xs
xsm
sm
md
lg

เปลี่ยนชีวิตเพราะการวิ่ง “อำนาจ พรหมภินันท์” นักวิ่งแนวดิ่งระดับโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เขาคือนักวิ่งแนวดิ่งอาวุโสของไทยเพียงหนึ่งเดียวที่พิชิตหอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความสูงถึง 324 เมตร หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้นได้สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นคนขี้เมา ติดเหล้า ติดบุหรี่ และขี้โรค กระทั่งกีฬา ‘วิ่ง’ ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ไปตลอดชีวิต

“อำนาจ พรหมภินันท์”

ณ วันนี้แม้ด้วยวัย 67 ปีแล้วก็ตาม แต่เป้าหมายการวิ่งของเขาจะยังคงไปต่อ... ตราบใดที่วันนี้ร่างกายยังไหว


 • เคยเป็นคนขี้เมา ติดเหล้า ติดบุหรี่และขี้โรคมาก่อน

ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบสนุกสนานอยู่แล้ว และตอนนั้นก็เป็นวัยรุ่นด้วย เลยทำให้อยากรู้ อยากลอง ผมเลยลองดื่มเหล้าดู ดื่มคนเดียวบ้าง ดื่มกับเพื่อนบ้าง พอเจอพรรคพวกคุยกันถูกปากถูกคอ รู้ใจกันหน่อย ผมก็จะไปดื่มเหล้ากับเขา บางทีก็ไปทั้งวันทั้งคืน บ้านช่องไม่กลับก็มี

พอมาทำงานผมก็ยังคงชอบดื่มอยู่ เลิกงานต้องดื่มทุกวัน วันละแบน วันละกลม สังสรรค์ทุกวัน เดินสายขี้เมาไปเลย พอดื่มไปดื่มมาผมก็ดันไปติดบุหรี่แบบงอมแงมด้วย ดูดวันละซองเลยตอนนั้น ผมใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นมาเกือบ 20 ปีเลยครับ

 • จุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกอบายมุข

จริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าจะหยุดนะครับ เพราะเราชอบไปแล้ว ติดไปแล้ว แต่ก็มีครั้งหนึ่งจำได้ว่าน่าจะเป็นช่วงที่อายุ 30 ปลายๆ ผมเริ่มเจ็บไข้ได้ป่วย ไอไม่หยุด หอบง่าย เหนื่อยง่าย หน้าตาซีดเซียว ตัวเหลือง ปากดำ มีกลิ่นปาก คุยกับใครก็ดูน่ารังเกียจ ไปคุยกับครอบครัว กับลูกกับหลานเขาก็ไม่ชอบ เขาไม่ได้ขอร้องให้เลิก แต่เรารู้ตัวเองแล้วว่าเขาไม่ชอบ เพราะสภาพนี่ดูไม่ได้เลยครับ ประจวบกับผมได้ไปตรวจสุขภาพปรากฏว่าคุณหมอบอกว่าปอดเริ่มไม่ดีแล้วนะ

อีกอย่างผมทำงานด้านโรงแรมและต้องไปเจอลูกค้าด้วย พอโรงแรมเปิด กฎของโรงแรมก็เริ่มเข้มงวดมากขึ้นมันเลยทำให้ผมถอยห่างออกมาไปโดยปริยาย เพราะถ้าเราขืนไปกินเหล้า ไปขี้เมา ไปคุยกับลูกค้าโดยที่มีกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ไป ภาพลักษณ์ของโรงแรมก็เสียด้วย

หลังจากนั้นผมก็เลยลุกขึ้นมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งครับ ผมเลยตัดสินใจหักดิบห่างอบายมุขเหล่านี้ไปเลย เพราะร่างกายเราแย่ ถ้าจะไปวิ่งแล้วไม่เลิกบุหรี่ ไม่เลิกเหล้า มันไปด้วยกันไม่ได้แน่ๆ

 • ‘วิ่ง’ เปลี่ยนชีวิต

ผมเลือกการ ‘วิ่ง’ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ลงทุนน้อยที่สุด แค่รองเท้าคู่เดียวเลือกที่เหมาะกับเท้า ไม่ต้องแพงมาก เสื้อคอกลมหนึ่งตัว กางเกงหนึ่งตัว วิ่งตามริมถนนหน้าบ้าน ตามตรอกซอกซอย ในสวนสาธารณะ ก็วิ่งได้แล้ว

ช่วงแรกๆ ที่เริ่มวิ่ง ผมวิ่งไปได้ระยะทางแค่ 100-200 เมตร ก็ไม่ไหวแล้ว มันเหนื่อยหอบมาก ขาไม่มีแรงเลย ไปวิ่งที่ไหนก็ไม่จบสักรายการ เพราะในตัวเรามีทั้งเชื้อเหล้า เชื้อบุหรี่ติดตัวเต็มไปหมด ก็เราเป็นคนขี้เหล้ามาก่อน ไปวิ่งกิโลเมตรเดียวมันก็ไม่ไหวแล้ว เทียบกับคนอื่นๆ ที่รุ่นเดียวกันกับผมตอนนั้นเขาก็วิ่งจบรายการ หน้าตาสดใส ร่างกายแข็งแรง ผมจึงอยากทำให้ได้บ้าง

แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากวิ่งเพราะผมเห็นเพื่อนที่เขาวิ่งกันได้เหรียญ ได้ถ้วยรางวัล ผมเลยคิดว่าสักวันเราจะต้องทำให้ได้บ้าง ตั้งแต่นั้นมาผมก็พยายามดูว่านักวิ่งแนวหน้าว่าเขาวิ่งกันยังไง เราก็ศึกษาหาข้อมูล ค่อยๆ ซ้อม ค่อยๆ ฝึกไปทีละหน่อย ไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากวิ่งทีละ 1-2 กิโลเมตร บวกกับลดละเลิกอบายมุขต่างๆ ร่างกายก็ดีขึ้น แต่ผมก็ต้องเวลาประมาณปีกว่าได้ครับกว่าที่จะล้างสารพิษเหล่านั้นออกมาได้

หลังจากนั้นผมเลยมาวิ่งมาราธอนทั่วไป โดยเริ่มจากมินิมาราธอน 10 กิโลเมตรก่อน ก็ใช้เวลาอยู่ 2-3 ปีเหมือนกันกว่าจะวิ่งทำเวลาและวิ่งจบการแข่งขันได้ จากนั้นก็ค่อยขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาวิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตร พอเข้าที่เข้าทางแล้วมีงานวิ่งที่ไหนทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ถ้ารายการวิ่งไหนน่าไป ใกล้ไกล ถ้าผมสะดวกก็จะไปหมด ตั้งแต่นั้นมาผมก็กลายเป็นคนติดวิ่งไปเลย

 • กีฬา ‘วิ่ง’ มีเสน่ห์อย่างไร

ผมมองว่ากีฬาวิ่งสนุกนะครับ ทำให้เราได้เห็นทิวทัศน์ตามข้างทางของแต่ละบ้านเมือง ถนนแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน อย่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัดก็จะต่างกัน และยิ่งพอผมได้มาวิ่ง ทำให้ผมมีเพื่อนในวงการวิ่งเยอะขึ้น ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งคนอายุน้อยกว่าก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้

 • จากวิ่งมาราธอน...สู่วิ่งแนวดิ่ง

ผมเริ่มวิ่งแนวดิ่งตอนอายุ 40 ปีปลายๆ เกือบจะ 50 ปีครับ เพราะด้วยที่ผมทำงานโรงแรม แล้วผมต้องดูแลพวกเซฟตี้ของโรงแรม ต้องเดินตรวจบันไดหนีไฟเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นหน้าที่หลักของด้านเซฟตี้ ซีเคียวริตี้เลย จากเดินขึ้นเดินลงเราก็เลยลองวิ่งดีกว่า สนุกดี เป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย อีกอย่างเราวิ่งมาราธอนมาทุกรายการ ลงมาหมดแล้ว ผมก็เลยอยากลองวิ่งแนวดิ่งดูบ้าง ก็เลยลองซ้อมดู

ผมได้ลงวิ่งแนวดิ่งที่แรกที่ตึกใบหยกครับ เพราะประเทศไทยวิ่งแนวดิ่งที่เป็นที่นิยมก็จะมีที่ตึกใบหยก กับโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ ครั้งแรกผมทำสถิติวิ่งขึ้นตึกใบหยก 84 ชั้น อยู่ที่ 16-17 นาทีครับ

หลังจากครั้งนั้นผมเลยคิดว่าการวิ่งแนวดิ่งเข้าท่าดีเหมือนกัน นอกจากลงวิ่งในประเทศไทยแล้ว ผมก็เริ่มไปวิ่งแนวดิ่งที่ต่างประเทศบ้าง ประเทศแรกก็จะเป็นที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก็ได้รางวัลมา ส่วนที่อื่นๆ ก็จะมีที่ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฝรั่งเศส ฯลฯ ครับ

 • เป็นนักวิ่งอาวุโสของไทยเพียงหนึ่งเดียวที่พิชิตหอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

วิ่งแนวดิ่งที่หอไอเฟลจะจัดขึ้นปีละครั้ง ครั้งนั้นเขารับแค่ 129 คน เขาจะเชิญนักวิ่งแนวดิ่งที่เป็นแนวหน้าจากทั่วโลกไป ผมก็เลยสมัครและส่งประวัติ ส่งรูปถ้วยรางวัลให้ทางออแกไนเซอร์เขาดูว่าผมวิ่งมาหลายที่นะ เอาเว็บไซต์ให้เขาไปเช็ก ไปสอบถามได้เลยว่าเราผ่านการวิ่งมาจริงๆ หลังจากนั้นผมก็ได้สิทธิพิเศษ Wild card ได้เป็น 1 ใน 129 คนจากทั่วโลกที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน วิ่งขึ้นหอไอเฟล (Eiffel Tower Vertical Run 2018) และพอไปวิ่งผมทำเวลาได้ที่ 15.11 นาทีครับ ครั้งนั้นถือได้ว่าเป็นครั้งที่ผมภูมิใจมากครั้งหนึ่ง เพราะว่าผมได้เป็นนักวิ่งที่อายุมากที่สุดในงาน และเป็นตัวแทนคนไทยที่ได้ไปถือธงชาติไทยอยู่หน้าหอไอเฟลครับ

 • เป้าหมายการวิ่งต่อไปหลังจากนี้

ผมจะวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ครับ ยังมีอีกหลายรายการที่ผมยังอยากไปวิ่ง อย่างวิ่งแนวดิ่งก็ยังมีอีก 10 กว่าประเทศ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไปเก็บให้ครบและไปให้หมด ก็จะวิ่งจนกว่าร่างกายยังไหว ตอนนี้ผมอายุ 67 ปี ผมยังมองว่าตัวเองแข็งแรงอยู่ ผมจะตรวจร่างกาย ตรวจมะเร็งทุกปี ก็ปกติดีครับ แถมผมยังบริจาคเลือดเป็นประจำ ตอนนี้ก็บริจาคไป 80 กว่าครั้งแล้วครับ (ยิ้ม)

 • ถ้าอยากเริ่มต้นวิ่งบ้าง ต้องทำอย่างไร

ถ้าอยากเริ่มวิ่งต้องค่อยๆ ซ้อม ออกไปวิ่งช้าๆ ทีละ 1-2 กิโลเมตรก่อน ค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปรีบ อย่าหักโหม เพราะถ้าไม่ซ้อมแล้วออกไปวิ่งเลยปรากฏว่าบาดเจ็บ จะพานทำให้เลิกวิ่งและเกลียดการวิ่งไป

ผมมองว่าทุกคนมีโอกาสออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายได้กับตัวเอง มีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสียเลย มันทำให้เลือดลมไหลเวียนดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ใครที่อยากออกกำลังกาย จริงๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องวิ่งก็ได้ ใครชอบกีฬาอะไรก็สามารถทำได้ ทำเถอะครับ การออกกำลังกายดีจริงๆ ครับ







เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : พลภัทร วรรณดี



กำลังโหลดความคิดเห็น