xs
xsm
sm
md
lg

เช็กก่อนใช้! อันตรายของ “ถุงน่องขาเรียว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใครๆ ก็อยากเป็นที่สนใจและสะดุดตา รวมไปถึงขึ้นชื่อว่า “สวย” ด้วยกันทั้งนั้น ส่งผลให้หลายต่อหลายคนสรรหากรรมวิธีทางลัดเพื่อก้าวขึ้นสู่จุดนั้น ทว่าบางครั้งก็กลายเป็นดั่งมัจจุราชเงียบที่บั่นทอนทำลายสุขภาพร่างกายทั้งภายในและภายนอก
 
อย่างเช่นกรณี ถุงนองขาเรียว ที่ช่วยให้ต้นขาใหญ่ๆ เรียวเล็กเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุยกับหมอจิ๋ม” ได้ออกมาเตือนถึงภัยร้ายสำหรับถุงน่องหรือกางเกงพรางหุ่น (สแปงกี้ส์) มากถึง 12 ข้อด้วยกัน ดังนี้

1. กดเส้นเลือด เส้นประสาท

เสื้อผ้ารัดรูปอาจกดเส้นเลือด เส้นประสาท ทำให้รู้สึกชาแถวสะโพก น่อง ทำให้ขาและเท้าสองข้างบวม หากถอดออกไม่สวมอีก อาการก็มักจะดีขึ้น โดยมีรายงานทางการแพทย์ถึงกรณีผู้หญิงสวมกางเกงสกินนีนาน 4 ชั่วโมง ส่งผลให้รู้สึกชาที่ขา แต่ก็อดทน จนล้มลงเพราะเดินไม่ได้ ต้องนอนโรงพยาบาล เนื่องจากน่องทั้งสองข้างบวมเป่งและมีเลือดคั่งจากการกดการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดคั่งที่น่อง ส่วนในกรณีอื่นๆ ที่ต้องระวังคือในเด็กวัยที่พูดหรือสื่อสารไม่ชัดเจน มีรายงานว่าการสวมเสื้อผ้าคับๆ กางเกงคับๆ หรือใช้ผ้าพันให้ความอบอุ่นแน่นเกินไป ส่งผลให้แขนขาอาจขาดเลือด ถึงกับต้องตัดทิ้งทีเดียว

2. ติดเชื้อรา

หากสวมเสื้อผ้ารัดรูปนานๆ จะเพิ่มความอับชื้น เกิดการติดเชื้อรา ทำให้มีอาการคัน แสบ ขึ้นผื่นเป็นเชื้อราตามผิวหนัง ใต้ราวนม หน้าท้อง ขาหนีบ และจุดซ่อนเร้นตามมา

3. เป็นฝีที่ผิวหนังอวัยวะเพศ หัวหน่าวและก้น

พบได้มากในคนที่สวมเสื้อผ้าคับนานๆ บางอาชีพที่ต้องสวมกางเกงนั่งนานๆ ท่ามกลางอากาศร้อน อับ ชื้น เช่น อาชีพขายกล้วยทอด พนักงานเก็บตั๋ว นั่งรถทางไกล ฯลฯ ก็เป็นฝีที่ในส่วนสงวนได้บ่อย

4. ผื่นแพ้

ร่างกายคนเราหากมีอะไรรัดไว้แน่นหรือถูแรงๆ ทำให้เม็ดเลือดขาว (Mast Cell) ปล่อยสารฮิสตามีนออกมา ทำให้เกิดผื่นแดง ผื่นลมพิษ มีอาการคัน แสบ เจ็บ ในบริเวณที่ถูกรัดได้

5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

การสวมกางเกงรัดและคับทำให้เชื้อโรคจากทวารหนักหรือจากช่องคลอดปนเปื้อนในรูปัสสาวะ ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ในบางรายที่ภูมิต้านทานไม่ดี หรือกำลังตั้งครรภ์ จากอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจกลายเป็นกรวยไตอักเสบ ซึ่งมีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

6. ปวดหลัง

การสวมเสื้อผ้ารัด ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายไม่สะดวกหลังเกร็ง กระดูกหลังไม่สามารถเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ เกิดอาการปวดหลังได้

7. ปวดท้อง

เป็นผลจากการกดหรือรัดของกางเกงจนส่งผลให้อวัยวะภายใน เช่น กระเพาะอาหารและลำไส้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ เกิดอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน ท้องผูก และปวดท้อง

8. ปวดประจำเดือน

ในรายที่สวมกางเกงรัดมากขณะเป็นประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนไหลไม่สะดวก ส่งผลให้มดลูกบีบตัวแรงขึ้น ทำให้ปวดประจำเดือน หรือประจำเดือนมากะปริดกะปรอยได้

9. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์

การไหลออกไม่สะดวกของประจำเดือน จากการสวมเสื้อผ้ารัด อาจทำให้ประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก ท่อนำไข่หรืออวัยวะในอุ้งเชิงกราน เกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตชีสต์ ทำให้ปวดประจำเดือนมีลูกยาก

10. เป็นลม

ในเมืองที่มีอากาศร้อนอย่างบ้านเรา การสวมเสื้อผ้าคับจนเลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เป็นลมหมดสติได้ เวลามีคนเป็นลม อันดับแรกในการปฐมพยาบาล คือ คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก

11. ปวดกล้ามเนื้อ ปวดชายโครง

เคยเจอผู้หญิงหลายคนมาหาด้วยเรื่องปวดชายโครง เวลาหายใจเสียวชายโครงมาก เมื่อตรวจพบว่าเธอสวมชุดชั้นในที่โฆษณาว่าช่วยลดน้ำหนัก การรัดมากๆ เช่นนั้นทำให้ชายโครงอักเสบ บางคนเจ็บบริเวณใต้เต้านม ไหล่ และศีรษะอีกด้วย

12. เกิดภาวะฉุกเฉิน

การสวมเสื้อผ้ารัดนั้น หากเกิดอุบัติเหตุ เช่น ตกน้ำ ไฟดูด มีบาดแผล ฯลฯ จะเป็นอันตรายกว่าการสวมใส่ธรรมดา เพราะการเคลื่อนไหวหรือช่วยตนเองไม่สะดวกทั้งเวลาเปียก โดนน้ำ เสื้อผ้าเหล่านี้จะยิ่งรัดมากขึ้นทำให้ถอดออกได้ยาก



กำลังโหลดความคิดเห็น