หลายๆ คนต่างก็เคยประสบปัญหาเรื่อง “ตุ่มพอง” อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นจากกรณีใดก็ตาม แน่นอนว่าอาจจะมีอาการคันไม้คันมืออยากจะจัดการให้ปัญหาหมดไป แต่ก่อนที่จะทำการจัดการนั้นลองมาดูข้อมูลเกี่ยวกับ “ตุ่มพอง” ก่อนการตัดสินใจในแต่ละบุคคลว่าจะจัดการยังไงต่อไป

ประโยชน์ของ “ตุ่มพอง” ก็มี
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตุ่มพองนั้น เกิดขึ้นจากการเสียดสี หรือความร้อนเล็กน้อย เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะดังกล่าว แต่ทราบหรือไม่ว่าของเหลวใสที่อยู่ด้านในตุ่มนั้นก็มีประโยชน์เหมือนกัน กล่าวคือ การเกิดลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นวิธีการของร่างกายในการปกป้องผิว และของเหลวใสก็มีหน้าที่ในการป้องกันผิวด้านล่างซึ่งเป็นผิวหนังที่จะเกิดขึ้นใหม่ นอกจากนี้ยังเกิดประโยชน์ต่อผิวด้านล่างก็คือ ทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวมีความสะอาด จึงป้องกันการติดเชื้อและเร่งให้อาการดีขึ้น ฉะนั้น เราไม่ควรที่จะเจาะตุ่มน้ำออก เพราะตุ่มพองส่วนใหญ่จะมีการหายไปเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือแพทย์
แต่หากอยากจัดการล่ะ?
แม้ว่าจะไม่จำเป็นที่จะต้องจำกัดออก แต่ถ้าอยากจะเจาะละก็ ใช้วิธีการดังนี้
-ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเข็มที่เจาะ โดยการลนไฟให้ปลายเข็มให้ร้อนจนแดง และล้างด้วยแอลกอฮอล์
-ล้างมือและล้างบริเวณที่เจาะให้สะอาด เมื่อทำการเจาะเรียบร้อยแล้ว
-ถ้าสิ่งที่เจาะออกมาเป็นสีเหลืองหรือสีขาว แสดงว่ามีการติดเชื้อแล้ว ต้องเข้ารับการรักษาโดยแพทย์
-ไม่ควรดึงหนังบริเวณที่เจาะตุ่มออก เพื่อป้องกันการเกิดใหม่ของผิวหนังด้านล่าง
-ใช้ยาฆ่าเชื้อทาบริเวณที่เจาะ
-เฝ้าสังเกตสัญญาณของการติดเชื้อว่ามีอาการเพิ่มเติมหรือไม่
วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดตุ่มพอง
ถ้าเป็นกรณีการเกิดตุ่มพองจากการเกิดน้ำร้อนลวกหรือรอยไหม้ เราอาจจะไม่มีวิธีป้องกัน นอกจากจะระมัดระวังตนเอง แต่การเสียดสีจากกรณีต่างๆ เราต้องหาวิธีการป้องกัน อาทิเช่น ควรใส่ถุงมือในเวลาทำงานที่จะทำให้เกิดการเสียดสี โดยเฉพาะถ้าเป็นการทำครั้งแรก ส่วนตุ่มพองที่เกิดจากรองเท้านั้นควรทาปิโตรเลียมเจลลี หรือที่ปิดแผ่นกันรองเท้ากัดบริเวณที่เกิดการเสียดสี อย่างไรก็ตาม หากการเกิดตุ่มพองมาจากส่วนที่เกี่ยวข้องของการไหลเวียนของเลือด หรือโรคเบาหวาน รวมถึงถ้ามีความรู้สึกเจ็บหรือแดง ก็อาจแสดงถึงการติดเชื้อ กรณีเราควรต้องไปพบหมอ
ประโยชน์ของ “ตุ่มพอง” ก็มี
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตุ่มพองนั้น เกิดขึ้นจากการเสียดสี หรือความร้อนเล็กน้อย เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะดังกล่าว แต่ทราบหรือไม่ว่าของเหลวใสที่อยู่ด้านในตุ่มนั้นก็มีประโยชน์เหมือนกัน กล่าวคือ การเกิดลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นวิธีการของร่างกายในการปกป้องผิว และของเหลวใสก็มีหน้าที่ในการป้องกันผิวด้านล่างซึ่งเป็นผิวหนังที่จะเกิดขึ้นใหม่ นอกจากนี้ยังเกิดประโยชน์ต่อผิวด้านล่างก็คือ ทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวมีความสะอาด จึงป้องกันการติดเชื้อและเร่งให้อาการดีขึ้น ฉะนั้น เราไม่ควรที่จะเจาะตุ่มน้ำออก เพราะตุ่มพองส่วนใหญ่จะมีการหายไปเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือแพทย์
แต่หากอยากจัดการล่ะ?
แม้ว่าจะไม่จำเป็นที่จะต้องจำกัดออก แต่ถ้าอยากจะเจาะละก็ ใช้วิธีการดังนี้
-ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเข็มที่เจาะ โดยการลนไฟให้ปลายเข็มให้ร้อนจนแดง และล้างด้วยแอลกอฮอล์
-ล้างมือและล้างบริเวณที่เจาะให้สะอาด เมื่อทำการเจาะเรียบร้อยแล้ว
-ถ้าสิ่งที่เจาะออกมาเป็นสีเหลืองหรือสีขาว แสดงว่ามีการติดเชื้อแล้ว ต้องเข้ารับการรักษาโดยแพทย์
-ไม่ควรดึงหนังบริเวณที่เจาะตุ่มออก เพื่อป้องกันการเกิดใหม่ของผิวหนังด้านล่าง
-ใช้ยาฆ่าเชื้อทาบริเวณที่เจาะ
-เฝ้าสังเกตสัญญาณของการติดเชื้อว่ามีอาการเพิ่มเติมหรือไม่
วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดตุ่มพอง
ถ้าเป็นกรณีการเกิดตุ่มพองจากการเกิดน้ำร้อนลวกหรือรอยไหม้ เราอาจจะไม่มีวิธีป้องกัน นอกจากจะระมัดระวังตนเอง แต่การเสียดสีจากกรณีต่างๆ เราต้องหาวิธีการป้องกัน อาทิเช่น ควรใส่ถุงมือในเวลาทำงานที่จะทำให้เกิดการเสียดสี โดยเฉพาะถ้าเป็นการทำครั้งแรก ส่วนตุ่มพองที่เกิดจากรองเท้านั้นควรทาปิโตรเลียมเจลลี หรือที่ปิดแผ่นกันรองเท้ากัดบริเวณที่เกิดการเสียดสี อย่างไรก็ตาม หากการเกิดตุ่มพองมาจากส่วนที่เกี่ยวข้องของการไหลเวียนของเลือด หรือโรคเบาหวาน รวมถึงถ้ามีความรู้สึกเจ็บหรือแดง ก็อาจแสดงถึงการติดเชื้อ กรณีเราควรต้องไปพบหมอ