xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยง! สารพัดโรค ถ้ายังบริโภคไขมันทรานส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากกรณีข่าวที่ ไขมันทรานส์ (Trans Fat) จะถูกห้ามผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทย มีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือภายในเดือน ม.ค. 62 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในราชกิจจานุเบกษา นับจากวันที่ 11 ก.ค. 61 นั้น เรามาทำความรู้จักไขมันชนิดนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า

ไขมันทรานส์ (Trans Fat) จัดเป็นกลุ่มไขมันในกลุ่มไขมันอิ่มตัว เป็นชนิดไขมันที่จะเข้าไปเปลี่ยนไขมันไม่อิ่มตัวให้กลายเป็นไขมันอิ่มตัว ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มากๆ จะส่งผลให้ระดับ “ไขมันเลว” (LDL) ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และ “ไขมันชนิดดี” (HDL) ลดลง จึงมีผลทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาสารพัด ดังนี้

ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

1.โรคอ้วน

เพราะ ไขมันทรานส์ เป็นไขมันที่ย่อยได้ยากกว่าไขมันชนิดอื่น ทำให้ตับต้องใช้วิธีสลายไขมันชนิดนี้ด้วยวิธีต่างจากปกติ จึงก่อให้เกิดความผิดปกติ คือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไขมันส่วนเกินมากขึ้นนั่นเอง

2.โรคหลอดเลือดหัวใจ

เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด อีกทั้งยังติดอันดับ 1 ใน 4 การเสียชีวิตของประชาชนเกือบทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย โรคนี้เกิดจากการมีไขมันจับที่ผนังของหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้น การรับประทานอาหารไม่มีประโยชน์และอาหารที่มีไขมันสูงก็ทำให้เสี่ยงต่อโรคนี้ได้

3.โรคเส้นเลือดอุดตันในสมอง

ไขมันทรานส์ เพิ่มความเสี่ยงภาวะสมองขาดเลือด เส้นเลือดอุดตันทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่สะดวก และอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้

4.ความดันโลหิตสูง

เป็นภาวะความดันเลือดภายในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติตลอดเวลา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน โซเดียมสูงจนเกินไป และการบริโภคไขมันก็มีส่วนเป็นเหตุให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงตามมาได้ ทางที่ดีควรหันมารับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ธัญพืช ปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่ดีต่อร่างกายแทน

5.โรคเบาหวาน

ไขมันทรานส์ ส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และอาจนำไปสู่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้

6.โรคซึมเศร้า

รู้หรือไม่ว่าการรับประทานไขมันทรานส์ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ มีงานศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยสเปนได้ตีพิมพ์ในห้องสมุดแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกล่าวไว้ว่าไขมันทรานส์มีส่วนทำให้เกิดอาการของโรคซึมเศร้าได้ โดยจากการเก็บข้อมูลของนักศึกษาจำนวน 12,059 คน เป็นเวลา 6 ปี มีรายงานว่านักศึกษาจำนวน 657 คนเกิดอาการของโรคซึมเศร้าชนิดใหม่ขึ้นมา และงานวิจัยชิ้นนี้ยังพบว่าการกินไขมันทรานส์มากๆ มีแนวโน้มจะเกิดอาการซึมเศร้าได้ง่าย

7.โรคอัลไซเมอร์

มีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่าคนที่มีระดับไขมันทรานส์ในเลือดสูงจะมีขนาดของสมองที่เล็กกว่าคนทั่วไป และการที่สมองหดเล็กลงนั้นถือเป็นอาการหนึ่งของโรคอัลไซเมอร์อย่างหนึ่ง ซึ่งการรับประทานอาหารที่กรดไขมันโอเมกา-3 สามารถช่วยป้องกันโรคดังกล่าวได้

8.โรคจอประสาทตาเสื่อม

เพราะไขมันสามารถเข้าไปอุดและสะสมที่หลอดเลือดที่เอาไว้เลี้ยงจอประสาทตา จึงทำให้สายตาแย่ลงได้

นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก ถุงน้ำดีอักเสบ โรคมะเร็ง เป็นต้น

ไขมันทรานส์ (Trans Fat) พบได้ในอาหารประเภทไหน

สามารถพบได้มากในอาหารทอด ขนมขบเคี้ยว และมักใช้ในการทำอาหารและขนมของคนตะวันตก เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป คุกกี้ แครกเกอร์ โดนัท เฟรนช์ฟราย พิซซา ไก่ทอด ป็อปคอร์น ลูกชิ้นทอด ขนมปัง ตลอดจนส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เบเกอรีอย่างมาการีน เนยขาว ครีมเทียม เป็นต้น

วิธีห่างไกล ไขมันทรานส์ (Trans Fat)

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ อาหารที่ปรุงด้วยเนยเหลว เนยขาวหรือมาการีน
2. ตรวจสอบข้อมูลโภชนาการและส่วนผสมที่ฉลากบรรจุภัณฑ์ทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารนั้นปราศจากไขมันทรานส์
3.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่ปราศจากไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน เป็นต้น
4.เลือกรับประทานไขมันชนิดดีแทน เช่น ปลาทะเลน้ำลึก อัลมอนด์ อะโวคาโด ฯลฯ เพราะไขมันชนิดดีจะช่วยทำหน้าที่ในการขจัดคอเลสเตอรอล หรือไขมันชนิดไม่ดีที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือด โดยจะขับออกจากร่างกายผ่านตับ และน้ำดีนั่นเอง
5.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 30-60 นาที 
ข้อมูลประกอบ :
www.honestdocs.co
www.pobpad.com
healthfitnessrevolution
hellokhunmor.com



กำลังโหลดความคิดเห็น