xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมเป็นประจำเดือนแล้วต้องปวดท้อง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แน่นอนว่าผู้หญิงหลายคนคงต้องประสบปัญหาในภาวะปวดท้องประจำเดือน จนแทบอยากจะตัดมดลูกทิ้งไปเลย แต่ขณะเดียวกัน ในภาวะดังกล่าวนี้ก็ยังมีอาการ “ท้องเสีย” มาผสมอยู่ด้วย หลายคนก็มีความสงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ว่าแล้วก็ไปหาคำตอบโดยพร้อมกันดีกว่า

เพราะอะไรผู้หญิงหลายคนถึงมีอาการท้องเสียในช่วงประจำเดือน

ถ้าใครเคยเรียนวิชาสุขศึกษาที่ว่าด้วยช่วงที่ผู้หญิงใกล้หรือมีประจำเดือนนั้น จะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัดเจน ทั้งสามารถที่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น ขนาดของหน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น มีสิวบริเวณใบหน้า หรือที่เปลี่ยนแปลงแบบไม่เห็น ก็จะเป็นในเรื่องของอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้มาจากฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ที่ส่งผลในเรื่องสุขภาพโดยรวมของคุณผู้หญิง ในเรื่องของภูมิต้านทานน้อยลงส่งผลให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการเป็นหวัด ติดเชื้อในอวัยวะภายในง่ายขึ้น หรือมีไข้ และส่งผลต่อระบบย่อยอาหารจนทำให้เกิดอาการท้องเสียได้

อาการท้องเสียในช่วงดังกล่าวนั้นก็มาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับระดับฮอร์โมนเซโรโทนินที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวได้ แต่ส่วนใหญ่อาการไม่น่าเป็นห่วง เพราะว่าอาการที่ว่าจะหายไปหลังจากมีประจำเดือนไปได้ 1-3 วัน

วิธีป้องกันในช่วงมีประจำเดือน

เมื่อระบบการย่อยอาหารทำงานไม่เต็มที่ แนะนำว่าควรงดอาหารที่รบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร หรือช่วยให้ร่างกายทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยการงดอาหารที่ทำให้เสาะท้องได้ง่าย เช่น อาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด เผ็ดจัด มันจัด ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวรุนแรง เช่น มะม่วงเปรี้ยว มะขาม มะดัน เครื่องดื่มจำพวกนม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ยังช่วยลดอาการท้องเสียระหว่างมีประจำเดือนได้ ดังนั้น แนะนำว่าควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากเรื่องท้องเสียแล้วจะช่วยในเรื่องของร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ลดอาการเสี่ยงในการเป็นไข้ทับระดู และยังช่วยลดอาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือนได้อีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น