xs
xsm
sm
md
lg

รู้ก่อนสาย “มะเร็งจอประสาทตา” มัจจุราชเงียบในเด็กเล็ก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สืบเนื่องจากคลิปความน่ารักน่าชังของเด็กน้อยเล่นมุกจนแชร์และส่งต่อ ทำให้เราได้ตระหนักถึงโรคมะเร็งจอประสาทตาที่ปรากฏออกมาในลักษณะแสงสะท้อนจากสองตาที่ไม่เท่ากัน เพราะการที่แสงสะท้อนสองข้างไม่เท่ากันอาจเป็นอาการของโรคบางอย่างของประสาทตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งจอประสาทตาที่มักพบได้ในเด็กและสามารถลุกลามอย่างรวดเร็วโดยไม่ตรวจเจอได้ยาก อันนำไปสู่การเสียชีวิตในระยะเวลาเพียง 1-2 ปี เท่านั้น

จากการที่เพจ Drama-addict ได้ออกมาให้ความรู้และให้เราตระหนักในเรื่องนี้ แม้ว่าหมอจักษุแพทย์ในต่างประเทศได้พัฒนาแอป iOS ขึ้นมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองนำไปทดลองใช้เพื่อตรวจตาบุตรหลานเบื้องต้นว่ามีแสงสะท้อนผิดปรกติหรือไม่ อย่างไรก็ตามนอกจากงนี้เราจึงควรที่จะมีความรู้ในเรื่องของตัวโรคนี้เพื่อการป้องกันและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

โรคมะเร็งจอตาในเด็ก (Retinoblastoma) พบได้ในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี โดยสัดส่วนอยู่ที่ 1 ต่อ 18,000 - 20,000 ขณะที่เพศหญิงและเพศชายพบได้ใกล้เคียงปริมาณเท่าๆ กัน อาจจะเป็นในตาข้างเดียวหรือพร้อมกัน 2 ตา โดยที่ไม่ได้เป็นการกระจายจากตาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง และอาจพบที่ต่อมไพเนียล ซึ่งเป็นต่อมอยู่ภายในใจกลางสมองร่วมด้วย สามารถแบ่งชนิดตามการเกิดได้เป็น 2 กลุ่ม

1. ชนิดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปยังลูกหลานได้ถึงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วย โดยสามารถเป็นได้ทั้งสองตาและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในอวัยวะอื่นๆ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยที่ตรวจพบและวินิจฉัยโรคได้ค่อนข้างเร็ว คือประมาณ 12 เดือน
2. ชนิดที่ไม่ถ่ายทอดไปยังลูกหลาน พบได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยมักพบเป็นในตาเพียงข้างเดียวหรือตำแหน่งเดียวในจอตา
นอกจากนี้ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งที่อวัยวะอื่นจะน้อยกว่าชนิดแรก อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยที่ตรวจพบและวินิจฉัยโรคมักจะช้ากว่าชนิดแรก คือ ประมาณ 24 เดือน

โดยทั้งนี้ที่ลักษณะการเจริญของก้อนมะเร็ง มี 2 แบบ 
1.ก้อนมะเร็งทะลุผ่านชั้นจอตาเข้าไปภายในวุ้นตา ลักษณะที่ตรวจพบเป็นก้อนเนื้อสีขาว และอาจพบมีการกระจายของเซลล์มะเร็งสีขาวๆ อยู่ในวุ้นตา
2. ก้อนมะเร็งเจริญอยู่ภายในชั้นจอตาหรือใต้ต่อจอตา ทำให้จอตาลอก ลักษณะที่ตรวจพบเป็นก้อนเนื้อสีขาวและจอตาคลุมไว้ ถ้าก้อนเจริญเติบโตเร็ว อาจพบหินปูนภายในก้อนเป็นสีขาวคล้ายชอล์คถ้าก้อนมะเร็งเกิดขึ้นบริเวณจุดภาพชัด จะทำให้ระดับการมองเห็นลดลงมาก อาจทำให้เกิดภาวะตาเหล่ในเด็กได้ เด็กที่ตาเหล่ทุกรายจึงต้องได้รับการขยายรูม่านตาตรวจจอตา เพื่อคัดกรองภาวะมะเร็งจอตา

อาการแสดงที่บ่งชี้โรคมะเร็งจอตาในเด็ก
1.การตรวจพบรูม่านตาเป็นสีขาว ซึ่งเกิดจากแสงที่สะท้อนจากก้อนมะเร็งจอตา เป็นอาการนำที่พบบ่อยที่สุด โดยพบถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยจะมีลักษณะตาวาว สีขาวๆ กลางตาดำ

2.ภาวะตาเหล่พบได้เป็นอันดับรองลงมา ประมาณ 20 - 30 เปอร์เซ็นต์

3.ตาอักเสบตาแดง ม่านตา 2 ข้างสีไม่เหมือนกัน เกิดจากการที่มีหลอดเลือดฝอยมากผิดปกติที่ม่านตา หรือมีเลือดออกในช่องหน้าม่านตา หรือต้อหิน เป็นต้น

4.ปวดตาและมีการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบๆลูกตา

5.อาการอื่นๆ ในรายที่มีการกระจายของมะเร็งไปนอกลูกตา เช่น ตาโปน เนื่องจากก้อนมะเร็งลามออกมาในเบ้าตา ผู้ป่วยที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปที่สมองอาจมีอาการ ชัก หรือแขน ขาอ่อนแรง หากมีการกระจายไปที่กระดูก อาจคลำก้อนได้ที่ศีรษะหรือลำตัว ถ้ามีการกระจายไปที่ตับอาจคลำก้อนได้ในช่องท้อง เป็นต้น

6.ลูกตาฝ่อ แม้ว่าพบได้น้อยเกิดจากการที่ก้อนมะเร็งโตเร็วทำให้ขาดเลือดมาเลี้ยงที่ก้อนและเมื่อเซลล์มะเร็งตายจะปล่อยสารที่ทำให้เกิดการอักเสบเป็นผลให้ลูกตาฝ่อ
ขอบคุณข้อมูล : ภาควิชาจักษุวิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศ.พญ.ละอองศรี อัชชะนียะสกุล



กำลังโหลดความคิดเห็น