ่งที่ไม่เกิดผลลัพธ์ดีๆ แถมไม่มีความสุขหรือหงุดหงิด
3.เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ หรือเป็นเป้าหมายใหม่ที่มีคุณประโยชน์
4.เลิกทำโดยสิ้นเชิง ในสิ่งที่ตอบได้ว่าจะได้มีเวลามากขึ้นในการทำสิ่งสำคัญต่อตัวเองที่แท้จริง
คำถามสำคัญจึงมีว่า “อะไรคือสิ่งที่ควรทำมากขึ้น ทำน้อยลง ริเริ่มทำหรือให้เลิกทำซะ”
ข้อมูลจากหนังสือ : คู่มือค้นหา 1% ที่สำคัญที่สุด Find Your Balance Point
ผู้เขียน : Brian Tracy Christina Stein
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น
แนะนำหนังสือ The Top Job Secret ภาค 2 ผู้เขียน : พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน สำนักพิมพ์ ศูนย์หนังสือจุฬา ราคา 189 บาท นอกจากจะอธิบายให้เข้าใจบทบาทของความเป็นมืออาชีพเฉพาะทาง (มือโปร) แล้ว ยังเป็นคู่มือแนะนำทุกคนที่กำลังเข้าสู่วัยทำงาน ให้มีหลักวิธีในการประเมินตัวเอง ว่าเหมาะกับการทำอาชีพอะไร เปลี่ยนยาก เป็นง่าย ด้วยการคิดบนกระดาษ 1 ใบที่คนญี่ปุ่นใช้ ผู้เขียน : ศุภวิทย์ ภาษิตนิรันดร์,วิฑูรย์ สูงกิจบูลย์ สำนักพิมพ์ I AM THE BEST ราคา 249 บาท หนังสือเล่มนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน การทำงาน และทำให้คุณประสบความสำเร็จได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว! ทุกอย่างในชีวิต เริ่มจากความคิดที่เป็นระเบียบ ผู้เขียน : Bok Joo Hwan (พกจูฮวัน) ผู้แปล : ภัททิรา จิตต์เกษม สำนักพิมพ์ อมรินทร์ How To ราคา 235 บาท 13 เครื่องมือ ที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นนักแก้ปัญหาและนักสร้างสรรค์ไอเดียอย่างชาญฉลาดและรับมือได้ทุกสถานการณ์ Plan Z (ไม่มี) ตำแหน่งใหญ่ในบริษัทสำหรับผู้หญิง...? ผู้เขียน : Choi Myoungwha ผู้แปล : ธนัญญา อิชิมูระ สำนักพิมพ์ เชนจ์พลัส ราคา 235 บาท เคล็ดลับการใช้สมองและสัญชาตญาณความเป็นผู้หญิง เพื่อคว้าความสำเร็จในชีวิตมาได้อย่างสง่างาม คุณทำแบบนี้ ทำไมเขาเข้าใจแบบนั้น ผู้เขียน : Heidi Grant Halvorson ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์ สำนักพิมพ์ วีเลิร์น ราคา 195 บาท หนังสือเล่มนี้จะแนะนำเทคนิคที่ช่วยให้คุณอ่านความคิดของคู่สนทนา เพื่อสื่อสารได้อย่างที่ตั้งใจและไม่ถูกเข้าใจผิดอีกต่อไป |